น้ำตาลทรายเริ่มขาดตลาดพ่อค้าแม่ค้าใน จ.ตรัง เชื่อเกิดจากการกักตุน

ผู้สื่อข่าวได้ลงสำรวจร้านขายของชำ รวมทั้งแผงจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดประเภทของใช้ในครัวเรือน ภายในตลาดสดวังยาว เขตเทศบาลนครตรัง ทั้งนี้ ภาพรวมหลังราคาน้ำตาลแพงสูงขึ้นต่อเนื่อง พบว่า ร้านที่ขายสินค้าเบ็ดเตล็ดภายในตลาดสด จะมีน้ำตาลทรายวางขายเพียงเล็กน้อยประมาณ 2-3 ถุงเท่านั้น แต่หลายร้านก็เลิกขายไปเลยชั่วคราว โดยคนขายบอกว่า บางแห่งราคาน้ำตาลทรายมา กก.ละ 28 บาทแล้ว ทำให้ร้านค้าเล็กๆ ไม่สามารถซื้อสินค้ามาขายต่อได้ จึงเลิกซื้อต่อมาวางขายชั่วคราว

ส่วนที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่บางแห่ง พบว่า ยังมีน้ำตาลทรายจำหน่าย บางยี่ห้อราคา กก.ละ 25 บาท บางยี่ห้อราคา กก.ละ 24 บาท แต่ยังจำกัดการซื้อไม่เกิน 3 ถุงต่อ 1 ใบเสร็จ ส่วนที่ห้างค้าส่งขนาดใหญ่ ยังคงมีบ้างเฉพาะน้ำตาลแดง ส่วนน้ำตาลทรายขาว ทางห้างปิดป้ายประกาศว่า สินค้าหมดสต็อกชั่วคราว และกำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้มีสินค้าเพียงสำหรับทุกท่าน จึงขออภัยในความไม่สะดวกไปยังลูกค้า

นางสุวินัย เจ้าของร้านขายของชำแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง บอกว่า ตอนนี้น้ำตาลราคาแพง และมีการปรับขึ้นต่อเนื่อง จากเดิมกระสอบละ 620 บาท ปรับเป็นกระสอบละ 715 บาท หรือเท่ากับขึ้นราคาเป็น กก.ละเกือบ 29 บาทแล้ว ส่วนที่วางขายอยู่ตอนนี้ ซื้อมาราคา กก.ละ 30 บาท ต้องนำมาขาย กก.ละ 32 บาท โดยแบ่งถุงขายครึ่ง กก.ราคาถุงละ 16 บาท แต่หมดสินค้าจากนี้แล้ว ก็จะหยุดขายชั่วคราวไม่มีกำหนด

ส่วน นางปรีดา เจ้าของร้านขายของเบ็ดเตล็ดอีกราย ก็บอกว่า ตนเองซื้อน้ำตาลทรายมา กก.ละ 28 บาท ขาย กก.ละ 32 บาท ซึ่งแทบไม่ได้อะไรเลย เดิมตอนน้ำตาลทรายราคาปกติ เมื่อซื้อมาจะนำมาแบ่งใส่ถุงขาย ถุงละครึ่ งกก. แต่ตอนนี้น้ำตาลทรายราคาแพง จะแบ่งใส่ถุงขายครึ่ง กก.ไม่ได้ ต้องมาแบ่งย่อยในน้ำหนักประมาณ 200 กรัมเกือบ 300 กรัม เพื่อขายถุงละ 10 บาท เพราะแพงลูกค้าก็ซื้อแบบประหยัด ส่วนน้ำตาลปี๊บก็ปรับราคาขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน โดยน้ำหนักกล่องละ 10 กก. จากเดิมราคา 300 บาท ตอนนี้ขึ้นเป็น 320 บาทแล้ว

เช่นเดียวกับร้านขายของชำอื่นๆ ต่างก็บอกว่า ขณะนี้น้ำตาลเริ่มขาดตลาด และราคาก็แพงขึ้น แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสินค้าคงไม่ขาดตลาด แต่น่าจะเกิดจากการกักตุนมากกว่า เพราะหลังจากรัฐประกาศให้น้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม ปรากฏว่า จู่ๆ สินค้าก็ขาดตลาดไปเฉยๆ ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ นอกจากมีการกักตุนสินค้า