'เบนซ์ พรชิตา' เล่าวินาทีแม่เกิดอุบัติเหตุ รถเข็นไม่ล็อก ลากตกทางลาดสาหัส ห้างเงียบไร้เยียวยา

'เบนซ์ พรชิตา' เผย หลังแม่ประสบอุบัติเหตุ รถเข็นลากลงทางบันใดเลื่อนในห้าง อาการบาดเจ็บสาหัส ด้านห้างสรรพสินค้า ยังเงียบไร้เยียวยา


คุณเบนซ์ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวว่า การเกิดอุบัติเหตุของคุณแม่เมื่อ 2 เดือนก่อน ในห้างดังโดยคุณแม่โดนรถเข็นลากลงจากทางเลื่อน จนศีรษะและหน้ากระแทกได้รับบาดเจ็บ ทางห้างแจ้งว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ จึงมาโพสต์ไว้เป็นอุทาหรณ์และหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการดูแลลูกค้าของทางห้าง


โดยเบนซ์ ระบุว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคุณแม่เบนซ์เมื่อ 2 เดือนครึ่ง ที่ผ่านมา เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนไปซื้อของ เมื่อวันที่ 24 กันยายน คุณแม่ได้แวะไปซื้อของในห้างแห่งหนึ่งใกล้บ้านแม่ ในส่วนที่ซื้อสินค้าอยู่ชั้นสองทำให้ลูกคาต้องใช้รถเข็นลงจากชั้นสอง โดยใช้ทางเลื่อน เพราะทางห้างไม่มีลิฟท์ให้เลือกใช้


ปรากฎว่าล้อรถเข็นไม่ล็อกกับทางเลื่อนที่ลาดลงมาจากชั้นสองด้วยน้ำหนักของบวกกับรถเข็นเลยลากแม่เบนซ์ลงมาตลอดทางลาดด้วยความเร็วและกระแทกเข้ากับเคาน์เตอร์ของร้านค้า ด้นล่างศีรษะและใบหน้ากระแทกเข้ากับรถเข็น เลือดไหลเยอะมาก เย็บไป 4 เข็ม มีแผลฟกช้ำ ตามร่างกายหลายจุดจากการลากลงทางลาด และต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลา 3 วัน จึงกลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อ แต่จนถึงวันนี้ยังมีอาการเจ็บอยู่


หลังจากเกิดเหตุได้ 1 วัน ตอนที่แม่อยู่โรงพยาบาล ก็มีเจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการของทางห้างมาเยี่ยม ก็มีผู้จัดการของทางห้างมาเยี่ยม โดยบอกว่าทางห้างจะมีผู้ใหญ่เป็นอดีตนักการเมืองจะขอมาเยี่ยมแม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา แต่ที่มาคือผู้จัดการของห้าง


ช่วงแรกที่คุยกันดูเหมือนจะไม่ราบรื่น แต่ก็สรุปจบตรงที่ ผู้จัดการห้างบอกว่าทางห้างจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ให้ แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากที่เกิดเหตุผู้จัดการห้างก็โทรมาถามถึงอาการแม่ 1 ครั้ง โดยถามแค่อาการและบอกว่าจะโทรมาถามอาการเรื่อย ๆ ซึ่งหลังจากนั้นจนถึงวันนี้ ทางห้างก็ไม่ได้มีการเยียวยา ชดใช้ หรือติดต่อมาทางคุณเบนซ์อีกเลย ที่เบนซ์ออกมาเล่าให้ฟัง เพราะอยากให้เป็นอุทากรณ์กับทุกคน


ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณหรือหัวหน้าครอบครัวจนต้องหยุดงาน เพื่อรักษาตัว หรือแม้กระทั่งอาการหนักจนถึงชีวิต ทางห้างควรดูแลความเสียหายให้เป็นมาตรฐานไม่ใช่แค่แวะมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล 1 ครั้ง และโทรมาถามอาการอีก 1 ครั้ง โดยบอกว่าจะดูแลค่าใช้จ่าย แต่ปรากฎว่าเงียบไปเฉยๆ เหมือนทางห้างรอว่าผู้บาดเจ็บแต่ละคนจะใช้กฎหมายหรือเอาเรื่องกับทางห้างขนาดไหนถึงจะยอมออกมาดูแล


ส่วนกรณีของเบนซ์ คือเรายังสามารถดูแลแม่ได้ และถ้ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นกับคนที่ไม่มีกระบอกเสียง ไม่มีเงิน ผู้สูงอายุไม่มีญาติหรือตาสีตาสาทั่วไปจะทำยังไง ดังนั้นทางห้างควรมีการดูแลและเยียวยาคนเจ็บมากกว่านี้ ไม่ใช่เงียบแบบนี้


นอกจากนี้ คุณเบนซ์ ยังฝากทางห้างเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ

1.เมื่อเหตุเกิดในห้างสิ่งแรกที่ควรรับผิดชอบโดยไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะเป็นพื้นที่ของคุณ โดยมีลูกค้าไปใช้บริการในพื้นที่ของคุณ การหาสาเหตุควรเป็นไปเพื่อแก้ไขและพัฒนาองค์กรของคุณไม่ใช่เพื่อแก้ต่างกับลูกค้า

2.ทางห้างควรหมั่นตรวจสอบ การล็อคของรถเข็นและแผ่นล็อคล้อตรงทางลาดของห้างอย่างสม่ำเสมอให้ดีกว่านี้

3.สังคมไทยมีผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้น ทางห้างควรจัดหาพนักงานมาบริการช่วยเหลือผู้สูงอายุตั้งแต่บริเวณแคชเชียร์ โดยไม่ต้องรอร้องขอความช่วยเหลือ เบนซ์หวังว่าอุบัติเหตุของแม่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงกับทุกคนที่เป็นผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะผู้สูงอายุทุกท่านให้ได้รับการบริการและการดูแลรวมถึงความปลอดภัยที่เกิดขึ้น


ล่าสุด ทีมข่าวเที่ยงวัน ทันเหตุการณ์ คุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับ คุณเบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา เล่าว่า คุณแม่อายุ 75 ปี แล้ว เพิ่งผ่านการผ่าตัดทำบอลลูนมาเมื่อช่วงเดือน ต้นเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งตนเป็นห่วงคุณแม่มาก เพราะต้องมาเจอกับอุบัติเหตุในครั้งนี้


โดยอุบัติเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน วันนั้นคุณแม่ออกไปซื้อของ ที่ห้างสรรพสินค้าตามปกติ ซึ่งเป็นห้างประจำที่คุณแม่คุ้นเคย จากนั้นคุณแม่ได้ไปซื้อของบนชั้นสองและต้องใช้รถเข็น ระหว่างที่ซื้อของเสร็จ คุณแม่ต้องเข็นรถเข็นลงทางบันไดเลื่อน สำหรับรถเข็น เนื่องจากทางห้างสรรพสินค้าไม่มีลิฟท์ให้เลือกใช้


ปรากฏว่าล้อของรถเข็นไม่ล็อคกับทางเลื่อน ด้วยน้ำหนักบวกกับรถเข็นทำให้ลากคุณแม่ลงมาจากชั้นสองด้วยความเร็วกระแทกกับเคาน์เตอร์ด้านล่าง ศีรษะและใบหน้าของคุณแม่กระแทกเข้ากับรถเข็น (เนื่องจากคุณแม่เพิ่งผ่าตัดทำบอลลูนหัวใจไม่ถึงเดือน และต้องกินยาอะไรลิ่มเลือด) จึงทำให้เลือดไหลจำนวนมาก คุณหมอต้องเย็บแผลที่บริเวณใบหน้า 4 เข็ม ตาทั้งสองข้างฟกช้ำ บริเวณคอได้รับการกระแทก และยังมีบาดแผลตามร่างกายหลายจุด ถือว่าโชคดีที่กระดูกคุณแม่ไม่หัก


ส่วนเหตุผลที่แม่ไม่ปล่อยรถเข็น เพราะข้างล่างมีคนยืนอยู่บนทางเลื่อน จึงกลัวรถเข็นไปกระแทกหลัง หรือคนอื่นได้รับบาดเจ็บ จึงพยายามดึงไว้ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุวันรุ่งขึ้น เบนซ์ได้ไปดูจุดเกิดเหตุ ก็มีคนมาเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ ที่จะเกิดเหตุกับแม่ ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง


คุณเบนซ์ บอกว่า ตอนนี้ คุณแม่มีความกังวลมาก เพราะปกติคุณแม่เป็นคนทำอะไรด้วยตัวเองตลอด ตอนนี้กลับไม่เหมือนเดิม ไปไหนมาไหนไม่ได้เหมือนเดิม และยังเจ็บที่บริเวณหลังและมีอาการเครียด ด้วย