ไม่จบ! ‘ลูกหมี’ ยื่นฟ้องลูกหนี้คนดังข้อหาฉ้อโกง หลังทวงแล้วยังเฉย ลั่นลูกหนี้ไม่ได้รวยจริงหรือเปล่า

‘ลูกหมี รัศมี’ ยื่นฟ้องลูกหนี้คนดังที่ศาลแขวงพระนครใต้ ข้อหาฉ้อโกง และ ความผิดตาม พรบ. เช็ค หลังทวงถามแล้วเฉย ด้าน ‘ลิลลี่ เหงียน’ มาให้กำลังใจ

‘ลูกหมี รัศมี’ ล่าสุดได้เดินทางไปที่ศาลแขวงพระนครใต้ พร้อมด้วย ‘น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์’ หรือ ‘ทนายกุ้ง’ เพื่อยื่นฟ้องลูกหนี้คนดัง ในข้อฉ้อโกง และ ความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โดยมี ‘ลิลลี่ เหงียน’ เดินทางมาให้กำลังใจด้วย

โดย ลูกหมี เผยว่า เริ่มแรกที่ยื่นฟ้องคดีเช็คเด้งไปก่อนหน้านี้ เพราะอยากจะทำให้เรื่องเรียบง่ายที่สุด แต่พฤติกรรมของลูกหนี้ไม่ได้เรียบง่ายเลย ปัญหาก็ยังไม่จบ สิ่งที่พูดคือบอกว่ามีเงินแล้วจะใช้หนี้ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้ใช้ จนเลยมาถึงเดือนกันยายน คือไม่รู้จะอดทนยังไงแล้ว เลยต้องไปต่อ เพราะว่าสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด คือเอาเงินของเราคืนมา และคำพูดกับการกระทำ ไม่ได้สอดคล้องกัน เลยต้องให้ศาลช่วยดำเนินการให้

ครั้งนี้ก็เลยเป็นสาเหตุที่ตัดสินใจฟ้อง ทั้งจากการที่ไม่คืนเงิน ไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว และจากคำพูดของลูกหนี้เอง ที่พูดบอกว่าตัวเองมีเงิน แต่ไม่สะดวกที่จะใช้ ซึ่งมันไม่สมควร เพราะจำนวนเงินกับที่ลูกหนี้บอกรวยมากแต่เงิน 2 ล้านบาท กับความเดือดร้อนของเรา มันต่างกันเราฟ้ากับดิน เลยคิดว่าเรารับไม่ได้กับการกระทำของเขากับเขา และในเรื่องใช้ชีวิตต่างๆ ก็เหมือนกับเราฐานะปานกลาง แต่เขาร่ำรวยมหาศาล แต่ทำไมทำร้ายคนฐานะปานกลางที่ทำมาหากินได้

และตั้งแต่เกิดเรื่องมา คู่กรณีไม่เคยไกล่เกลี่ย ไม่เคยที่จะรับผิดชอบ ไม่เคยที่จะขอโทษ เหมือนเป็นการปัดความผิดของตัวเองไปให้คนอื่น ไม่มีการกระทำที่รู้สึกสำนึกให้เราเห็นเลย เราก็คิดว่า การกระทำแบบนี้ เราต้องดำเนินการของเราไป

ถ้ามีปาฏิหาริย์ได้เงินคืน จะยกฟ้อง ถอนแจ้งความ ตนเองรู้สึกว่า ถ้าเป็นเรา เราคงหาเงินตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ขายของ หรือทำวิธีไหนก็ได้เพื่อจะหาเงินมาใช้ แต่ทางลูกหนี้ของเรา ดูชีวิตมีความสุข ก็รู้สึกบาดใจเจ้าหนี้ ที่ว่าเขามีความสุข กินดีอยู่ดี แต่ตัวเราต้องนั่งรอเงิน

‘ถ้าเป็นผ่อนชำระ ลูกหมีว่าผ่อนชำระกลัวจะได้เดือนละ 3,000 สิคะ ก็รู้สึกว่าลูกหนี้ไม่ได้รวยจริงหรือเปล่าคะ ทั้งนี้อยากบอกกับคู่กรณีว่า ก็เอาเงินมาคืนเถอะ จะได้จบๆ เรื่องไป คุณก็จะได้ใช้ชีวิตใหม่ เพราะว่าถ้าเกิดยังวนเวียนแบบนี้ ยังไงเงินก็ต้องจ่ายอยู่ดีหรือไม่ก็อาจจะติดคุกได้’

ด้านทนายกุ้ง อธิบายว่า เดิมคดีเช็คเด้ง แจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ แต่ตอนนี้มาฟ้องเพิ่ม คือ คดีฉ้อโกง และ พรบ.เช็ค ด้วย เพราะเดิมตอนแรกที่ฟ้องเช็คเด้งไป ทางคู่กรณี สั่งจ่ายเช็คตามสัญญาเงินกู้ ที่ทำสัญญาเงินกู้ไว้สองล้านบาท ซึ่งเมื่อเช็คเด้ง เขาไม่ชำระหนี้ทางลูกหมีจึงไปแจ้งความไว้ นั่นคือครั้งแรก และไกล่เกลี่ยตกลงกันไม่ได้

แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนกรกฎาคม มาทราบความจริงว่า ที่เขาจะเอาเงินลูกหมีไปทำธุรกิจ อ้างว่าไปลงทุนทำธุรกิจหลายอย่าง แต่จากการตรวจสอบมันไม่ได้มีธุรกิจตามที่กล่าวอ้าง จึงเข้าข่ายฉ้อโกง จึงเป็นที่มาที่วันนี้ฟ้องฉ้อโกงด้วย กับคดีเช็ค รวมกันไปเลย

วันนี้พอยื่นฟ้องแล้ว ศาลก็ให้เลขคดีเรียบร้อย มีนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 22 ตุลาคมนี้ เวลา 09:00 น. ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ต่อไปก็จะเป็นนัดไต่สวนมูลฟ้อง ถ้าศาลมองว่าคดีนี้เข้าองค์ประกอบความผิดคดีอาญาที่ยื่นฟ้องมา ศาลก็อาจจะประทับรับฟ้อง กระบวนการต่อไปก็อาจจะเรียกฝ่ายจำเลยมายื่นคำให้การ ถ้าไม่มาก็ออกหมายจับ โดยสรุปขั้นตอนจะเป็นแบบนี้แต่ ณ เวลานี้ ยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อยู่ที่กระบวนการของศาล

ทนายกุ้ง กล่าวเสริมว่า ส่วนตัวคิด  เขาอาจจะเชื่อมั่นในทนายที่ให้คำแนะนำไป ซึ่งไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทนายได้รับข้อมูลจากลูกหนี้ ได้รับข้อมูลครบถ้วนแค่ไหน หรือได้รับข้อมูลแบบไหนถึงได้เชื่อมั่นมาก และมองว่าการที่ลูกหนี่ ไม่ชำระหนี้ ก็อาจจะมีส่วนจากทนายความให้คำแนะนำว่าไปรอในส่วนของกระบวนการของศาล ไปรอเจรจาไกล่เกลี่ย หรือผ่อนชำระก็เป็นไปได้ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องของเงิน และอีกส่วน อาจจะได้รับคำปรึกษาจากทนายความ หรือทนายความบางท่าน อาจจะให้ความเชื่อมั่นกับลูกความตัวเองมากเกินไป เขาเลยไม่มีความจำเป็นต้องรีบใช้เงินคืน

ที่จริงมองว่าการเป็นหนี้ ควรจะมาคุยเจรจา ไกล่เกลี่ย เป็นหนี้เท่าไหร่ ไม่พร้อมยังไง อยากให้มาพูดคุยกัน ถ้าเป็นแบบนี้มันไม่ได้ผลดีต่อลูกหนี้ ถ้าหากว่าพูดคุยกันแล้ว เรื่องที่เข้าใจผิดอะไรกัน มาปรับความเข้าใจกันได้ บางสิ่งอย่าสร้างความมั่นใจให้กับลูกหนี้มากเกินไป และท้ายสุดหลักฐานทุกอย่างจะมาโผล่ที่ศาล

ขณะที่ ลิลลี่ เหงียน ก็เล่าว่าวันนี้มาให้กำลังใจ ส่วนตัวเองยอมรับชะตากรรมตัวเองอยู่แล้ว อยากเอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่า ส่วนที่ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา ฟ้องร้องตนนั้น มีหมายเรียกมาแล้วหนึ่งครั้ง ก็แจ้งตำรวจไปแล้วว่า เราไม่ได้หลบหนีไปไหน ทำงานอยู่ ขอเคลียร์เวลาซึ่งตำรวจก็เข้าใจ ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ส่วนการฟ้องกลับ พอมาคิดพิจารณาอีกที่คิดว่าถ้าฟ้องก็เสียเงินค่าทนายด้วย แล้วก็ไม่รู้จะได้เงินคืนเมื่อไหร่ด้วย ก็คิดว่าเอาเวลาตรงนี้ ทำให้เอฟซีมีความสุขดีกว่า หาเงินดีกว่า ที่ผ่านมาตนเคยพูดไปแล้วยกหนี้ ถ้าเขาไม่เอา ไม่รับ ถ้าอยากให้เงินเรากลับคืนมา เราก็พร้อมรับเงิน อย่างน้อยเงินนั้น มันก็เป็นเงินของตน 670,000 บาทก็เยอะนะ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ZanOrw5EYOk