บันเทิง

สรุปภารกิจ 'โตโน่' ว่ายน้ำข้ามโขง ไทย-ลาว 'บิ๊กตู่-อนุทิน' ชื่นชม ยอดบริจาคพุ่ง 63 ล้าน

โดย passamon_a

23 ต.ค. 2565

293 views

สรุปภารกิจ 'โตโน่' ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ว่ายน้ำข้ามโขง ระดมเงินจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ภายใต้ชื่อกิจกรรม One Man And The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ 'ประยุทธ์-อนุทิน' ชื่นชม ล่าสุดยอดบริจาคพุ่ง 63 ล้านบาท


บรรยากาศ ลงว่ายน้ำจริง เมื่อวันที่ 22 ต.ค.65 หลังจากเสร็จพิธีบวงสรวงแล้ว พระอาจารย์เทพนรินทร์ ชินรังษี เจ้าอาวาสวัดเทพนรินทธราราม และพระสงฆ์ 9 รูป สวดชยันโดเป็นขวัญกำลังใจให้กับโตโน่ และทีมงาน ก่อนที่พระอาจารย์เทพนรินทร์ จะถอดสร้อยพญานาคที่สวมคอไว้ ซึ่งทำจากหยก และผ่านการปลุกเสกที่คำชะโนด มอบให้โตโน่ นำไปสวมใส่ โดยพระอาจารย์ระบุว่า แต่แรกไม่คิดจะมอบให้ใคร เก็บไว้ตลอด 15 ปี จนตั้งใจจะนำมามอบให้โตโน่ เพราะคิดว่าเหมาะสมจะเป็นเจ้าของที่แท้จริง


ก่อนว่ายน้ำ โตโน่ได้ไปกราบขอพร คุณแม่น้อย แม่ของโตโน่ แม่ให้พรขอให้ประสบความสำเร็จ จากนั้นเวลา 10.19 น. โตโน่ได้ทำการลงว่ายน้ำพร้อมอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ก็คือ บุย เซฟตี้ หรือ ทุ่นชูชีพที่คาดติดเอว นอกจากนี้ยังมีทีมที่ซัพพอร์ตประกอบไปด้วย คนที่ลงน้ำพร้อมโตโน่ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ว่ายน้ำ 4 คน แต่ละคนจะไปว่ายร่วมกัน โดยมีโตโน่ เป็นคนว่ายนำ ขยับออกมาจะมีเรือคายัคอีก 4 ลำคอยช่วยเหลือด้วย และมีเจ็ทสกีอีก 7 คัน ที่คอยแสตนบาย ซึ่งทั้งหมดจะเป็นทีมงานของโตโน่


ส่วนของจังหวัด จะมีเรือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเรือใหญ่ของจังหวัดนครพนมคอยดูภาพรวมอีก นอกจากนี้ยังมีชมรมนกเป็ดน้ำนครพนม ประมาณ 50 คน ร่วมว่ายออกตัวไปด้วย


โดยทำการว่ายไปพัก 2 จุด คือวัดกลาง จุดนี้ระยะทาง 800 เมตร โตโน่ทำเวลา จากลานพญาสัตตนาคราช-วัดกลางนครพนม ใช้เวลา 12 นาที จากวัดกลางนครพนม-ศาลาแสงสิงแก้ว ใช้เวลา 9 นาที จากศาลาแสงสิงแก้ว-ฝั่ง สปป.ลาว ใช้เวลา 60 นาที รวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 21 นาที  


ช่วงที่ขึ้นฝั่งมาทำกิจกรรม ก็มีร้องเพลงกับวงดนตรีของตนเองที่มารอต้อนรับ ไหว้พระในโบสถ์วัดกลาง จากนั้นก็ว่ายน้ำต่อไปที่ศาลาแสงสิงแก้ว ขึ้นมาถึงฝั่งก็เก็บขยะ และเดินมาพบกับประชาชนร่วมบริจาค


ช่วงเช้า กระแสน้ำค่อนข้างที่เป็นใจมาก เพราะกระแสน้ำไม่ได้แรงอย่างที่คิด รวมถึงยังมีน้ำช่วยดันให้การว่ายไปได้ค่อนข้างที่จะเร็วกว่าปกติ จากนั้นจุดไฮไลท์ เส้นทางตัดไปที่ฝั่ง สปป.ลาว จุดที่หลายคนเป็นห่วง แต่โตโน่ก็ว่ายผ่านไปได้ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษ ๆ ก็สามารถว่ายไปยังที่วัดพระธาตุศรีโคดตะบอง สปป.ลาว ในเวลา 12.10 น. โดยมีประชาชนชาวลาวหลายร้อยคนรอให้การต้อนรับอย่างล้นหลาม


หลังจากนั้นเวลา 12.35 น. โตโน่ก็ได้ทำการเปลี่ยนชุดเพื่อทำพิธีบายศรีที่ทางประเทศลาวจัดเตรียมไว้ให้ จากนั้นจะทำกิจกรรมที่ สปป.ลาว ทั้งรับบริจาค และถ่ายรูป กับผู้สนับสนุนฝั่ง สปป.ลาว แล้วเดินทางไป โรงพยาบาลแขวงคำม่วน และจากนั้นจะเข้าพักที่โรงแรมริเวอร์เรีย ทานข้าว พักผ่อน แล้วจะเดินทางไปหาดบ้านนาเมือง ในเวลา 15.30 น.


หลังจากนั้นโตโน่ก็ขึ้นเวทีทำกิจกรรมกับพี่น้อง สปป.ลาว โตโน่ ได้ทักทายสวัสดีกับพี่น้องชาวลาวว่า อยากเห็นคนไทยคนลาวรักกันมีน้ำใจต่อกัน ขอและรู้สึกดีใจที่ได้เจอกับผู้อำนวยการและคณะแพทย์ของ รพ.แขวงคำม่วน ที่มาช่วยกัน ซึ่งตนเองไม่ใช่พระเอก โครงการนี้ตนเองซ้อมแค่เหนื่อยแค่เดือนเดียว


แต่ทีมหมอพยายาลต้องดูแลทุกคน ซึ่งขอให้เงินบริจาคทั้งหมดครั้งนี้เป็นกำลังใจให้หมอและพยาบาล พร้อมกล่าวว่า ตอนที่ว่ายน้ำใกล้ถึงฝั่งลาวแว่นตาถูกไอร้อนทำให้มองไม่เห็นแต่ได้ยินเสียงดังมาก พอถึงฝั่งก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าจะมีพี่น้องชาวลาวมารอให้กำลังใจมากขนาดนี้ เห็นแล้วก็รู้สึกชื่นใจมาก จากนี้ก็จะได้พักและเตรียมว่ายน้ำกลับบ้านที่ไทย แต่ที่ลาวก็เหมือนเป็นบ้านสัญญาว่าจะกลับมาอีก


จากนั้นโตโน่ได้ร้องเพลง ฮักเจ้าจนตาย เพื่อมอบให้กับทุกคน ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงมาจากภาพยนตร์เรื่อง ส่มภัคเสี่ยน โดยมีนางรำมาร่วมรำขณะที่ร้องเพลงด้วยโดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น


ทั้งนี้ ยอดบริจาคจากที่ได้จากฝั่ง สปป.ลาว เป็นจำนวน 243 ล้านกีบ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 540,000 กว่าบาท


ช่วงบ่ายหลังจากทำกิจกรรมที่ สปป.ลาว แล้ว เวลา 15.30 น. โตโน่ ภาคิน ว่ายน้ำออกจากหาดบ้านนาเมือง ในฝั่ง สปป.ลาว เพื่อข้ามกลับสู่ลานพญาศรีสัตตนาคราช โดยชาวบ้านบางส่วนนำเงินกีบทำเป็นพวงมาลัยมาคล้องคอให้กับโตโน่ด้วย เพื่อร่วมสมทบทุนในโครงการนี้ จากนั้นโตโน่ได้เริ่มลอยน้ำหรือว่ายน้ำออกจากท่าน้ำหาดบ้านนาเมืองมุ่งหน้ากลับไทย โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที ในระยะทาง 6 กิโลเมตร ก่อนจะถึงฝั่งไทยในเวลาประมาณ 17.05 น. รวมเวลาทำกิจกรรมไปและกลับ 8 ชั่วโมง


บรรยากาศช่วงนี้ มีประชาชนที่มาเฝ้ารอการว่ายกลับถึงฝั่งไทยจำนวนมาก ประชาชนมานั่งรอที่ท่าน้ำริมโขงตั้งแต่ช่วงบ่าย เป็นต้นมา เมื่อเริ่มเห็นขบวนเรือที่นำขบวนมา ก็ต่างพากันโห่ร้องและปรบมือด้วยความดีใจ


โดยโตโน่ว่ายกลับมาขึ้นฝั่งที่ไทย ตรงจุดที่ลงไปว่ายน้ำ เมื่อว่ายมาถึง ก็มีท่าทางอ่อนเพลีย และมีลักษณะคล้ายเจ็บขา ทีมงานพยุงขึ้นจากน้ำ แล้วเดินมาขึ้นมาที่บันได ช่วงนี้ชาวบ้านที่มารอรับก็ตะโกน โตโน่สุดยอด และส่งเสียงปรบมือ เสียงกรี๊ด ให้กำลังใจเป็นระยะ


และมีคุณแม่น้อย สุดลมโชย แม่ของโตโน่ คุณต้องตา น้องสาว และแฟนสาว น้องณิชา มารอ และเข้าสวมกอดแสดงความยินดี โดยโตโน่ มีสภาพอิดโรย ต้องให้ทีมงานประคองไหล่ขึ้นมา ก่อนจะกล่าวสั้น ๆ ว่า "ไม่ใช่ตนที่ทำสำเร็จ แต่เป็นเราทุกคนที่ทำสำเร็จ"


จากนั้นคุณแม่ก็ได้ล้างหน้า ล้างตัวให้ และนำผ้าขนหนูมาให้ และเปลี่ยนใส่เสื้อคลุม จากนั้นก็เดินจากท่าน้ำมาขึ้นเวทีกิจกรรม ระหว่างทางประชาชนโห่ร้อง แสดงความดีใจและยินดีกับโตโน่ และคณะที่ทำสำเร็จ


เมื่อโตโน่ขึ้นเวที เปิดใจถึงความรู้สึกต่อการทำกิจกรรมนี้ว่า "อยากขอบคุณชาวไทยและชาวลาวทุกคน ไม่ใช่ผมที่ทำสำเร็จ แต่เป็นเราที่ทำสำเร็จ วันนี้ไม่ว่าจะคนไทยหรือลาว เห็นหรือไม่ นครพนม ท่าแขก น่ามาเที่ยวเหลือเกิน ขอบคุณทุกหน่วยงาน ผู้ใหญ่ทุกคนที่ช่วยกัน ผมว่าทุกเรื่อง ถ้าเรารักและสามัคคี ช่วยเหลือกันลงมือทำ ใครทำอะไรได้แล้วช่วยตรงนั้น บ้านเราจะสวยงาม ขอให้คนไทยและลาวรักกันไปนาน ๆ ตามที่เรามีความเชื่อและศรัทธา แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำสำคัญ ถ้าเราดูแลตั้งแต่ต้นทาง ทะเลที่เป็นปลายทางก็ไม่มีปัญหา"


จากนั้นก็มีการเชิญทีมเซฟตี้ ครูว่ายน้ำ และทีมเรือคายัค ขึ้นมาบนเวทีทั้งหมด พูดความในใจ โดย ครูชาติ เแชมป์ว่ายน้ำโขง ปี 36 กล่าวว่า ผมในนามกองทัพเรือ ขอขอบคุณ ดีใจที่มาช่วย ส่วน ครู คนใส่แว่นดำ เป็นเหมือนเข็มทิศให้โตโน่ เพราะระหว่างว่ายน้ำ จึงไม่เห็นบนบกว่ามีอะไรยังไงบ้าง กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้มามีโอกาสร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ ไม่คิดว่าจะได้เงินบริจาคมากมายขนาดนี้ ก่อนที่จะมาว่ายน้ำ วันนี้ ก็ไม่สบายนอนรักษาตัวใน รพ. 2 คืน เมื่อถึงวันงาน ก็ต้องมาให้ได้ ซึ่งโตโน่ ไม่ได้จ้าง ผมมาเอง และผมก็ยังร่วมบริจาคด้วย


ในทีมว่ายน้ำนี้ พบว่ามีผู้หญิง 1 คน ร่วมว่ายด้วย คือ ครูผึ้ง ครูสอนว่ายน้ำ กล่าวว่า ตอนแรกโตโน่บอกว่าให้มาสอนว่ายน้ำ ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาว่ายน้ำกับเขา ความในใจที่มีกับโตโน่ โตโน่รู้ว่าพวกเรารู้สึกยังไงกับทีมเข้าใจกันมากแต่ว่าอยากจะขอบคุณทุกคนทั้งหมดพี่ช่วยเหลือ ไม่ได้คาดหวังมาถึงวันนี้และตกใจมากกับยอดบริจาค


จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้บินด่วนมาที่จังหวัดนครพนม เพื่อให้ขวัญกำลังใจกับโตโน่ โดยขึ้นเวที พร้อมสวมกอดแสดงความยินดีกับโตโน่ และกล่าวว่า เราทุกคนปลื้มปิติที่ได้เห็นวีรบุรุษได้ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศ เมื่อเช้าทราบว่าโตโน่และทีมงาน ได้ให้การช่วยเหลือกับโรงพยาบาล สิ่งเหล่านี้จะทำให้คนไทยมีความสุข เพราะที่สุดแล้วพวกเราไม่ได้เกลียดและแตกความสามัคคีกันเลย เมื่อนึกถึงเพื่อนร่วมชาติก็พร้อมสละสิ่งที่มีอยู่เพื่อช่วยเหลือ


ยืนยันว่าโรงพยาบาลนครพนมจะได้รับเงินช่วยเหลือก้อนนี้ในนามของโตโน่แทนคนไทยทั้งประเทศ โดยตนมาในฐานะตัวแทนของโรงพยาบาล ขอบคุณประชาชนทุกท่านสองริมฝั่งโขง ขอแสดงความคารวะศรัทธาในนามของรัฐบาลและประชาชน ขอให้โตโน่เป็นตัวแทนการทำความดีต่อคนรุ่นหลังต่อไป


จากนั้น นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่โตโน่ ทำไม่ใช่เพียงแค่โรงพยาบาลนครพนมเท่านั้น แต่ยังทำเพื่อประเทศเพื่อนบ้านด้วย นอกจากนี้ที่โรงพยาบาลนครพนมก็ไม่ใช่เพียงแค่คนไทยมาใช้บริการเท่านั้น แต่ยังมีเพื่อนบ้านชาวลาวมาใช้บริการด้วย ดังนั้นเงินที่ได้มาจากการทำกิจกรรมในครั้งนี้ก็จะทำมาใช้จ่ายซื้ออุปกรณ์เข้ามาใช้งานได้มากขึ้น ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่ขาดแคลนงบประมาณ มีงบประมาณเพียงพอ และเห็นความสำคัญเรื่อง การบริการด้านสาธารณสุข แต่เป็นแรงศรัทธาของ โตโน่ เราไม่ขัดศรัทธา สำคัญเป็นการแสดงออกถึงน้ำใจไมตรี ความรักสามัคคีของชาวไทยชาวลาว ที่มีต่อกันเสมอมา


ล่าสุด วันที่ 23 ต.ค.65 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความชื่นชม นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ นักร้องและนักแสดง และยินดีที่สามารถบรรลุภารกิจว่ายน้ำข้ามลำน้ำโขง


"ขอแสดงความยินดีและชื่นชม ที่ช่วยกันทำความดีให้สังคม ยอมเสียสละ อดทน ฝึกฝน ด้วยความเข้มแข็ง และด้วยจิตใจอันมุ่งมั่น จนสามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จตามที่มุ่งหวังไว้" พลเอกประยุทธ์ กล่าว


https://youtu.be/oZRdqzQ4P7g

คุณอาจสนใจ

Related News