อาชญากรรม

‘บิ๊กโจ๊ก’ ยัน ‘กำนันนก’ ปิดสวิตช์กล้องวงจรปิด-ส่งสัญญาณยิง ชี้พยานหลักฐานชัด ตร.ชั้นผู้ใหญ่เผ่นแน่บ

16 ก.ย. 2566

167 views

เปิดภาพวงจรปิด! งานเลี้ยงบ้านกำนันนก  เผย วงจรปิด 2 กล้องที่รอคอย กล้อง 1 ไม่ได้ใช้งานตั้งแต่ 23 ส.ค อีกกล้องกำนันนก ปิดสวิตซ์ไว้จึงไม่มีภาพช่วงเวลาเกิดเหตุ หลักฐานชัด ตร.แค่ 5 นาย ช่วย คนเจ็บ ส่ง รพ.  ตำรวจยศใหญ่เผ่นหนีแน่บ ด้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’ ระบุ ก่อนยิงเคลียร์กันเอาคนแก่ออกจากงานไปก่อน เปิดทางให้รถเตรียมออก กำนันนก ออกมาคุยกับหน่อง ส่งสัญญาณให้ยิง


วานนี้ (15 ก.ย.) เวลา 21.40 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาดูกล้องวงจรอีก 2 ตัว จากใน 15 ตัว ภายในบ้านของกำนันนก ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยใช้เวลาดูประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะนำภาพจากกล้องวงจรปิดบางส่วนในที่เกิดเหตุ ช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ มาเปิดเผยให้สื่อมวลชนได้ดู


กล้องวงจรปิดภาพแรก บันทึกภาพเวลาในกล้อง 21.27 น. (6 ก.ย.) เป็นภาพขณะที่ตำรวจ 3 นาย คือ ดต.สราวุธ , ดต.ชนาณัฐ และ พ.ต.ต.ณรงค์ อุ้มร่างสารวัตรศิว หลังถูกยิงบาดเจ็บขึ้นรถ


โดยมี จ.ส.ต.ทศพล แซ่อึ้ง พลขับของสารวัตรศิว วิ่งไปนำรถของสารวัตรศิว จ.ส.ต.เมทิศกร พันธ์ศรีจันทร์ ไปถ่ายรถเก๋งแคมรี่ส่วนตัวเข้ามารับสารวัตรศิว แล้วพาตัวสารวัตรศิว นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ส่วนตำรวจอีกคนนั่งเบาะหลังแล้วคอยเอามืออุดบาดแผลจากรอยกระสุน แล้วพลขับก็พาไป โรงพยาบาล


 จากนั้นก็เป็นภาพ ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ 1 ใน 6 ตำรวจที่ถูกจับในชุดแรก ถอดเสื้อ โดยมีปืนเหน็บไว้ที่เอวด้านขวา หลังอ้างว่าไม่มีปืน /ตำรวจอีกคนคือ ร.ต.ท.นิมิต สลิดกุล ก็มีการพกวิทยุและอาวุธปืนไว้ที่เอวขวาเช่นเดียวกัน


 และอีกภาพเป็นเวลาประมาณ 19.40 น. (6 ก.ย.) นายเด้ง ญาติของกำนันนก กับ นายต๋อง เดินเข้ามาในงาน และมีภาพส่งปืนให้ นายเด้ง เข้าไปในงานด้วย หลังมือปืนลั่นไก นายเด้ง ชักปืนออกมา ลักษณะปกป้องกำนันนก


อีกภาพเป็นช่วงก่อนเกิดเหตุตอน 2 ทุ่มกว่า ๆ นายหน่อง อยู่ในงาน ในกระเป๋ากางเกงมีปืนที่ใช้ก่อเหตุ


จากนั้นเป็นภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเวลาในกล้อง 21.29 น.(6 ก.ย.) หลังจาก พ.ต.ท. วศิน ถูกยิง จากนั้นสารวัตรอำนวยการไปช่วย พ.ต.ท.วศิน ที่ล้มอยู่ แล้วมี ตำรวจอีก 4 นาย คือ ดต.สราวุธ , พ.ต.ต.ณรงค์ , ร.ต.ท.จตุรวิทย์ และ พ.ต.ท.ภทร ไปช่วยพาขึ้นรถกระบะ รวมทั้งมีผู้กำกับเบิ้ม อยู่ด้วย


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ภาพแรกสิ่งที่สังคมสงสัย ตำรวจคนใดให้การเท็จ จะเห็นว่าคนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมีแค่นี้เอง ที่ให้การว่าช่วยก็ไม่ได้ช่วย คำให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ส่วนการดำเนินคดีจะร่วมกันพิจารณาแจ้งข้อหาให้การเท็จ ว่ามีตำรวจนายใดบ้างที่ต้องถูกแจ้งข้อหานี้


วันนี้ (15 ก.ย.) ดำเนินคดีนายเด้ง กับนายต๋อง ในกรณีพกปืน นายต๋อง เอาปืนมาให้นายเด้ง โดนแจ้งข้อาหาไปแล้วทั้งคู่ และวันนี้ได้ดูกล้องทั้งหมด สิ่งที่สังคมคาใจใครช่วย-ไม่ช่วยบ้าง ตำรวจในงานส่วนใหญ่มีปืน แต่ไม่ช่วย ทั้งที่เป็นเหตุซึ่งหน้า ซึ่งเตรียมดำเนินคดี


หลังเกิดเหตุแล้วตำรวจกลับไปช่วยผู้กระทำผิด แทนที่จะอยู่ข้างตำรวจ ตำรวจกลับไปช่วยผู้กระทำผิด ส่วนนายตำรวจระดับสูงเผ่นแน็บ แล้วบอกว่าไปช่วย แต่ก็ไม่ได้ช่วยเลย แบบนี้ย่ำแย่มาก ซึ่งจะดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัย



ส่วนกล้อง 2 กล้องที่สับสนกันตั้งแต่เช้า เพิ่งได้ข้อเท็จจริง ที่กู้ได้ 100% มีแค่ 13 ตัว ส่วนกล้องอีก 2 ตัว โดยตัวแรกกล้องไม่ได้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.


อีกตัวเวลาเดินมาที่ 10.16 น. วันเกิดเหตุ และไม่มีภาพหลังจากนี้ สรุปแล้วไม่มีการดึงปลั๊ก ไม่มีการถอดสาย หลังถอดบอร์ดออกตรวจสอบสรุปแล้ว กำนันนกไปกดสวิตช์ปิดตอนเวลา 10.16 น. ของวันเกิดเหตุ เหตุเพราะอาจมีคนมาเตือน ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาจัดสถานที่งานเลี้ยง คาดว่ามีคนไปเตือนเรื่องการจัดงาน กล้องต้องไม่ให้เห็นว่ามีใครมานั่งบ้าง จึงไปปิดกล้องเลยไม่มีการบันทึกภาพตั้งแต่นั้นมา


 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ระบุว่า “เหตุการณ์ในการยิงในงานนั้น คงไม่มีใครคิดว่าจะรุนแรงแบบนี้ หลังทะเลาะกัน กำนันไปคุยกับนายหน่อง มีพยานหลักฐานชัดเจนว่ากำนันสั่งยิง หลังยิงแล้วลูกน้องกำนัน ยืนคุมเชิงทุกจุด แต่ตำรวจต่างคนต่างออก ต่างคนต่างทิ้งหน้าที่  ตำรวจบางส่วนเห็นความผิดซึ่งหน้าแต่ไม่จับกุม อันนี้มีความผิดชัดเจน”


 เดิมทีที่สอบปากคำตำรวจในงานบอกว่าไปส่งคนเจ็บที่โรงพยาบาลเป็น 10 คน แต่ความจริงแล้วมีแค่ 5 คน เท่านั้นตามภาพวงจรปิดที่ปรากฎ เป็นสิ่งบ่งบอกว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไม่มีใครไปช่วยเลย ต่างคนต่างเอาตัวรอด ส่วนจะแจ้งจ้อหาใครบ้างวันนี้ (16 ก.ย) พิจารณากัน


 พยานหลักฐานมัดกำนันนก ตอนนี้มันจบแล้ว หลังจากนี้จะไล่ขยายผลต่อความร่ำรวยผิดปกติ เส้นทางการเงินมาจากไหน ต้องตอบให้ได้ และเรื่องธุรกิจ การประมูลงานต่างๆ ทั้ง 1,500 โครงการ มันยิ่งกว่าผิดปกติ ต้องตรวจสอบ ถ้าผิดต้องถูกดำเนินการฟอกเงินยึดทรัพย์ รวมถึงดำเนินการเรื่องภาษี


การปิดกล้องต้องตั้งใจปิด คงไม่ได้คิดจะสังหารในตอนนั้น แค่ไม่อยากให้เห็นว่ามีใครบ้างในงาน คาดว่ามีคนเตือนซึ่งสารวัตรศิว เข้ามาในงานได้แป็บเดียวก็มีการยิงเกิดขึ้น ในงานลูกน้องกำนันมีปืนหมด ตำรวจก็มีปืน ส่วน นายหน่อง ก็พกปืนตลอด สรุปเป็นความหึกเหิม เป็นความคึกคะนอง


ในงานนายต๋อง ส่งปืนให้ นายเด้ง ซึ่งก็รู้แน่ว่าถ้ามีเรื่องต้องมีการใช้อาวุธ คนในงานรู้ว่าลูกพี่มีปัญหากับ สารวัตรคนนี้ ถ้ามีปัญหาก็ต้องยิงกัน จึงตระเตรียมไว้ก่อน วงจรปิดมีมากกว่านี้ “ก่อนยิงมีการเคลียร์กัน มีการเอาคนแก่ออกจากงานไปก่อน เปิดทางให้รถเตรียมออก จากนั้นกำนันนกออกมาคุยกับ นายหน่อง และกำนันนกส่งสัญญาณให้ยิง”



มูลเหตุสำคัญ 1.การขอลูกน้องให้มาทำหน้าที่ จยย.สายตรวจ 2.มีปัญหาเรื้อรัง สารวัตรศิวกร เข้ามาปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทำให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งไม่ได้ ทำให้กำไรน้อยลง เป็นมูลเหตุให้มีการลุแก่อำนาจ ใช้ปืนสั่งยิงมูลเหตุมาจากเรื่องนี้


ส่วนปัญหาเรื่องการดวลเหล้านั้น มีการดวลเหล้ากัน ระหว่างสารวัตรศิว กับกำนันนก เรื่องดวลเหล้านั้นเป็นแค่ส่วนเดียว เรื่องหลักเป็นเรื่องการไม่พอใจ สารวัตรคนนี้อยู่แล้ว เรื่องทำให้รถเขาวิ่งลำบาก และเรื่องย้ายลูกน้อง รวมถึงกาารดวลเหล้า ซึ่งสารวัตรศิว ไปบ้านนี้ครั้งแรก ผู้กำกับเบิ้ม ชวนไป เพื่อให้รู้จักมักคุ้นกับกำนันนก เพราะตัวเองก็สนิทอยู่แล้ว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/MpnIT3j2Gsc

คุณอาจสนใจ

Related News