พ่อค้าปลาทูโอด น้ำมันแพงทำต้นทุนปลาทูพุ่ง เผยยอมแบกรับเพื่อให้ราคาขายเท่าเดิม

(30 มิ.ย.) ที่จังหวัดอุทัยธานี นายต่อย นางสำรวย เจ้าของธุรกิจปลาทูนึ่งส่งขายแห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งประกอบธุรกิจมานานถึง 40 ปี เปิดเผยว่า ผลพวงจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ส่งผลทำให้มีต้นทุนและต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้น

ล่าสุด ปลาสดแช่แข็งปรับราคาสูงขึ้นจากเดิมในแต่ละขนาดอีกกล่องละ 50 บาท ต่อน้ำหนัก 10 กิโลกรัม อีกทั้งราคาน้ำมันที่แพงขึ้น และแก๊สหุงต้มที่แพงขึ้นซ้ำอีก ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนลดต้นทุนเพื่อให้สามารถขายในราคาเท่าเดิมให้ได้

โดยจากเดิมเคยวิ่งรถไปรับปลาทูสดแช่แข็งในเขตอำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ทุกวันต้องไปรับปลาทูแช่แข็ง 2 วันครั้ง เพื่อประหยัดค่าน้ำมัน และนำมาแช่แข็งตุนไว้ และก่อนที่จะนำไปวางขาย ต้องผ่านขั้นตอนในการคัดขนาด ผ่าท้องควักไส้และขี้ปลาออกล้างทำความสะอาด ก่อนที่จะใส่เข่งปลาทู แล้วน้ำไปต้ม ก่อนไปแพ็กใส่ถาดโฟมวางขาย ถ้าเป็นปลาเล็ก ใช้เวลาต้ม 15 นาที ถ้าปลาขนาดใหญ่ขึ้นก็เพิ่มเวลาต้มขึ้นอีก แต่แก๊งหุงต้มที่แพงขึ้นก็ต้องปรับเปลี่ยนลดต้นทุนด้วยการใช้เตาฟืนแทนมาตั้งแต่ปรับราคาแก๊สในรอบแรกทั้งนี้เพื่อลดต้นทุน เพื่อให้ขายในราคาเดิมให้ได้

นอกจากปรับลดต้นทุนทั้งค่าน้ำมัน และค่าแก๊สหุงต้มแล้ว จากเคยขายส่งตามร้านค้าที่รับไปขาย ตอนนี้ต้องยกเลิกการขายส่ง หากขายส่งก็จะไม่เหลือกำไร ต้องปรับเปลี่ยนมาวางขายเองส่วนหนึ่งในตลาดเช้า และตลาดสดตอนเย็น และจ้างคนวางขายอีกส่วนหนึ่ง และจะสามารถขายในราคาเดิมของแต่ละขนาดให้ได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ดีกว่าไปรับราคาขึ้นตามกระแส ยิ่งจะทำให้ขายไม่ได้มากเหมือนเดิม

ในขณะเดียวกันจากการสำรวจอาหารทะเลแม่ค้าบอกว่าตอนนี้ราคาขายส่งเริ่มขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ยังขายในราคาเดิม และหากมีต้นทุนสูงขึ้นไปมากกว่านี้อาจจะต้องปรับราคาขึ้นตามอย่างแน่นอน