'การ์ตเนอร์' คาดรถอีวีมีสิทธิเป็นกระแสหลักในอนาคต เชื่อราคาจะลดลงมาก

การ์ตเนอร์ บริษัทวิจัยการตลาดชื่อดังและเป็นที่ยอมรับกันในระดับโลก ทำนายเอาไว้ในรายงานผลการวิจัยฉบับล่าสุดเกี่ยวกับรถ "อีวี" ว่า จะกลายเป็นกระแสหลักในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะราคาจะลดลงมาก



โดยเหตุผลหลัก เพราะการ์ตเนอร์เชื่อว่าในปี 2027 ที่จะถึงนี้ ต้นทุนในการผลิตอีวีโดยเฉลี่ยแล้วจะต่ำกว่าต้นทุนการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เชื่อเช่นนั้น เพราะเห็นได้ชัดว่ากำลังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ 2 อย่าง ที่ทำให้การผลิตรถอีวีง่ายขึ้น ผลิตได้เร็วขึ้น และต้นทุนต่ำลงมาก



อย่างแรก คือ กระบวนการผลิตที่เรียกว่า "จิกะแคสติง" (Gigacastings) เป็นวิธีการผลิตในแบบใหม่ คือ การทำให้ส่วนบอดี้ของรถ ซึ่งเดิมผลิตเป็นชิ้น ๆ แล้วนำมาเชื่อมต่อกันในภายหลัง ให้กลายเป็นชิ้นส่วนเพียงชิ้นเดียวขนาดใหญ่ ซึ่งเทสลานำมาใช้ในการผลิตบอดี้ส่วนล่างแล้ว ช่วยให้กระบวนการผลิตกระชับ รวดเร็ว และลดการพึ่งพาแรงงานคนลงได้ด้วย



2. สถาปัตยกรรมรถยนต์แบบรวมศูนย์ คือ การลดจำนวนชุดควบคุมลง มารวมอยู่ในที่เดียวกัน ช่วยลดต้นทุนลงได้อย่างชะงัด ซึ่งการลดต้นทุนการผลิตจะนำไปสู่การลดราคา และจะเป็นแรงจูงใจให้ผู้ใช้หันมาใช้รถอีวีกันมากขึ้นนั่นเอง



แต่ก็มีข้อที่น่าคิด คือ กระบวนการผลิตและเทคโนโลยีใหม่นี้ จะส่งผลให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ การซ่อมแซมโดยเฉลี่ยแล้วจะสูงขึ้นราว 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจกระทบในเชิงจิตวิทยาต่อผู้บริโภค รวมทั้งแวดวงประกันภัย เพราะจะเกิดกรณีที่ว่าค่าซ่อมแพงกว่าการซื้อรถใหม่ทั้งคัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/eQAZR9idxuY