บันเทิง

‘เบนซ์ พรชิตา’ โวยห้างฯ ไร้ความรับผิดชอบ รถเข็นไม่ล็อกกับทางเลื่อน ทำแม่เจ็บหนักเย็บ 4 เข็ม

โดย JitrarutP

13 ธ.ค. 2565

2.2K views

“เบนซ์ พรชิตา” ซัด! ห้างฯ ไร้ความรับผิดชอบ หลังคุณแม่ประสบอุบัติเหตุจากล้อรถเข็นไม่ล็อกกับทางเลื่อนห้างฯ จนเจ็บหนักต้องเย็บ 4 เข็ม พร้อมฝากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้สูงอายุ

นักแสดงสาว “เบนซ์ พรชิตา” ได้ออกมาโพสต์เล่าเหตุการณ์ที่คุณแม่ประสบอุบัติเหตุจากล้อรถเข็นไม่ล็อกกับทางเลื่อนของห้าง ระหว่างไปซื้อของที่ห้างแห่งหนึ่งแถวบ้าน จนได้รับบาดเจ็บหนักเมื่อ 2 เดือนก่อน แต่ห้างฯ ยังไม่รับผิดชอบ โดย “เบนซ์” ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบอกว่า

“เบนซ์ขอเล่าเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดกับคุณแม่เบนซ์เมื่อ 2 เดือนครึ่งที่แล้ว เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนไปซื้อของนะคะ

เมื่อวันที่ 24 กันยายน คุณแม่ได้แวะไปซื้อของในห้างแห่งหนึ่งใกล้บ้านแม่ ซึ่งปกติก็ซื้อที่นี่เป็นประจำ ในส่วนที่เป็นที่ซื้อสินค้าอยู่ชั้นสอง โดยใช้ทางเลื่อน เพราะทางห้างไม่มีลิฟท์ให้เลือกใช้ ปรากฏว่าล้อรถเข็นไม่ล็อกกับทางเลื่อนที่ลาดลงมาจากชั้นสอง ด้วยน้ำหนักของ บวกกับรถเข็นเลยลากแม่เบนซ์ลงมาตลอดทางลาดด้วยความเร็ว และกระแทกเข้ากับเคาน์เตอร์ของร้านค้าข้างล่าง

ศีรษะและใบหน้ากระแทกเข้ากับรถเข็น เลือดไหลเยอะมาก (เพราะเพิ่งทำบอลลูนหัวใจไม่ถึงเดือนและต้องกินยาละลายลิ่มเลือด) เย็บไป 4 เข็ม มีแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายจุดจากการลากลงทางลาด และต้องนอนโรงพยาบาลเป็นระยะเวลา 3 วัน จึงกลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังมีอาการเจ็บอยู่  เหตุผลที่แม่ไม่ปล่อยรถเข็น เพราะข้างหน้ามีคนยืนอยู่บนทางเลื่อน จึงกลัวว่ารถเข็นจะพุ่งไปกระแทกหลังหรือชนคนอื่นจนได้รับบาดเจ็บ เลยพยายามดึงไว้ ซึ่งหลังเกิดเหตุ วันรุ่งขึ้นเบนซ์ได้ไปดูจุดเกิดเหตุ ก็มีคนเข้ามาเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุกับแม่ ก็เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้หนึ่งวัน ตอนที่แม่อยู่ที่โรงพยาบาล ก็มีเจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการของทางห้างมาเยี่ยม โดยบอกกับทางเราว่าจะมีผู้ใหญ่เป็นอดีตนักการเมืองจะขอมาเยี่ยมแม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา แต่ที่มาคือผู้จัดการของห้าง ช่วงแรกที่คุยก็เหมือนจะไม่ราบรื่นแต่ก็สรุปจบตรงที่ ผู้จัดการห้างบอกว่าทางห้างจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ให้ แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากที่เกิดเหตุ ผู้จัดการห้างก็โทรมาถามถึงอาการแม่ 1 ครั้ง โดยถามแค่อาการและบอกว่าจะโทรมาถามอาการเรื่อยๆ ซึ่งหลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ทางห้างก็ไม่ได้มีการเยียวยา ชดใช้ หรือติดต่อกลับมาทางเราอีกเลย

ที่เบนซ์ออกมาเล่าให้ฟังเพราะอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคน ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณหรือหัวหน้าครอบครัวจนต้องหยุดงานเพื่อรักษาตัว มากน้อยจำนวนวันขึ้นอยู่อาการบาดเจ็บของแต่ละคน หรือแม้กระทั่งอาการที่หนักจนถึงชีวิต ทางห้างควรดูแลความเสียหายให้เป็นมาตรฐาน ไม่ใช่แค่แวะมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล 1 ครั้ง โทรมาถามอาการอีก 1 ครั้ง โดยบอกว่าจะดูแลค่าใช้จ่าย แต่ผลคือกลับเงียบไปเฉยๆ เหมือนทางห้างรอว่าผู้บาดเจ็บแต่ละคนจะใช้กฎหมายหรือเอาเรื่องกับทางห้างขนาดไหนถึงจะยอมออกมาดูแล

กรณีของแม่เบนซ์ คือเรายังสามารถดูแลแม่ได้ และถ้ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นกับคนที่ไม่มีกระบอกเสียง ไม่มีสตางค์ ผู้สูงอายุที่ไม่มีญาติ หรือตาสีตาสาทั่วไป จะทำยังไง ดังนั้นทางห้างควรมีการดูแลและเยียวยาคนเจ็บมากกว่านี้ ไม่ใช่เงียบไปแบบนี้

สิ่งที่เบนซ์อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็คือ

    1. เมื่อเกิดเหตุในห้าง สิ่งแรกคือรับผิดชอบโดยไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะเป็นพื้นที่ของคุณ โดยมีลูกค้าทั่วไปใช้บริการในพื้นที่ของคุณ การหาสาเหตุควรเป็นไปเพื่อแก้ไขและพัฒนาองค์กรของคุณ ไม่ใช่เพื่อแก้ต่างกับลูกค้า

    2. ทางห้างควรหมั่นตรวจสอบการล็อกของรถเข็นและแผ่นล็อกล้อตรงทางลาดของห้างอย่างสม่ำเสมอให้ดีกว่านี้

    3. สังคมไทยมีผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้น ทางห้างควรจัดหาพนักงานมาบริการช่วยเหลือผู้สูงอายุตั้งแต่บริเวณแคชเชียร์โดยไม่ต้องรอร้องขอความช่วยเหลือ

เบนซ์หวังว่าอุบัติเหตุของแม่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงกับทุกคน ที่เป็นผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะผู้สูงอายุทุกท่านให้ได้รับการบริการและการดูแล รวมถึงความปลอดภัยที่ดีขึ้นนะคะ”

นอกจากนี้ ‘เบนซ์’ ยังเขียนแคปชั่นบอกเพิ่มเติมอีกว่า “พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับแม่ตัวเอง คือไปไม่ถูกเหมือนกันนะคะ แม่อายุ 75 ปีแล้ว ตอนนี้คือเดินช้ามาก ปวดขา ปวดหลังไปหมด มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างไหมคะ ไม่อยากให้เกิดกับใครอีกแล้ว เราควรทำยังไงดีคะ”

คุณอาจสนใจ