เศรษฐกิจ

งวดนี้หวยไม่แพง! แม่ค้าสลากแยกคอกวัว ลดราคาสลากเลขไม่สวย เหลือใบละ 55.-

โดย thichaphat_d

1 มี.ค. 2565

152 views

มีรายงานว่า ผู้ค้าสลากรายย่อยหลายราย บริเวณสี่แยกคอกวัว ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร เกือบทุกแผงมีการติดป้ายขายสลากในราคาใบละ 55 บาท ในหมวดเลขไม่สวย ส่วนในหมวดตัวเลขที่นิยมกันราคาขายยังเป็นไปตามกลไกของตลาด ที่มีราคาต้นทุนสูงอยู่ มาอย่างต่อเนื่อง


ปรากฎการณ์ราคาสลากขาดทุน จากราคาต้นทุนที่ออกจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลใบละ 70 บาท 40 สตางค์ ผู้ค้าต้องยอมขาดทุนหลายงวดติดต่อกัน เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิจากการซื้อสลากฯ


นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนนโยบาย ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ออกมาหลายรูปแบบเพื่อแก้ปัญหาสลากแพง กลับสร้างปัญหาในตลาด จนจำหน่ายสลากไม่ได้ตามเป้าที่ควรจะเป็น


ขณะที่ วานนี้ (28 ก.พ.65) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะชุดเฉพาะกิจในการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคา ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี


เปิดเผยภายหลังติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเกินราคาว่า ได้ให้นโยบายสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไปเร่งดำเนินการให้มีการขายสลากฯ (ลอตเตอรี่) ผ่านแฟลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือ หรือ แท็บเล็ต ทั้งหมด 100% หรือ 100 ล้านฉบับ เพื่อไม่ให้สามารถนำสลากเปลี่ยนมือเป็นทอดๆ ขึ้นราคาขายเกิน 80 บาท ได้ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ตั้งแต่งวดวันที่ 2 พ.ค.นี้


นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เพิ่มคิวอาร์โค้ด สำหรับผู้ค้า ที่ขึ้นทะเบียนสิทธิ์ซื้อ-จองรอบใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างคัดกรองผู้ได้รับสิทธิ์ เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดร้านค้าที่ขาย 80 บาท รวมถึงแจ้งร้านค้าที่ขายเกิน 80 บาทได้ ซึ่งการซื้อขายผ่านแฟลตฟอร์ม จะสามารถระบุตัวตนคนซื้อได้ เช่น นาย ก. ซื้อ ก็สามารถรับรางวัลได้เพียงคนเดียวเท่านั้น หากนำไปขายต่อ ให้นาย ข. ก็ไม่สามารถนำมาขึ้นเงินรางวัลได้


“ผู้ค้าสลากทุกคนจะต้องขายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ทุกคนต้องมี ซึ่งเรื่องนี้ง่ายอยู่แล้ว เมื่อได้โควตาคนละ 5 เล่ม สลากก็จะมีเลขระบุผู้ค้า สามารถนำไปใช้ขายผ่านแฟลตฟอร์มได้ โดยใช้แอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ถุงเงิน รับซื้อจ่าย ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตอนนี้ 100% ทุกคนต้องมีโทรศัพท์มือถือหมด ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ในการลงทุนทำมาหากิน ส่วนผู้พิการ ที่อาจจะได้รับผลกระทบ ก็ต้องไปแก้ไขกันทีละเรื่อง” นายอนุชา กล่าว


ในส่วนของการเปิดรับลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งฯ ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ม.ค.2565 นั้น มีผู้ลงทะเบียนสมัครจำนวน 1,039,868 ราย ได้มีประกาศให้ผู้สมัครเข้ามาตรวจสอบข้อมูล และยืนยันความถูกต้องข้อมูลตนเอง เมื่อวันที่ 7 – 13 ก.พ. 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่าง เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดกรองคุณสมบัติ โดยจะใช้ข้อมูลการเข้าร่วมมาตรการของรัฐมาพิจารณาคุณสมบัติ เช่น โครงการคนละครึ่ง เป็นต้น


นายอนุชา กล่าวว่า ยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา อาจทำไม่ได้ 100% ตามที่ประชาชนคาดหวังไว้ เพราะปัญหาเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน โดยคณะทำงานมองว่าอาจแก้ไขไม่ได้แล้ว แต่ก็มีเจตนาที่จะแก้ไขให้ได้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง


พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลาก เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถขายผ่านแพลตฟอร์มได้ตั้งแต่งวดวันที่ 2 พ.ค.นี้ โดยขณะนี้ประสานงานกับธนาคารกรุงไทย เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ถุงเงิน ให้รองรับการซื้อขายสลากได้ ไม่ใช่เป็นการสร้างแอปพลิเคชั่นขึ้นมาใหม่ ส่วนจะจำหน่ายได้หมดทั้ง 100 ล้านฉบับหรือไม่ คาดว่าจะต้องทยอยดำเนินการ


ด้าน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี รองประธานฯ และหัวหน้าชุดเฉพาะกิจในการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคา พร้อมด้วย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกันแถลงต่อผู้สื่อข่าว ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา


นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเมื่อวานนี้ 28 ก.พ. รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาตามโรดแมปของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เปิดให้ตัวแทนจำหน่ายสลาก สมัครเข้าร่วมโครงการ "สลาก80" เพื่อเป็นจุดที่ประชาชนจะสามารถซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท รวม 1,000 จุดทั่วประเทศ


หลังจากปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายประเภทบุคคลทั่วไป ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สมัครเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้นจำนวน 4,790 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ และจะดำเนินการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายแต่ละจังหวัดตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ในงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565


ในส่วนของการเปิดรับลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งฯ ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม 2565 นั้น มีผู้ลงทะเบียนสมัครจำนวน 1,039,868 ราย โดยเป็นผู้ลงทะเบียนสมัครรายใหม่ ปี 2565 จำนวน 903,492 ราย และเป็นผู้สมัครลงทะเบียนรายเดิมปี 2558 จำนวน 136,376 ราย และสำนักงานฯ ได้มีประกาศให้ผู้สมัครเข้ามาตรวจสอบข้อมูลและยืนยันความถูกต้องข้อมูลตนเอง เมื่อวันที่ 7 – 13 กุมภาพันธ์ 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่าง เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดกรองคุณสมบัติกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง


สำหรับ แนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติ คัดกรอง หาผู้จำหน่ายสลากจริงในราคา 80 บาท สำหรับผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายเดิม ปี 2558 ซึ่งยังสามารถทำรายการได้นั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ ได้ เตรียมจัดทำคิวอาร์โค้ด ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ เพื่อให้ประชาชนที่ซื้อสลาก สแกนแจ้งข้อมูล เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้จำหน่ายสลากด้วยตนเองจริง


นอกจากนี้ จะตรวจสอบจากรายการซื้อ-ขายสลากผ่านระบบแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ในขณะเดียวกันสำนักงานได้เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับ หน่วยงานภายนอกที่มีความน่าเชื่อถือเป็นผู้ทำการสำรวจและตรวจสอบผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ไปพร้อมๆ กันกับการให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ยืนยันตัวตนกับหน่วยงานที่สำนักงานฯ กำหนด


ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย และการเพิ่มมาตรการ หลักเกณฑ์การปฏิบัติในการรับสลากไปจำหน่าย เพื่อให้เกิดผลชัดเจนในการปฏิบัติ นั้น สำนักงานสลากฯ ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า ได้มีการกำหนดมาตรการลงโทษตัวแทนจำหน่ายนิติบุคคล ประเภท สมาคม องค์กร มูลนิธิ ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงการตรวจพบบนแพลตฟอร์มของกลุ่มบุคคลที่จำหน่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดช่วงระยะเวลาในการตรวจสอบ เป็น 4 ครั้ง

ครั้งที่ 1 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2564 – งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวม 4 งวด

ครั้งที่ 2 ตั้งแต่งวดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 – งวดวันที่ 1 เมษายน 2565 รวม 4 งวด

ครั้งที่ 3 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 เมษายน 2565 – งวดวันที่ 1 มิถุนายน 2565 รวม 4 งวด

ครั้งที่ 4 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 – งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 รวม 4 งวด


หากตรวจพบการกระทำความผิด ครั้งที่ 1 สำนักงานฯ จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้ตรวจสอบ ควบคุมสมาชิก

หากตรวจพบการกระทำความผิดซ้ำในครั้งต่อไป สมาคม องค์กร มูลนิธิ จะต้องถูกปรับลดจำนวนสลากที่สำนักงานฯ จัดสรรให้

โดยหากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 25 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2565

หากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 3 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 50 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2565

หากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 4 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 100 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 กันยายน 2565


ทั้งนี้ ในที่ประชุมเห็นว่า ควรพิจารณา บทลงโทษให้มีความเข้มข้น เด็ดขาดมากกว่านี้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ทั้ง 3 คณะ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงรุก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย


คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากเกินราคา มีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (นายเสกสกล อัตถาวงศ์) เป็นประธานอนุกรรมการ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล) เป็นรองประธาน และที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสมพาศ นิลพันธ์) เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ


คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาการเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลกินราคา มีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชาญกฤช เดชวิทักษ์) เป็นประธานอนุกรรมการ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นายมงคลชัย สมอุดร) เป็นรองประธาน และผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ


คณะอนุกรรมการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ มีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานอนุกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือผู้แทน เป็นรองประธาน และผู้อำนวยการสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ


ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ จะเริ่มทำงานทันที เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนงานไปได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว เป็นไปตามวัตถุประสงค์


อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า คณะกรรมการและสำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งดำเนินแนวทางตลอดจนมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาและคลี่คลายความรุนแรงของปัญหาราคาสลาก ในขณะเดียวกัน การแก้ปัญหาราคาสลากอย่างยั่งยืนนั้น จะต้องใช้เวลาและต้องใช้หลายมาตรการประกอบกัน


นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองประธานคณะกรรมการ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจในการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคา กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการว่า กรอบอำนาจหน้าที่ของชุดเฉพาะกิจนี้ จะเป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริง กรณีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย


รวมถึงติดตามผลการดำเนินงานของส่วนราชการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการรายงานผลการดำเนินการ ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ ได้เริ่มทำงานแล้ว โดยได้มีการตรวจสอบรายชื่อตัวแทนรายย่อยทั้งหมด


และเร็วๆ นี้ จะลงพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อขยายผลการตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรม ตนคาดว่า ภายใน 2 เดือน ปัญหาราคาสลากจะลดความรุนแรงลง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาสำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาว ตนจะเสนอแก้ไข พระราชบัญญัติสำนักงานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อกำหนดบทลงโทษผู้ค้าที่กระทำผิดขายช่วง ขายเกินราคา จากปัจจุบันมีโทษปรับเพียง 10,000 บาท ทำให้ผู้ขายเกินราคาไม่เกรงกลัว และยอมเสียค่าปรับ ดังนั้นต้องเสนอบทลงโทษที่เข้มข้นขึ้น และจะเข้าไปตรวจสอบการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยจะนำกฎหมายอื่นๆ มาเป็นเครื่องมือในการทำงานด้วย



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/aF6hIaeknKs

คุณอาจสนใจ

Related News