เศรษฐกิจ
เส้นแบ่งความรวย! ชง 3 แนวทาง 'แจกเงินดิจิทัล' ตัดสิทธิ์คนรวย ขยายใช้ได้ทั้งอำเภอ
26 ต.ค. 2566
4.4K views
'จุลพันธ์' เสนอนายกฯ เลือกกลุ่มเป้าหมายแจกเงินดิจิทัลสัปดาห์หน้า รับดิจิทัลวอลเล็ตดีเลย์ เน้นใช้เงินในงบประมาณ ซึ่งอาจล่าช้าถึง เม.ย.-พ.ค.67 ชงตัดสิทธิ์ผู้มีรายได้ดีออก แต่เสียงแตกเรื่องนิยามคนรวย
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.66 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการคณะอนุกรรมการดิจิทัล วอลเล็ต เปิดเผยภายหลังการประชุมนัดที่ 2 นานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันให้ปรับเงื่อนไขการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้สามารถใช้ได้ภายในอำเภอ จากเดิมที่จำกัดในรัศมี 4 กิโลเมตร เนื่องจากพื้นที่ไม่ใหญ่จนเกินไปและมีร้านค้ากระจายเพียงพอต่อการรองรับการใช้จ่ายของประชาชน
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นแตกต่างเรื่องกลุ่มเป้าหมาย และไม่สามารถหาข้อสรุปได้ โดยส่วนหนึ่งเห็นว่า เพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องการให้คนร่วมมาก ๆ แบ่งเบาภาระประชาชน จึงเสนอให้ตัดคนรวยหรือผู้ที่มีรายได้ดีออก โดยคำจัดกัดความยังไม่เป็นที่สรุป
แต่กำหนดตัวเลือกไว้ 2 แบบ ได้แก่
-ตัดกลุ่มผู้มีเงินเดือนถึง 25,000 บาท และ/หรือ มีบัญชีเงินฝากถึง 1 แสนบาทออก เหลือผู้ได้สิทธิ์ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 4.3 แสนล้านบาท
-ตัดกลุ่มผู้มีเงินเดือนถึง 50,000 บาท และ/หรือ มีบัญชีเงินฝากถึง 5 แสนบาทออก เหลือผู้ได้สิทธิ์ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 4.9 แสนล้านบาท
-และอีกส่วนหนึ่งเห็นว่าควรให้สิทธิ์เฉพาะผู้ยากไร้ ซึ่งมีอยู่ราว 15-16 ล้านคน โดยใช้ฐานข้อมูลจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณราว 1.5 แสนล้านบาท
โดยจะนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เป็นประธานประชุมตัดสินใจ ในสัปดาห์หน้า
ในส่วนของแหล่งเงินที่จะใช้ในการดำเนินการยังคงเน้นการใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นหลัก กลไกดำเนินการคือผ่านพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณ ซึ่งมีข้อเสนอให้ดำเนินการโดยใช้งบผูกพัน เช่น หากโครงการ 4 แสนล้านบาท ก็ตั้งงบผูกพัน 4 ปี โดยเบิกจ่ายปีละ 1 แสนล้านบาท ดังนั้นการขึ้นเงินของร้านค้าก็อาจจะต้องชะลอไป ซึ่งต้องกำหนดในเงื่อนไข และเป็นตัวเลือกที่จะเสนอให้ คณะกรรมการฯพิจารณาอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม ยังมีทางเลือกอื่นสำหรับแหล่งเงินที่จะใช้เสนอไปด้วย เช่น การกู้เงิน แต่เป็นทางเลือกท้าย ๆ เช่นเดียวกับการใช้มาตรการกึ่งการคลัง ผ่านมาตรา 28 พรบ. วินัยการเงินการคลัง โดยยืนยันว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับธนาคารออมสินแล้ว เพราะติดขัดข้อกฎหมาย กรอบอำนาจหน้าที่ไม่ครอบคลุมการดำเนินการ
ทั้งนี้ กลไกการใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นตัวเลือกแรก เพราะโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการอนุมัติโดยตัวแทนประชาชน ทั้ง สส. และ สว. ต้องพิจารณาตามกรอบข้อเท็จจริง รัฐบาลจะไม่ตัดโครงการลงทุน หรือโครงการอื่น ๆ ของรัฐ เพื่ออัดโครงการนี้ที่ใช้เม็ดเงินถึง5.6 แสนล้านบาท เข้าไปในงบประมาณ 2567 ในคราวเดียว เป็นการขาดดุลตามกรอบงบประมาณที่วางแผนไว้ ไม่มีผลกระทบต่อตลาดทุน ตลาดตราสารหนี้ แน่นอน
อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าโครงการจะดีเลย์จากเดิมวันที่ 1 ก.พ.2567 แต่มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น ในเรื่องความปลอดภัย กระบวนการทดสอบระบบก็มากขึ้น ซึ่งก็ล้อไปตามการเบิกจ่ายงบประมาณ 2567 ที่อาจล่าช้าถึง เม.ย.-พ.ค.ปีหน้า
สำหรับประเด็นการยืนยันตัวตน เป็นไปตามสิทธิ์ ครอบคลุมทั้ง บุคคลธรรมดา นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้าน และวิสาหกิจชุมชน ใช้จ่ายได้ประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ส่วนระบบการขึ้นเงินได้ร้านค้าระบบภาษี 3 ประเภท ทั้งร้านค้าในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เงินได้นิติบุคคล และ บุคคลธรรมดา ส่วนผู้จัดทำระบบ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐเห็นชอบ ให้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการเพราะมีความพร้อม โดยยืนยันว่างบประมาณที่ใช้ไม่ถึง 12,000 ล้านบาทแน่นอน และต่ำกว่านั้นมาก โดยจะเป็นการทำแอปพลิชั่น ขึ้นมาใหม่ไม่ใช่ระบบเป๋าตัง
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/F3TmoRZqZF0
แท็กที่เกี่ยวข้อง แจกเงินดิจิทัล ,เกณฑ์แจกเงินดิจิทัล ,เงินดิจิทัลตัดสิทธิ์คนรวย