เผยปี 64 จีดีพีไทยขยายตัวได้ 1.6% ดีกว่าที่คาด - เปิดงบรักษาโควิด 2 ปี เกือบ 5 แสนล้าน

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ เปิดเผย จีดีพี.ไตรมาสที่ 4 ปี 64 ขยายตัว 1.9% โดยได้อานิสงค์จากการท่องเที่ยว การขนส่งการค้า และการเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้การบริโภคเอกชน และการส่งออกที่ดีขึ้น ส่งผลให้ทั้งปี 64 จีดีพี.ขยายตัวได้ 1.6% ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ว่าทั้งปีจะขยายตัวได้ 1.2%

ขณะที่ในปี 65 นี้ คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 3.5-4.5% โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 4% เนื่องจากการปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์ในประเทศ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 5 ล้านคน รวมทั้งการขยายตัวต่อเนื่องของการส่งออกสินค้า และแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนของภาครัฐ

อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่เป็นข้อจำกัด และปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจในปีนี้ คือเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นแรงกดดันเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงาน และราคาสินค้า โดยคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1.5-2.5% รวมถึงการกลายพันธุ์ของไวรัส ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีน และหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง จะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยกำลังหารือกับกระทรวงการคลัง และและแบงค์ชาติ เพื่อออกมาตรการมาช่วยเหลือ ซึ่งจะเป็นมาตรการเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้การแก้ปัญหาทำได้ตรงจุด จะไม่ใช้มาตรการพักชำระหนี้ เพราะจะทำให้เป็นการสร้างแรงจูงใจที่ไม่เหมาะสม

ด้าน ค่าเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลจากโควิดในภาพรวม 2 ปีที่ผ่านมา รวมกว่า 4.68 แสนล้านบาท แบ่งเป็นปี 63 จำนวน 1.94 แสนล้านบาท และปี 64 อีกจำนวน 2.74 แสนล้านบาท โดยเป็นการใช้งบประมาณจากการใช้เงินกู้ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ยังมาจากส่วนอื่น ๆ เช่น งบประมาณจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และงบกลาง

และขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ยังได้ทำเรื่องขอใช้เงินกู้จาก พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลโควิดให้กับประชาชนอีกจำนวน 50,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้

สำหรับความคืบหน้าการใช้จ่ายเงินกู้ใน พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาทนั้น ได้มีการอนุมัติไปแล้ว 3.9 แสนล้านบาท เหลือเงินอยู่ประมาณ 1 แสนล้านบาท ใช้สำหรับด้านสาธารณสุข 1.9 แสนล้านบาท, เพื่อการเยียวยาผลกระทบจากโควิด 1.6 แสนล้านบาท, และเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 1.2 แสนล้านบาท

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/qhbEWou8vx8