บันเทิง

อดีตเมีย ยื่นฟ้อง 'เพชร สหรัตน์' ปลอมลายเซ็นค้ำประกันกู้เงิน 80 ล้านบาท

โดย parichat_p

7 พ.ย. 2567

595 views

นินิว ซีอีโอน้ำปลาร้า อดีตเมียเพชร สหรัฐ นักร้องชื่อดังร้องสื่ออุดรถูกปลอมลายเซ็นค้ำประกันกู้วงเงินถึง 80 ล้านบาท อดีตภรรยาเผย คราวนี้เอาเอาจริงฟ้องศาลสู้คดีทั้งแพ่งและอาญา เตรียมบุกสำนักงานใหญ่ธนาคารเพื่อหาความจริง เรียกค่าเสียหายผู้ปลอมลายเซ็น ผู้เกี่ยวข้องในสัญญาและธนาคาร 20 ล้านบาท


วันนี้ (7 พ.ย.67) เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.นิภารัตน์ สหเจริญพาณิชย์ อดีตภรรยานักร้องลูกทุ่งชื่อดัง,นายธีรศักดิ์ ทองทรวงทนายความ และนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” ร่วมกันแถลงข่าวร้องเรียนต่อสื่อมวลชนจังหวัดอุดรธานี กรณีน.ส.นิภารัตน์ อายุ 31 ปี อดีตภรรยาของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เพชร สหรัฐ ปลอมลายเซ็นไปค้ำประกันเงินกู้หลายฉบับวงเงินมากถึง 80 ล้านบาท และถูกทางธนาคารส่งใบแจ้งหนี้เนื่องจากผู้กู้ไม่ชำระเงินกู้และมีลายเซ็นคุณนินิวเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้


หลังร้องสื่อมวลชนทางธนาคารก็ส่งเอกสารแจ้งปลดภาระหนี้ผู้ค้ำประกันออกจากสัญญาค้ำประกันจึงทำให้เกิดข้อสงสัย จึงนำเรื่องมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” และสื่อมวลชน



น.ส.นิภารัตน์ เปิดเผยว่า จากกรณีธนาคารแห่งหนึ่งส่งเอกสารแจ้งหนี้มาโดยมีมูลหนี้ร่วม 80 ล้านบาท เนื่องจากไปค้ำประกันให้บริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อดูเอกสารที่ทางธนาคารส่งมาพบว่าลายเซ็นไม่ใช่ลายเซ็นของตัวเอง และบริษัทผู้กู้นั้นเป็นบริษัทของอดีตสามี มีพี่ชายของอดีตสามีเป็นกรรมการเป็น ผู้มีอำนาจลงนาม เมื่อไปตรวจสอบที่ธนาคารพบว่ามีสิ่งผิดปกติก็คือลายเซ็นไม่ใช้ลายเซ็นตนและตนไม่ได้เดินทางไปเซ็นค้ำประกันตามวันที่ที่ระบุ จึงเชื่อแน่ว่าถุกปลอมลายเซ็นแน่นอน



ต่อมาตนได้เอาเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับสื่อมวลชนที่จังหวัดสกลนครเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และหลังจากการร้องสื่อธนาคารได้ส่งเอกสารหลักฐานปลดภาระหนี้จากผู้ค้ำประกันออก โดยให้อีกบริษัทหนึ่งเป็นผู้ค้ำประกันแทน จึงทำให้เกิดข้อสงสัยเมื่อทวงถามรายละเอียดกับทางธนาคารก็บอกให้ไปคุยกับอดีตสามี ทั้งนี้ยอดเงินที่ค้ำประกันตามเอกสารของธนาคารที่แจ้งมานั้นเป็นยอดเงิน 80 ล้านบาท แบ่งกู้เป็น 4 วงเงิน วงเงิน 7 ล้าน 8 ล้าน 25 ล้าน และ 40 ล้านบาท


ส่วนข้อสงสัยตามเอกสารที่ธนาคารส่งมา คือ เอกสารที่ตนได้มานั้น ระบุวันที่ 11-12 พฤษภาคม 2566 ได้เซ็นค้ำ สำคัญคือมีสิ่งผิดปกติคือลายเซ็นไม่ใช่ของตนเอง ซึ่งวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 จำได้เลยว่าเป็นวันที่ไปจดทะเบียนหย่า ทั้งนี้หนังสือสัญญาเงินกู้ที่มีลายเซ็นคนค้ำนั้นเป็นชื่อของพี่ชายอดีตสามี โดยกู้ในนามบริษัท นอกจากนี้ยังมีอดีตสามีเซ็นในฐานะยินยอมให้คู่สมรสค้ำประกันค้ำประกันวงเงินนี้



น.ส.นิภารัตน์ฯ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้รับผลกระทบทางธุรกิจมาก จะไปกู้ยืมเงินเพื่อขยายวงเงินมาทำธุรกิจต่อก็ยังไม่สามารถจัดการได้ ที่สำคัญสภาพจิตใจตอนนี้ย่ำแย่มากทางครอบครัวทราบเรื่องก็พากันเครียดหมดทั้งพ่อทั้งแม่ เลยขอฝากถึงผู้ที่ปลอมลายเซ็น ขอให้ออกมารับผิดชอบ ตนยืนยันไม่ได้เป็นคนเซ็นค้ำประกันแน่นอน และขอให้มาอดีตสามีออกมาอธิบายรายละเอียดว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มีการเกิดขึ้นในวันเวลาไหนขั้นตอนไหน เพราะตนก็ยินดีที่จะชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงว่า วันเวลาที่เกิดเหตุ อยู่ที่ไหน ณ วันที่เซ็นสัญญากัน



ด้านทนายความ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางคุณนินิวฯได้มอบอำนาจให้ทนายยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดสกลนครไปแล้ว โดยฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา โดยคดีอาญาเราได้ทำการยื่นฟ้องบุคคล 5 คน ทั้งบริษัทและตัวบุคคล ซึ่งรวมถึงอดีตสามีของคุณนินิวด้วย ส่วนคดีแพ่งนั้นทางเราจะฟ้องไปยังธนาคารและบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ปรากฏตามสัญญาและเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 20 ล้านบาท



นายภานุมาศ บอกว่า จากนี้ตนก็จะพาผู้เสียหายพร้อมทนายความ เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารดังกล่าว เพื่อขอคำชี้แจงและคำตอบจากผู้บริหารของธนาคารฯ ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไร และจากนี้ทางธนาคารสำนักงานใหญ่ก็คงต้องมีคำตอบและออกมาชี้แจงให้ทางผู้เสียหายทราบและถ้าเรื่องนี้เป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ขอให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดด้วยเช่นกัน

คุณอาจสนใจ