เศรษฐกิจ

'เฮียบุ๊ง' เปิดหน้าชน จี้รัฐเร่งตรวจสอบ ASF - ผู้เลี้ยงโอดหมดตัว หมูตายยกฟาร์ม แฉเริ่มระบาดตั้งแต่ปี 62

โดย thichaphat_d

12 ม.ค. 2565

172 views

จากกรณีที่ นายพัฒนพงศ์ การุณยศิริ หรือ เฮียบุ๊ง เจ้าของฟาร์มหมูใน จ.สิงห์บุรี ได้นำรถแบ็คโฮ มาขุดหลุมที่ฝังกลบซากหมู เก็บชิ้นส่วนเนื้อไขกระดูกหมูแม่พันธุ์ที่ป่วยตาย และทีมข่าวได้ส่งตัวอย่างไปตรวจที่หน่วยชันสูตรโรคสัตว์ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน เพื่อพิสูจน์ให้แน่ใจว่าหมูในฟาร์มตายด้วยเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican Swine Fever: ASF) หรือไม่


ก่อนหน้านั้น ‘เฮียบุ๊ง’ ได้จ้างแล็บบริษัทเอกชนเก็บตัวอย่างเลือดไปตรวจ และแจ้งกับเจ้าของฟาร์มว่าผลเป็นบวก หมูที่ตายติดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ออกเอกสารรับรองผลตรวจให้ว่าหมูตายด้วยโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร (ASF) กลัวเอกสารหลุด ไม่อยากมีปัญหากับกรมปศุสัตว์ และกรมปศุสัตว์ ก็ไม่ยอมรับผลตรวจดังกล่าว


ล่าสุดวานนี้ (11 ม.ค. 65) ผลตรวจออกแล้ว จากการตรวจไขกระดูกและน้ำในกระดูก ด้วยวิธี Real-Time PCR ยืนยันผลเป็นบวก หมูในฟาร์มของ ‘เฮียบุ๊ง’ ตายด้วยเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican Swine Fever: ASF) ซึ่งหน่วยชันสูตรฯ จะรายงานและส่งตัวอย่างให้กรมปศุสัตว์ตรวจยืนยันผลอีกครั้ง


‘เฮียบุ๊ง’ เปิดเผยว่า ถ้าไม่ประกาศโรคระบาดที่ร้ายแรงจะไม่มีวัคซีนใช้ และเรื่องก็จะเงียบหาย คนเลี้ยงหมูก็จะล้มหายตายจาก โรค ASF ร้ายแรงทั่วโลกซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ วอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐบาลและกรมปศุสัตว์ต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงของโรคระบาดนี้  เราสูญเสียมามากแล้วอย่าให้สูญเสียมากกว่านี้เลย  ถ้าเลี้ยงหมูแล้วขายไม่ได้ก็ประสบปัญหาขาดทุน  เร่งนำเข้าวัคซีนโดยเร็ว้เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร  จะช่วยเยียวยาไม่ควบคุมการระบาดก็คงแก้ไขปัญหาไม่ได้    


ขณะที่ผู้สื่อข่าว ได้รับข้อมูลว่ามีฟาร์มหมูรายย่อยแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท เลี้ยงหมูหลักร้อยตัว พบว่าหมูติดเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican Swine Fever: ASF) ทยอยตาย ทั้งนี้ ทราบว่าหมูบางตัวที่ยังไม่ตาย และตัวที่ใกล้ตายลำตัวเริ่มแดง แสดงอาการของโรค ทางฟาร์มก็คัดขาย ไม่งั้นหมูจะตายหมด ตอนนี้ในฟาร์มดังกล่าวไม่เหลือหมูสักตัวแล้ว เพราะบางส่วนตายด้วยโรค ASF บางส่วนทางฟาร์มรีบคัดขาย


ผู้สื่อข่าวพยายามประสานขอข้อมูลจากเจ้าของฟาร์ม แต่ไม่สะดวก ไม่ขอออกตัวกลัวมีปัญหาเพราะมีเงื่อนไขเรื่อง “ใบขนย้าย” เพราะต่อไปยังคงต้องประกอบอาชีพเลี้ยงหมูต่อกังวลว่าจะขายหมูไม่ได้ เจ้าของฟาร์มส่วนใหญ่ไม่มีใครกล้าพูดหรือให้ข้อมูลใด ๆ เพราะกลัวมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว


แหล่งข่าวรายหนึ่ง ทำงานอยู่ในฟาร์มให้ข้อมูลว่า “ถ้าในฟาร์มยังมีหมูอยู่ หากยุ่งกับกรมฯ มาก จะมีปัญหาวุ่นวายเรื่องใบขนย้าย ตอนนี้วุ่นวายมาก การขนย้ายหมูต้องมีใบประเมินจากปศุสัตว์อำเภอ ถึงจะคีย์มีขนย้ายได้ทั้งต้นทางและปลายทาง การขนย้ายแต่ละครั้งต้องมีการเจาะตรวจเลือดหมู ซึ่งมันอยู่ที่อำนาจของรัฐทั้งหมด หากไม่ออกไปขนย้ายให้ ก็ทำอะไรไม่ได้ หมูก็จะส่งขายไม่ได้ ธุรกิจค้าขายชะงัก ไม่อยากไปทะเลาะกับกรมฯ เพราะมันจะวุ่นวาย พูดไปก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะรัฐเขาก็คิดว่าหมูไม่เป็นโรค จะแก้อะไรได้”


ส่วนบางฟาร์มขนาดใหญ่ ที่ยังมีหมูเหลืออยู่ เจ้าของอยากให้ข้อมูลแต่พูดอะไรมากไม่ได้เพราะกลัวโดนกลั่นแกล้งจากปศุสัตว์ “ไม่ออกใบขนย้าย” ซึ่งจะทำให้ขายหมูไม่ได้ แม้จะพบว่าหมูในฟาร์มบางส่วนติดเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican Swine Fever: ASF) ตาย แต่บางฟาร์มเลือกที่จะเก็บซากไปฝังกลบเพื่อทำลายเอง


บางฟาร์มหรือเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูบางราย ไม่แจ้งให้กรมปศุสัตว์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ หวั่นเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบ ตามมาตรการควบคุมโรคของกรมปศุสัตว์ เกรงว่าหมูที่เหลือจะถูกกำจัด ฆ่ายกฟาร์ม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งในมุมของเจ้าของฟาร์มต้องการนำหมูเป็นไปขายพอได้เงิน ดีกว่าปล่อยให้หมูตายทั้งหมดไม่ได้อะไรเลย


ขณะที่นายพัฒนพงศ์ การุณยศิริ หรือ เฮียบุ๊ง เจ้าของฟาร์มหมูรายใหญ่ของ จ.สิงห์บุรี ยอมเปิดหน้าชนเพราะหมูในฟาร์มตายด้วยโรค ASF ส่วนหมูเป็นขายหมดแล้ว โดยได้ประสานขอตัวอย่างเลือดหมูจำนวน 4 ตัว ที่ป่วยใกล้ตายจากฟาร์มหมูรายย่อยจังหวัดใกล้เคียงที่รู้จักกัน


โดยได้นำตัวอย่างเลือดจำนวน 6 หลอด ส่งไปตรวจที่หน่วยชันสูตรโรคสัตว์ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และจะส่งไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ด้วย เพื่อพิสูจน์ยืนยันผลว่าหมูติดโรค ASF จริงหรือไม่ แม้ว่าเบื้องต้นทางฟาร์มได้ทำการตรวจหมูที่ตายและหมูบางตัวที่ป่วยใกล้ตาย พบว่าติดโรค ASF


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Eubiv5tbt3E

คุณอาจสนใจ