สรุปยอดงานมอเตอร์โชว์ 2024 ‘TOYOTA’ ยอดจองนำโด่ง รถยนต์ ‘ไฮบริด’ ยังนำ ‘EV จีน’

ผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เผยมียอดจองรถภายในงานรวมทั้งสิ้น 58,611 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27.5% ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัวรถยนต์และรถยนต์จักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมถึงแคมเปญกระตุ้นยอดขายของค่ายรถ โดยมียอดจองรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กว่า 32% และผู้เข้าร่วมชมงานเกิน 1.6 ล้านคน

การจัดงานในปีนี้มีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการจากประเทศจีนและเวียดนามที่นำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ เข้ามาให้ผู้บริโภค เลือกชม เลือกซื้อ เป็นจำนวนมาก โดยมีราคาตั้งแต่หลักแสนปลายๆ ไปจนถึงหลักล้านต้นๆ ทำให้มีผู้บริโภคให้ความสนใจเข้าร่วมงานมากถึง 1,610,972 คน ส่งผลให้ยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ภายในงาน 58,611 คัน แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ 5,173 คัน และรถยนต์ 53,438 คัน โดยเป็นยอดจองรถยนต์ไฟฟ้า 32.78%

ทั้งนี้ รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนได้รับความสนใจจากประชาชนเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายยุโรป ไม่ว่าจะเป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู และวอลโว่ โดยมียอดจองรวมกัน 17,517 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 32.78% ขณะที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นส่วนประกอบก็ยังคงมีสัดส่วนยอดจอง 35,921 คัน

โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคในปีนี้ให้การตอบรับกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวและเปิดจองภายในงานเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ที่มียอดจองเป็นสองเท่าของวันธรรมดา แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปให้สมกับช่วงที่ต้องรัดเข็มขัด จึงหันมาซื้อหารถใหม่ที่ตอบโจทย์ความคุ้มค่ามากขึ้น ขณะที่ตลาดรถหรูยังคงเติบโตตามเป้าโดยแต่ละค่ายรถต่างชิงเปิดตัวสินค้าใหม่แทบทุกรุ่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย ทั้งนี้แบรนด์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะรถยนต์ในกลุ่มไฮบริดกลับได้รับความนิยมดีมาก ทั้งโตโยต้า-ฮอนด้า-นิสสัน-มิตซูฯ-ซูซูกิ

ทั้งนี้ นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า รถยนต์ไฮบริดของโตโยต้าตอนนี้มีให้เลือกเกือบครบทุกรุ่น และอนาคตจะปูพรมให้ครบหมดทั้งเก๋งและปิกอัพ โตโยต้ามั่นใจว่ารถไฮบริดมีความได้เปรียบ อย่างแรกไม่ต้องพึ่งระบบสาธารณูปโภค และถ้าเปรียบเทียบตลอดการใช้งานก็น่าจะประหยัดกว่า ที่สำคัญสามารถลดอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ทันที

“เรายังเชื่อว่าตลาดรถไฮบริดในประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีความสำคัญ จากสัดส่วนยอดขายรถ EV ในประเทศไทยที่มีแค่ 10% ในขณะที่รถไฮบริดมีสัดส่วนสูงกว่าอยู่ที่ 12% และน่าจะขยายตัวออกไปได้อีกมากหลังจากทุกค่ายนำเสนอทางเลือกให้ลูกค้า”

นายยามาชิตะกล่าวว่า ส่วนยอดขายรถไฮบริดของโตโยต้าเมื่อปีที่แล้ว ทำได้ประมาณ 31,000 คัน คิดเป็น 30% ของตลาดไฮบริดโดยรวมในประเทศไทย โดยโตโยต้าได้มีการแนะนำ “ยาริส ครอส” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2566 ซึ่งได้เสียงตอบรับจากตลาดดีมาก ๆ และหากดูจากยอดขายรถไฮบริดในประเทศไทยเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สัดส่วนทางตลาดที่โตโยต้าทําได้สูงกว่า 40% ถือเป็นคำตอบที่ดีมาก

สำหรับยอดจองรถยนต์ทั้ง 53,438 คัน มีรายละเอียด ดังนี้