เศรษฐกิจ

ทุนจีนลุยโลก! นานาชาติยกการ์ดสูง ออกมาตรการรับมือธุรกิจ-สินค้าประเทศจีน

โดย paweena_c

14 ส.ค. 2567

85 views

นานาชาติยกการ์ดสูง หลังทุนจีนลุยโลก ออกมาตรการรับมือธุรกิจ-สินค้า จากประเทศจีน

พูดถึงทุนจีนที่กำลังมาแรงในขณะนี้นอกจากรถยนต์ไฟฟ้า คงหนีไม่พ้นแอปพลิเคชัน TEMU ที่มาจาก Pinduoduo อีคอมเมิร์ซจีนที่มีมูลค่าแซงหน้า Alibaba ซึ่งตอนนี้มีการกระจายตลาดออกมายังนอกประเทศ โดยให้บริการแบบไม่มีพ่อค้าคนกลาง ทำให้สามารถส่งออกสิ่งค้าได้ในราคาถูก ซึ่งโมเดล TEMU นั้นใช้วิธีการสร้างเน็ตเวิร์ค นำความต้องการของตลาดไปเสนอขายโรงงานผลิตสินค้า และให้ผู้ผลิต ผลิตสินค้าตามความตามความต้องการของลูกค้าในจำนวนมาก แล้วซื้อในราคาที่ถูกเพื่อเป็นการลดต้นทุนบริษัท ซึ่งถือเป็นเรื่องดีของบริษัทนั้น ๆ และนำมาขายลูกค้าโดยตรง

ปัจจุบันแอปพลิเคชั่น TEMU ขยายตลาดออกไปทั่วโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ ออสสเตรเลีย เยอรมัน ฝรั่งเศษ อังกฤษ สเปน และกำลังจะเข้าโซนฝั่งละตินอเมริกา

ด้วยความน่ากลัวของตลาดใหม่นี้ที่พึ่งเข้าไทยได้ไม่นาน มีหลายคนกังวลว่าการเข้ามานี้จะเป็นการทำลายตลาดภายในประเทศหรือไม่ แล้วประเทศที่ TEMU เข้าไปขยายแพลตฟอร์มอยู่ เขาจัดการกับตลาดนี้อย่างไร

'สหรัฐอเมริกา' ตั้งการ์ดป้องกัน ขึ้นภาษีนำเข้า-ส่งออก
ตลาด TEMU เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนกันยายน 2022 และประสบความสำเร็จอย่างมากในการตีตลาด โดยเริ่มจากการติดอันดับสูงสุดของร้านค้าแอปพลิเคชัน และในเดือนธันวาคม มีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์กว่า 44.5 ล้านคน ซึ่งแซงหน้าแอปฯแฟชั่นอย่าง Shein และ Wish ที่ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก แน่นอนว่ายังมีโฆษณา Super Bowl ของ TEMU ซึ่งเป็นจุดขายที่เป็นที่ต้องการและมีราคาถูก ทำให้ตลาดผันผวนอย่างมาก

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการป้องกันไม่ให้สินค้านำเข้าจากจีน ล้นทะลักเข้าสหรัฐฯ เนื่องจากกำลังการผลิตที่มากเกินไปของจีน รัฐบาลสหรัฐฯ จึงเลือกดำเนินการเชิงป้องกันด้วยการขึ้นภาษีสินค้าในการนำเข้าและส่งออก เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาบริษัทคู่แข่งของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้สินค้าระหว่างทั้งสองประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน การดำเนินการฝ่ายเดียวก็เหมือนกับการบีบลูกโป่ง ภาษีศุลกากรอาจทำให้การผลิตส่วนเกินออกจากสหรัฐฯได้ แต่แน่นอนว่ามันจะต้องเกิดขึ้นที่อื่นอีกเช่นกัน

'สหภาพยุโรป' กำหนดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน
ไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศกำหนดภาษีนำเข้าต่อจีน สหภาพยุโรปก็ได้กำหนดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า ที่ผลิตในจีน ทำให้นักลงทุนต่างจับตามองว่าจีนเป็นเป้าหมายต่อไปในการทำสงครามการค้า และจีนอาจตอบโต้ได้หลังจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ และอาจไม่มาในรูปแบบของภาษีนำเข้า

ยุโรปอาจได้รับผลกระทบจากการตอบโต้มากกว่าสหรัฐฯ เนื่องจากต้องพึ่งพาจีนในการขายและปัจจัยการผลิต แม้ว่ารถยนต์แบรนด์จีนคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 5% ของยอดขายรถยนต์ในยุโรป แต่ BMW, Mercedes-Benz, Renault และ Volvo ต่างก็ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน 

สถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านั้นอาจเกิดขึ้น หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งและดำเนินการตามข้อเสนอของเขาในการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนทั้งหมด 60% สิ่งนี้อาจทำให้การเติบโตของจีนลดลงประมาณ 1.5 เปอร์เซ็นต์ และกระตุ้นให้จีนตอบโต้อย่างรุนแรงยิ่งขึ้น 

'อาเซียน' พลิกวิกฤต 'สงครามการค้าสหรัฐ-จีน' ให้เป็นโอกาส
มาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงยืดเยื้อต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2560 สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เวียดนาม ไทย และมาเลเซีย มีแนวโน้มที่จะได้ประโยชน์มากขึ้น กล่าวคือเมื่อสหรัฐฯ ลดการนำเข้าจากจีน ก็จะหันมานำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ส่วนประกอบแผงวงจรรวม และเครื่องปรับอากาศ

เมื่อพิจารณาจากการนำเข้า-ส่งออกของสินค้ากับทั้งสองประเทศ พบว่า ประเทศสำคัญของ ASEAN เช่น ประเทศเวียดนาม ไทย และมาเลเซีย ส่วนใหญ่นำเข้าสินค้าจากจีนมากกว่าสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิด-19 ทำให้เวียดนามเร่งสร้างทางรถไฟเชื่อต่อกับจีนเพื่ออุ้มเศรษฐกิจในตอนที่ยังได้เปรียบ

ในขณะที่อินโดนีเซียออกกฎหมายขึ้นภาษีนำเข้าส่งออกสินค้าจีนเป็น 200% เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้ากว่า 3,000 รายการ แต่กฎดังกล่าวก็ถูกยกเลิกไป หลังจากโดนรายงานว่าเป็นปัญหาต่ออุตสาหกรรม



คุณอาจสนใจ