บันเทิง

‘กบ ไมโคร’ เข้าให้ปากคำหลังเสียหายร่วม 2 ล้านจาก ‘ดิไอคอน’ รับตัวเองเป็นแม่ข่าย มีลูกทีม 8 คน

โดย chutikan_o

16 ต.ค. 2567

46 views

‘กบ ไมโคร’ เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจหลังเสียหายร่วม 2 ล้าน จากธุรกิจ ‘ดิไอคอน’ รับตัวเองเป็นแม่ข่าย มีลูกทีม 8 คน ไม่ทราบว่าเป็นธุรกิจเครือข่ายถ้ารู้ก็ไม่ทำ


วานนี้ (15 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เวลา 10.30 น. นายไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ.


ทันทีที่มาถึงเจ้าตัวได้พยายามเดินหลบสื่อมวลชน และขึ้นไปชั้น 2 อาคารกองบังคับการปราบปราม พูดเพียงสั้นๆ ว่าในวันนี้ตัวเองเข้ามาให้ปากคำในฐานะผู้เสียหายคนหนึ่ง จากกรณีดิไอคอน ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ว่าชื่อตัวเองนั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทดังกล่าว นายไกรภพ ตอบว่า ไม่กังวล ก่อนขึ้นไปพบพนักงานสอบสวน


หลังให้ปากคำเสร็จ กบ ไมโคร เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะมีประเด็นที่เป็นไวรัลอยู่ในกระแสอินเทอร์เน็ต ว่าตนเองเป็นผู้ร่วมขบวนการ หรือเป็นผู้เสียหายกันแน่


เมื่อถามถึงวันที่มีการขึ้นเวที กบ ไมโคร กล่าวว่า คลิปที่หลุดออกมาตอนขึ้นเวที เขาเข้าร่วมประมาณ 4-5 เดือน เป็นการขึ้นไปในหัวข้อ Rising Star ยืนยันว่าไม่มีสคริปต์มีกรอบเชียร์อัพ บอกให้คนอื่นรู้ว่าธุรกิจนี้เปลี่ยนชีวิตอย่างไร


ส่วนสาเหตุที่ทำให้ร่วมลงทุนในธุรกิจนี้ เพราะว่าเชื่อมั่น ในตัวเลขผลประกอบการของบริษัทที่มียอดขาย 4000 กว่าล้านบาท ภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่ปี ซึ่งตนเองมาทำธุรกิจออนไลน์ ยืนยันว่าตอนนั้นที่ขึ้นเวทีไม่ได้รับค่าจ้างโดยในบริษัทเรียกสิ่งนี้ว่า “การแบ่งบัน”


ส่วนกรณีที่มีภาพปรากฏว่าตนเองไปท่องเที่ยวทริปฝรั่งเศส กบ ไมโคร ชี้แจงว่า เป็นทริปโปรโมชั่นสำหรับ 10 ดีลเลอร์ ซึ่งตนเองเปิดไว้ 5 ดีลเลอร์ ภรรยา 2 ดีลเลอร์ และคนในบ้าน 3 ดีลเลอร์ มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท


เมื่อถามว่าเปิด 10 ดีลเลอร์ ได้กำไรบ้างหรือไม่ นายไกรภพ ระบุว่า ช่วงแรกขายพอได้แต่ช่วงหลังนั้นขายไม่ได้ ขายได้เฉพาะกับคนที่รู้จัก สุดท้ายพอสินค้าใกล้หมดอายุก็เริ่มลดราคา จนถึงขั้นนำไปถวายพระหรือคนรู้จัก


ยอมรับว่าตนเองเป็นแม่ทีม โดยอยู่ในบริษัทดังกล่าวประมาณหนึ่งปีนิดๆ ซึ่งตอนที่ทำธุรกิจไม่มีคำว่าแม่ทีมด้วยซ้ำ รู้เพียงแค่ว่าเป็นธุรกิจแบบแฟรนไชส์ หลังมาร่วมธุรกิจนี้ก็ได้มีคนที่รักตนเองมาร่วมเปิดบิลทั้งหมด 8 ดีลเลอร์มีลักษณะการทำงาน “ไม่เถียง ไม่ถาม ทำตามอย่างเดียว” เมื่อมีดีลเลอร์สั่งคำสั่งออกมาเราก็ต้องทำตามที่เขาสั่ง


ส่วนสาเหตุที่ต้องออกจากธุรกิจนี้เป็น เพราะทั้ง 8 คน ที่ตามมานั้นไม่สามารถขายของได้ทั้งที่ 8 คน พยายามทุกความสามารถ ในทุกช่องทางในการขายสินค้าแต่ก็ไม่สามารถที่จะขายได้จึงตัดสินใจที่จะออกจากธุรกิจนี้ช่วง กรกฎาคม-สิงหาคม 2566 และออกมาศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้อย่างจริงจัง จึงพบว่ามีความไม่ชอบมาพากล ย้ำหากรู้ว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่หรือเครือข่ายก็ไม่มีใครที่อยากจะทำธุรกิจแบบนี้


กบ ไมโคร ยอมรับว่าบริษัทดิไอคอน มีปัญหามานานแล้วแต่ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูด เนื่องจากคนที่พูดก็จะถูกฟ้องร้องกลับ เพราะตอนนี้มีคนที่ถูกฟ้องตอนนี้อยู่ในชั้นศาลจะมีความคืบหน้าในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ คนที่โดนฟ้องมีหลายคนก็รู้จักกันอยู่ และยังอยู่ในห้องผู้เสียหายด้วยเช่นกัน


เมื่อถามว่า เคยเจอบิ๊กบอสในบริษัทดิไอคอนหรือไม่ กบ ไมโคร กล่าวว่า บิ๊กบอสมีเพียงคนเดียวนั่นก็ คือบอสพอล แต่จะมีบอสรองลงมาอีก 10 คน และเพิ่งรู้ว่าเป็นธุรกิจแบบเครือข่าย เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นธุรกิจแบบออนไลน์เท่านั้น และในวันนี้ลูกทีมจำนวน 8 คน ได้มอบอำนาจให้เขาดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดิไอคอนและผู้บริหาร ซึ่งสำหรับผู้เสียหายจำนวน 8 คน ก็ยังต้องการเงินคืน แต่เขายืนยันว่าไม่ได้อยากได้เงินคืน



คุณอาจสนใจ