หอการค้าไม่ทน ผนึกกำลัง ภาคเอกชน จี้ กนง. ลดดอกเบี้ยแก้บาทแข็ง

หอการค้าไทย ผนึกกำลัง สมาคมภาคเอกชน ตั้งโต๊ะเรียกร้องภาครัฐแก้ไขปัญหาเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากกับการส่งออกและการท่องเที่ยว พร้อมจี้ กนง. ลดดอกเบี้ย เพื่อช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาท


นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น 8-10 % อย่างรวดเร็วและรุนแรงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปแล้วกว่า 5 หมื่นล้านบาท และเมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้น ค่าใช้จ่ายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็จะสูงขึ้นตาม ทำให้การท่องเที่ยวไทยกลายเป็นจุดหมายที่มีราคาสูง ส่งผลนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย จะจับจ่ายใช้สอยน้อยลง เพราะรู้สึกว่าสินค้าและบริการแพงขึ้นกว่าปกติ และอาจจะเลือกไปยังประเทศที่มีค่าเงินอ่อนกว่าและคุ้มค่ามากกว่านั้น


โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า เงินบาทแข็งค่า 1% กระทบรายได้ผู้ประกอบการในภาคการส่งออกเกือบ 1 แสนล้านบาทต่อปี หรือ คิดเป็นกว่า 0.5% ของ GDP ดังนั้น หอการค้าฯ ขอให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ไม่ผันผวนอย่างรุนแรงจนเกินไป เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคา โดยมองค่าเงินบาทในระดับที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 34 บาท/ดอลลาร์ จากปัจจถบะนที่เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 33 บาท


ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเสริมว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกลงแบบเร็วและแรงที่ 0.50% หอการค้าฯ เห็นว่า น่าจะถึงเวลาที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ต้องปรับลดดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อช่วยชะลอเงินบาทไม่แข็งค่าเกินไป ช่วยให้ผู้ประกอบการส่งออกและภาคท่องเที่ยวและบริการ สามารถที่แข่งขันได้ดียิ่งขึ้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/yARGwOnGAuk