นักวิชาการมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หนุน คลังขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 8% เริ่มต.ค.ปีหน้า

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวถึงแนวคิดการปรับขึ้นอัตราภาษีเงินเพิ่ม หรือ VAT นั้นมองเป็นความกล้าหาญของ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกระทรวงการคลังที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุย เนื่องจากประเทศไทยดำเนินนโยบายงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 8 แสนล้านบาท และเศรษฐกิจที่โตช้าทำให้การปิดหีบงบประมาณโดยเฉพาะปีงบฯ 2569 ยังไม่รู้ว่าต้องกู้เงินมากน้อยเพียงใดและปิดหีบลงมากน้อยแค่ไหน ในขณะที่รายได้ภาครัฐที่เข้ามาก็ลดลง ดูจากฐานการเสียภาษีบุคคลธรรมดาซึ่งมีทั้งสิ้น 11 ล้านคน

แต่มีผู้เสียภาษีจริงแค่ 4 ล้านคน ในด้านภาษีศุลกากรไทยต้องดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมด้านการค้าระหว่างประเทศจึงทำให้การจัดเก็บภาษีส่วนนี้ลดลงเหลือปีละแสนกว่าล้านบาทจากที่เคยได้ปีละกว่า 4 แสนล้านบาท

ขณะที่เศรษฐกิจไม่คึกคัก ไม่สามารถเก็บ VAT เพิ่มได้มาก ขณะเดียวกันประเทศไทยจำเป็นต้องใช้แต้มต่อในเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อดึงต่างชาติเข้ามา ฃลงทุนในไทยมากขึ้น เพราะปัจจุบันไทยตกอันดับประเทศในอาเซียนที่ต่างชาตินิยมเข้ามาลงทุน// แพ้ อินโดนีเซีย อันดับ 1 , เวียดนาม อันดับ 2 , มาเลเซีย อันดับ 3, ฟิลิปปินส์ อันดับ 4 , และ สิงคโปร์ อันดับ 5 และไทยอันดับ 6



ปีนี้ IMF คาดว่า ขนาดของเศรษฐกิจไทยจะหล่นจากเบอร์ 2 ของอาเซียน มาอยู่เบอร์ 3 โดยถูกสิงคโปร์แซงหน้า ทั้งที่ ในอดีตมูลค่าทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์น้อยกว่าไทยถึงกว่า 5 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ



ดังนั้นการปรับโครงสร้างทางภาษีเพื่อจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้ลง ทุนเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจึงมีความจำเป็น และเมื่อเราลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ควบคู่การปรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จูงใจให้คนจ่ายภาษีมากขึ้น นำเงินรายได้ สร้างรัฐเพื่อสวัสดิการประชาชน ดูแลผู้สูงอายุ กองทุนประกันสังคม

การปรับโครงสร้างภาษีจึงมีความจำเป็นที่กระทรวงการคลังต้องศึกษา และวิธีที่จะทำให้ลดและเพิ่มรายได้อย่างรวดเร็ว คือ การขึ้นภาษี VAT ซึ่งไทยเคยจัดเก็บ VAT ที่ 10% ตั้งแต่ปี 2541 แต่จากนั้นก็ผ่อนคลาย

ทั้งนี้มองว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกได้อานิสงส์จากมาตรการต่างๆ ทั้ง อีซี่ อี-รีซีท , แจกเงิน 10,000 ผู้สูงอายุ , การขึ้นค่าแรง ,ไร่ละพัน, เงินดิจิทัล 10,000 บาท, มาตรการคุณสู้ เราช่วย และหากในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจผ่อนคลาย ไทยสามารถจัดการ กับปัญหาสงครามทางการค้าได้ ก็จะเห็นเศรษฐกิจไทยโตได้ 3 ถึง 3.5% และอาจจะเห็นการขึ้นภาษี VAT เป็น 8% ในเดือนตุลาคมปีหน้า

ซึ่งมองว่าเป็น THE MUST ที่รัฐบาลต้องทำเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับฐานะทางการคลัง เพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ หนี้สาธารณะต่อจีดีพีก็จะผ่อนคลายลงในระยะยาว แต่การขึ้นจะต้องดูจังหวะเวลาที่เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งเพียงพอ แต่ไม่ถึง 15% แน่นอน เพียงแต่คงจะค่อยๆปรับขึ้นทีละ 1% เพราะเราถือว่าต่ำมากในอาเซียน เช่น ในญี่ปุ่นก็มีปัญหาเหมือนไทย มีหนี้สาธารณะ 200% มีปัญหา การขาดดุลงบประมาณ จึงเลือกใช้การทยอยปรับขึ้นภาษี VAT จาก 7% เป็น 10% โดยขึ้นจาก 7% เป็น 8% นานถึง 3 ปีจึงค่อยปรับขึ้นเป็น 10% เพื่อไม่ให้ประชาชนตกใจ