ครอบครัว-เพื่อน-แฟนสาว เปิดใจสุดเศร้าถึง 'หมู่หนุ่ม' รับยังทำใจไม่ได้ แต่ภูมิใจถูกยกย่องเป็น ตร.น้ำดี

กรณีนายกิตติรัช ราญประเสริฐ ซึ่งเป็นครูสอนขับรถ ขับรถเก๋งหลบหนีการตรวจจับของ ส.ต.อ.เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผู้บังคับหมู่สายตรวจ ทางหลวง2 กองกำกับการ8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา แล้วยังขับรถเบียดรถจักรยานยนต์ของส.ต.อ.เศรษฐการ ที่ขี่ติดตามไป ทำให้รถเสียหลักล้ม เสียชีวิตคาที่ ก่อนจะหลบหนีไป แล้วย้อนกลับมามอบตัวหลังผ่านไปเกือบ 6 ชั่วโมง



ทันทีที่มาถึง นายกิตติรัช ก็โดนสอบปากคำต่อ กระทั่งผ่านไป 12 ชั่วโมง นับตั้งแต่เข้ามอบตัวกับตำรวจทางหลวง นาย กิตติรัช ยอมเปิดปากสารภาพกับพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ถึงสาเหตุที่เขาขับรถเบียดรถจักรยานยนต์สายตรวจของ ส.ต.อ.เศรษฐการ เพราะตั้งใจที่จะขับรถชน เพียงแค่ให้รถของตำรวจล้ม ไม่สามารถติดตามจับเขาได้ แต่กลายเป็นว่าเขาทำให้ตำรวจเสียชีวิต



ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา คือ "เจตนาฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่" ซึ่งมีโทษ "ประหารชีวิต" / ทำให้เสียทรัพย์ / ขับรถประมาทหวาดเสียว และจอดรถในเขตห้ามจอด พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี



ต่อมาศาลธัญบุรีมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว นายกิตติรัช ทำให้ถูกคุมตัวเข้าเรือนจำจังหวัดธัญบุรี ทันที



จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ปี 2560 นายกิตติธัช ต้องโทษคดีเมาแล้วขับ ถูกศาลอาญามีนบุรีสั่งปรับเป็นเงิน 4,000 บาท ส่วนคดีอื่นนั้นยังไม่พบ อย่างไรก็ตามจากการตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการเป่านั้น ขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ต้องรอผลการตรวจเลือดหาสารเสพติดและอื่นๆ จากโรงพยาบาลมาประกอบอีกครั้ง



วานนี้ (24 ก.พ.) ส.ต.อ.ภาสกร ตรีภพ ผู้บังคับหมู่ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อนคู่บัดดี้ ของ ส.ต.อ.เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. หรือ หมู่หนุ่ม เดินทางมาร่วมรดน้ำศพและฟังสวดพระอภิธรรม ที่ศาลา 5 วัดตรีทศเทพวรวิหาร



ส.ต.อ.ภาสกร เปิดเผยว่า ตนกับหมู่หนุ่ม เป็นตำรวจที่เข้ามาสังกัดที่สถานีตำรวจทางหลวง 2 พร้อมกันและช่วงวัยใกล้กัน จึงจับเป็นคู่บัดดี้กันมาเกือบ 3 ปีแล้ว ซึ่งจะออกตรวจพร้อมกัน แต่แบ่งพื้นที่กันรับผิดชอบ โดยวันเกิดเหตุ ตนกับหนุ่มก็ออกปฏิบัติหน้าที่ด้วยกันตามปกติ แต่ตอนช่วงเกิดเหตุตนได้เข้าไปพักที่ตู้ และกำลังเตรียมจะออกปฏิบัติหน้าที่ต่อ แต่ก็มาเกิดเหตุขึ้นกับเพื่อนก่อน



ส.ต.อ.ภาสกร กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตั้งแต่รู้จักกันมาเกือบ 3 ปี หนุ่มเป็นคนนิสัยดี ร่าเริงมาก มีความโอบอ้อมอารี เป็นจิตอาสา จะเห็นคนเดือดร้อนไม่ได้ ต้องยื่นมือไปช่วย ไม่ว่าผู้ใช้ทางจะยางแตก ยางรั่ว หนุ่มก็ต้องเข้าไปช่วยหมด และภาพที่เพื่อนๆ คุ้นเคย คือหนุ่มเป็นคนรักสัตว์ เวลาเห็นจะเข้าไปช่วยเหลือ เข้าไปอุ้มโดยไม่รังเกียจ



ตอนนี้ตนยังทำใจไม่ได้ และการทำงานต้องใช้รถจักรยานยนต์รุ่นเดียวกันกับที่เพื่อนเกิดเหตุ ตอนนี้ยังทำใจขับขี่รถไม่ไหว เพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะจากไปจากเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าเป็นคนเลวจากไป คงจะไม่ขนาดนี้ แต่หนุ่มเป็นคนดีจริงๆ คืนก่อนเกิดเหตุ



น. ที่ศาลา 5 วัดตรีทศเทพวรวิหาร ครอบครัว เพื่อนข้าราชการตำรวจ ผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.อ.เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผู้บังคับหมู่ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวงเดินทางมาร่วมรดน้ำศพและไว้อาลัยแน่นวัด ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพและร่วมสวดพระอภิธรรมศพ บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า



โดยร่างของ ส.ต.อ.เศรษฐการ ถูกคลุมด้วยธงชาติไทย ทางครอบครัวและแฟนสาวนั่งอยู่ข้างๆ ร่างของส.ต.อ.เศรษฐการ ร่ำไห้ตลอดเวลาด้วยความเสียใจเพราะยังทำใจไม่ได้กับเหตุที่เกิดขึ้น ขณะที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ส่งพวกหรีดมาให้ หนึ่งในนั้นมีพวงหรีดจาก พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย อดีต รอง ผบ.ตร.



จ่าสิบเอก ประถม ลอยขามป้อม พ่อของ ส.ต.อ.เศรษฐการ นั่งร้องไห้ตลอดเวลา เผยว่า หนุ่มทำแต่งานนานทีจะกลับมาที่ขอนแก่น ภูมิใจในตัวลูกที่สุดถูกยกย่องให้เป็นตำรวจน้ำดี พ่อมีลูกชายคนเดียวยอมรับว่าเสียใจมาก เลี้ยงมากับมือ ลูกชายชอบช่วยเหลือคนอื่นตั้งแต่เล็ก จริงๆ พ่ออยากให้เป็นทหารเพราะพ่อก็เป็นทหาร แต่ลูกอยากเป็นตำรวจจึงไปสอบโดยไม่บอกพ่อแม่ พ่อมารู้ทีหลังว่าลูกชายสอบตำรวจไปอยู่ภาคใต้



“เสียใจสุดๆ ถ้าลูกเราเป็นคนร้ายพ่อจะไม่ว่าสักคำ ทำไมตำรวจดี ๆ ต้องมาจบอย่างนี้ จะว่าแค้นก็แค้น แต่แค้นก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาก พ่อเป็นทหารไม่มีใครเห็นพ่อมานั่งร้องเห็นแบบนี้หรอก เรื่องคดีก็ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการ พ่อไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ไม่อยากได้อะไร พูดตรงๆ กระแสตำรวจขาลง แต่อย่างน้อยลูกชายของพ่อคนหนึ่งที่เป็นตำรวจน้ำดีพ่อก็ภูมิใจแทนผู้บังคับบัญชา”



นางพิมพิลา ลอยขามป้อม แม่ของ ส.ต.อ.เศรษฐการ เผยว่า หลังเกิดเหตุแฟนสาวของลูกชาย โทรมาบอกตนว่า “แม่ทำใจดี ๆ นะ พี่หนุ่มถูกรถชนเสียชีวิตคาที่” จากนั้นตนเข่าทรุดล้มทั้งยืน ส่วนเรื่องที่ลูกชายจะขอแต่งงานกับแฟนสาวนั้น ตนก็ยังไม่ทราบเรื่องเพราะลูกชายยังไม่ได้เล่าให้ฟัง แม่อยากให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด “ทีแรกแม่ไม่อยากให้เขาเป็นตำรวจ เพราะใครๆ ก็ไม่ค่อยรักตำรวจ ลูกบอกว่าตำรวจดีๆ ก็มี คนชั่วก็มี เงินบาทเงินสลึงหนึ่งหนุ่มไม่เคยคิดเอากับเขาหรอก”



ลูกชายอยากเป็นตำรวจ เคยไปสอบจะไปเป็นตำรวจอยู่ภาคใต้ บอกภาคใต้อันตราย จากนั้นเขาก็มาสอบที่กรุงเทพฯ ตอนรับศพแม่ได้บอกลูกว่า หนุ่มพ่อแม่น้องมารับหนุ่มแล้วนะ แม่ไม่คาดคิดว่าจะเหตุนี้ขึ้น” ลูกชายเป็นคนขยัน จะไม่ค่อยเล่าเรื่องงานให้แม่ฟัง ส่วนมากที่คุยกันลูกชายจะทักแชตไลน์ถามเป็นยังไงบ้าง ส่งสติ๊กเกอร์ให้ กินข้าวหรือยัง



นางสาวจิตติภา ลอยขามป้อม น้องสาว ส.ต.อ.เศรษฐการ ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า หลังเกิดเหตุแม่โทรมาบอก ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ที่อุดรธานี น้ำเสียงของแม่ไม่โอเคดูเสียทรง ปกติแม่เป็นคนเก็บอาการ พอทราบข่าวตนก็ได้แต่คิดว่าคงไม่ใช่พี่ชายตนหรอก รู้สึกช็อกมากไม่คิดว่าจะเป็นพี่ตัวเอง ยิ่งเห็นคลิปยิ่งช็อก ไม่รู้ว่าว่าตอนนั้นพี่คิดอะไรอยู่ มันเป็นความสูญเสีย ครอบครัวเสียใจเพราะพี่ชายเป็นเสาหลัก ยอมรับว่าโกรธที่คนก่อเหตุหลบหนี เรื่องคดีปล่อยให้ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่



“พี่ส่งเสียตนเองเรียนจนจบ คุยกันไว้ว่าถ้าเรียนจบจะถ่ายรูปรับปริญญาด้วยกัน ตอนนี้หนูจบแล้วแต่พี่ก็ไม่อยู่แล้ว ตอนนี้หนูยังรู้สึกเฟล ทำอะไรไม่ถูกตั้งตัวไม่ติด มันเหมือนฝันอยู่ แต่มวันก็เกิดขึ้นแล้ว ตอนนำศพมาที่วัดฯ ตนก็บอกว่าพี่หนุ่มหนูเรียนจบแล้ว สิ่งที่พี่อยากเห็นหนูก็ทำให้ดูแล้ว แต่พี่ก็ยังไม่ได้เห็นเลย พี่รักอาชีพตำรวจมาก ปีๆ หนึ่งพี่ไม่ค่อยได้กลับบ้าน พี่ทุ่มสุดตัวให้กับอาชีพนี้ ก็เคยคุยกับพี่บอกให้นอนพักผ่อนเยอะๆ เพราะเป็นห่วง พี่ขับขี่รถ สิ่งที่กลัวที่สุดก็คืออุบัติเหตุ”



ทีมข่าวได้คุยกับแฟนสาวของ ส.ต.อ.เศรษฐการ เปิดเผยสั้นๆ ว่า ตนกับแฟนหนุ่ม (ส.ต.อ.เศรษฐการ) มีแพลนจะแต่งงานกันจริง แต่ยังไม่ได้คุยกันเป็นกิจลักษณะว่าจะแต่งตอนไหน แต่เขาคุยกับทางครอบครัวเขาเรียบร้อยหมดแล้ว ตนไม่คิดว่าจะเกิดการณ์นี้ขึ้น ตนอยากทวงความยุติธรรมให้แฟนหนุ่ม ตนไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะดูจากคลิปมันเหมือนตั้งใจ



ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.เดินทางมาเป็นประธานในพิธีสวดอภิธรรมศพ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัว ส.ต.อ.เศรษฐการ ลอยขามป้อม หรือ หมู่หนุ่ม ผู้บังคับหมู่ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่ศาลา 5 วัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังถูกครูสอนขับรถชนจนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่



พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มาร่วมให้กำลังใจและมอบเงินให้กับครอบครัว เบื้องต้นจะได้รับเงินจากสวัสดิการต่างๆ ร่วม 375,000 บาท และเงินส่วนอื่นรวมอีก 900,000 บาท โดบผู้บังคับบัญชาแต่ละสังกัดจะร่วมนำเงินมาสนับสนุนครอบครัวผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม คาดว่าจะได้ร่วมหลักล้านบาท



หากพิจารณาตามหลักเกณฑ์แล้วเข้าข่าย ทายาทจะได้รับสิทธิ์สอบเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ สำหรับการปูนบำเหน็จนั้น หากศาลพิพากษาในข้อหาเจตนาฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีโทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต ผู้เสียชีวิตจะได้เลื่อนขั้น 4 ชั้นยศ เป็น ร.ต.ท.แต่หากสั่งฟ้องเป็นคดีอุบัติเหตุจะเลื่อนขั้น 3 ชั้นยศ เป็น ร.ต.ต.ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ



ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะนำกรณีดังกล่าวไปปรับปรุงยุทธวิธีให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่มากขึ้น เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้า และผู้เสียชีวิตได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ติดตามต่อไปกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

https://youtu.be/bzp3IJYveB0