นักลงทุนรายย่อยหยุดเทรดหุ้น ประท้วงเก็บภาษี โบรกเกอร์ เผยไม่กระทบมูลค่าซื้อขาย

บรรยกาศตลาดหุ้นไทยวันนี้ นักลงทุนรายย่อยรวมตัวหยุดซื้อ-ขาย ประท้วงเก็บภาษีขายหุ้น ประกอบกับไม่มีปัจจัยใหม่หนุน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมูลค่าการซื้อขายอย่างมีนัยสำคัญ



โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ภาคเช้า ช่วง 15 นาทีแรก หลังเปิดตลาด ดัชนีลบไป 1.97 จุด ลงไปอยู่ที่ระดับ 1,620 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5 พันล้านบาท ซึ่งถือว่ามีความเบาบางกว่าวันก่อนหน้า ที่มีมูลค่าซื้อขายราว 8 พันล้านบาท หลังนักลงทุนรายย่อยมีการเชิญชวนแสดงพลังคัดค้านการเก็บภาษีขายหุ้น ด้วยการหยุดการซื้อขาย 1 วัน ในวันนี้ (8 ธ.ค. 65) เพื่อแสดงถึงความไม่เห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีขายหุ้นของรัฐบาล โบรกเกอร์ เปิดเผยว่า กรณีนักลงทุนรายย่อยหยุดเทรดในวันนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมูลค่าการซื้อขายอย่างมีนัยสำคัญ



ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า ยังไม่พบการซื้อขายที่ผิดปกติ โดยเฉลี่ยมูลค่าการซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้าน กลุ่มรายย่อยอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท และกลุ่มสถาบันอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยให้ความเห็นไปยังกระทรวงการคลังแล้วว่า การจัดเก็บภาษีหุ้นควรอยู่ภายใต้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีอัตราเหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ แม้ว่าการท่องเที่ยวจะดีขึ้น แต่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และยังเผชิญกับต้นทุนดอกเบี้ยสูง ทำให้สภาพคล่องหายไป โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดูแลเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับตลาด และหารือกับผู้ร่วมตลาดต่อไป



ขณะที่นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยกรณีที่นักลงทุนรายย่อยประท้วงนโยบายเก็บภาษีขายหุ้น โดยหยุดการซื้อขาย และเตรียมย้ายไปลงทุนต่างประเทศ ว่า เรื่องการเก็บภาษีขายหุ้นนโยบายของรัฐบาล หากนักลงทุนประท้วงโดยจะย้ายไปเทรดหุ้นในตลาดต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดเก็บภาษีขายหุ้นภายในประเทศนั้น เป็นเรื่องของนักลงทุน เพราะหากจะไปเทรดในตลาดต่างประเทศ ก็ต้องเสียภาษีเช่นเดียวกัน เพราะต่างประเทศก็มีการจัดเก็บภาษีขายหุ้นเช่นกัน แถมบางประเทศจัดเก็บภาษีขายหุ้นอัตราสูง หรือ แพงกว่าไทยด้วย



สำหรับขั้นตอนของออกประกาศจัดเก็บภาษีขายหุ้นนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของสำนักงานกฤษฎีกา

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Kp_8--M-6cI