อาชญากรรม

สะเทือนขวัญ! หนุ่มหึงโหด ฆ่าหั่นศพกิ๊กสาว ฝังใต้ทางด่วน หลังก่อเหตุยังใจเย็น รับเลียนแบบหนัง

โดย passamon_a

2 ต.ค. 2565

518 views

หนุ่มวัย 35 หึงโหด กิ๊กสาวไม่ยอมเปิดตัว กระหน่ำแทงเสียชีวิต นอนเฝ้าศพ 1 วัน ก่อนหั่นศพแยกยัดใส่ถุงขยะ ฝั่งตอม่อสะพานใต้ทางด่วน


เป็นคดีสะเทือนขวัญ พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุสุดโหดเหี้ยม ฆ่าและหั่นศพ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเย็น วันที่ 1 ต.ค.65 ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดสมุทรปราการ และตำรวจ สน.โครกคราม แพทย์นิติเวช เข้าตรวจสอบป่าใต้สะพาน ทางด่วนฉลองรัช ถนนเรียบทางด่วนรามอินทรา หลังรับแจ้งว่า มีคนร้ายฆ่าหั่นศพ แล้วนำมาฝั่งบริเวณนี้


เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ขุดหลุมฝังชิ้นส่วนผู้เสียชีวิต ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็พบถุงดำขนาดเล็กใหญ่ อยู่ในหลุมจำนวน 7 ถุง เมื่อขุดมาแล้วก็ทยอยเปิดดูทีละถุง


ถุงที่ 1 พบเป็นแขนซ้าย ห่อถุงพลาสติกสีชมพู 1 ชั้น เเละพลาสติกสีดำ อีก 1 ชั้น  ลักษณะถูกของมีคมคุณภาพพิเศษ เฉือนตั้งแต่ต้นแขนซ้าย ติดหัวไหล่ เเละช่วงข้อพับมีการตัดเส้นเอ็น

ถุงที่ 2 พบชิ้นส่วน อยู่ในถุงพลาสติกสีชมพูอีก 2 ชั้น เเละถุงพลาสติกสีดำ 1 ชั้น ถุงนี้ใส่ส่วนศีรษะ คงสภาพศีรษะ ใบหน้า และลำคอ จากสังเกตพบใบหน้ามีรอยฟกช้ำ เเละพบว่าในช่องปากมีฟันหัก ที่กะโหลกศีรษะ มีร่องรอยคล้ายถูกทำร้าย

ถุงที่ 3 ใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีดำ เป็นท่อนขาซ้าย ลักษณะตัดตั้งแต่หัวเข่าลงมาถึงเท้า

ถุงที่ 4  ชิ้นส่วนมือขวา  ลักษณะตัดตั้งเเต่ส่วนข้อศอกไปจนถึงปลายนิ้ว

ถุงที่ 5 ชิ้นส่วนขาขวา  ลักษณะเฉือนตัดตั้งเเต่หัวเข่า ถึงปลายเท้า

ถุงที่ 6 เป็นถุงขนาดใหญ่ ใส่ช่วงลำตัวช่วงบน ตั้งเเต่หน้าอกจนถึงเอว โดยในถุงมีลูกเหม็นใส่มาเพื่อดับกลิ่น

ถุงที่ 7 เป็นถุงขนาดใหญ่ ใส่ลำตัวช่วงล่าง ตั้งเเต่เอวจนถึงต้นขา


เจ้าหน้าที่ได้มีการนำชิ้นส่วนต่าง ๆ ของผู้เสียชีวิต มาเรียงเป็นร่าง เพื่อถ่ายภาพนิ่ง และวัดชิ้นส่วน และความสูงของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังพบเสียมและถุงมือ ของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ โดยพบว่าลักษณะการหั่นศพนั้น คนร้ายมีความชำนาญ และใช้ของมีคมที่มีประสิทธิภาพ เพราะตัดเฉือนได้เรียบเนียน


พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายชาญวิทย์ หรือดอน วงศ์สหาก อายุ 35 ปี ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ นางสาวอรนันท์ หรือพิณ นราทร อายุ 30 ปี ซึ่งทั้งสองคน มีความสัมพันธ์แบบไม่เปิดเผย หรือกิ๊ก


โดยผู้เสียชีวิต ทำงานเป็นเซลล์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รู้จักและคบหากับนายชาญวิทย์ มา 2 ปี ทั้งสองคนจะมาเปิดห้องพักรายวันภายในซอยสุขุมวิท 115 อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ในระยะหลัง เริ่มมีปากเสียง เพราะนายชาญวิทย์ ไม่พอใจผู้เสียชีวิต ที่ไม่ยอมเปิดตัวว่าคบหากัน และยังพยายามตีตัวออกห่าง


วันที่ 28 ก.ย.65 ทั้งสองคนมาเปิดห้องพักเหมือนที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. ทั้งคู่มีปากเสียงกัน เกี่ยวกับเรื่องปัญหาความรัก จากนั้นนายชาญวิทย์ ก็ลงมือก่อเหตุฆ่านางสาวอรนันท์ จนเสียชีวิต ด้วยการใช้มีดแทงตามร่างกายหลายแผล จากนั้นก็ลากร่างของนางสาวอรนันท์ ไปไว้ในห้องน้ำ เปิดน้ำทิ้งไว้เพื่อล้างเลือด และยังใจเย็น นอนอยู่ในห้องกับศพ 1 คืน


ช่วงสายวันที่ 29 ก.ย.65 ผู้ต้องหาหาทางเพื่ออำพรางศพ ตัดสินใจใช้มีด ใบเลื่อย และอุปกรณ์ต่าง ๆ ชำแหละร่างของนางสาวอรนันท์ อย่างใจเย็น โดยแบ่งออกเป็น 7 ส่วน เฉือน สับ ข้อต่อกระดูก ตัดเป็นชิ้น ๆ


จนวันที่ 30 ก.ย.65 ช่วงกลางคืน นายชาญวิทย์ ขับรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว นำชิ้นส่วนร่างของนางสาวอรนันท์ ใส่กระเป๋าและถุงดำ ออกจากที่พัก ซึ่งช่วงนี้เห็นภาพวงจรปิด ตอนที่นายชาญวิทย์ออกมาจากลิฟท์ ถือถุงดำขนาดใหญ่ 2 ถุง ถุงหนึ่งพาดไหล่ อีกถุงถืออยู่ในมือ ในถุงนั้นคือชิ้นส่วนของนางสาวอรนันท์


จากนั้นก็นำถุงชิ้นส่วนนี้ขึ้นรถ ขับมากจากจังหวัดสมุทรปราการ มาฝั่งบริเวณตอม่อใต้ทางด่วน โดยจอดรถยนต์ไว้ข้างทาง ก่อนจะเดินข้ามถนนมาบริเวณจุดที่ฝัง ซึ่งเป็นป่าใต้สะพานและเป็นมุมอับสายตา ไม่มีไฟ เเละไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนหลุมที่ฝังได้ขุดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว


ส่วนสาเหตุการก่อเหตุ จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายชาญวิทย์ อ้างว่า ไม่ได้ตั้งใจฆ่า แต่พลั้งมือ เนื่องจากไม่พอใจที่ฝ่ายหญิง ไม่ยอมเปิดเผยกับคนอื่นว่าคบกัน เละมีความหึงหวงเกรงว่าจะปันใจให้ชายอื่น จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน เเละลงมือทำร้ายร่างกาย ซึ่งฝ่ายชายพยามยามเก็บความรู้สึก และมีการเตรียมจะฆ่าผู้หญิง และหั่นศพ มาเป็นเดือนแล้ว โดยเตรียมอุปกรณ์ เช่น เลื่อย มีด ค้อน ไว้ล่วงหน้า ก่อนจะมีการนัดฝ่ายหญิงมาเจอที่ห้องที่เกิดเหตุ จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ ว่าก่อเหตุคนเดียว


ส่วนการจับกุมครั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เเม่บ้านของที่พักแห่งนี้มีไหวพริบเเละช่างสังเกต เนื่องจากเเม่บ้านจะเข้าไปทำความสะอาดห้องพักที่อยู่ติดกับห้องเกิดเหตุ เเต่ดันเปิดห้องผิด ช่วงที่เปิดเข้าไปในห้องนั้นผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ภายในห้องพัก เมื่อเเม่บ้านเข้าห้องไป ก็ได้กลิ่นคาวเลือด เเละในห้องน้ำมีการเปิดก็อกน้ำทิ้งไว้ ที่พื้นมีรอยคล้ายคราบเลือด จึงสงสัยว่าห้องนี้ต้องเกิดเหตุไม่ดี จึงรีบเเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ย. ตำรวจจึงไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าว เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ก็พบผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในห้อง ใช้ชีวิตปกติ ไม่มีท่าทีขัดขืน เมื่อสอบถามว่า ในห้องทำไมมีคราบเลือด เจ้าตัวก็ยอมรับกับตำรวจว่าฆ่าเเละหั่นศพแฟนตนเอง เเละนำมาฝังไว้ที่จุดพบศพ


ส่วนการก่อเหตุ และวิธีหั่นศพ นั้น จากการสอบปากคำ นายชาญวิทย์ ให้การว่า การก่อเหตุเเละการชำแหละศพ อำพรางซ่อนเร้นศพนี้ ได้เเนวทางมาจากการดูภาพยนตร์ฆาตกรรมเเนวสืบสวนสอบสวน ฆ่าหั่นศพของฝรั่ง จึงนำมาเลียนเเบบ ส่วนวิธีการคือ มีการใช้มีดปลายเเหลมเเทงตามลำตัวของผู้ตายกว่า 10 แผล ส่วนวิธีการหั่นศพ ใช้ขวานที่มีความคมสับตามข้อต่อ ทำให้ชิ้นส่วนศพขาดในทันที  


ต่อมา ตำรวจประสานนักประดาน้ำ เพื่อช่วยงมหาหลักฐานในการก่อเหตุ ซึ่งจากคำให้การ นายชาญวิทย์ ระบุว่า เมื่อฝังศพเสร็จแล้ว ได้นำมีด เลื่อย ขวาน แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต นำมาโยนทิ้งที่คลองบางขวด ห่างจากตลาดนัดเลียบด่วน 100 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เวลาในการงมน้ำหาของกลางมากกว่า 2 ชั่วโมง ก็พบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต นำขึ้นมาจากน้ำได้ 1 เครื่อง เลื่อย และแป้นคีย์บอร์ดแมคบุ๊ค


ตลอดการสอบปากคำ พบว่า นายชาญวิทย์มีท่าทางนิ่ง เรียบเฉย และให้ความร่วมมือกับตำรวจ ซึ่งสาเหตุที่ทำไปเพราะหึงหวงเท่านั้น ส่วนนายชาญวิทย์ หลังก่อเหตุฆ่ากิ๊กสาวและหั่นศพไว้ ก็ยังใช้ชีวิตปกติ โดยพบว่า บ่ายวันที่ 29 หลังหั่นศพแยกชิ้นส่วนแล้ว นายชาญวิทย์ลงมากินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งตรงข้ามที่พัก สั่งผัดกะเพรา แม่ค้าให้ข้อมูลว่า นายชาญวิทย์มีอาการเหม่อลอย และกินอาหารไม่ลง เขี่ยข้าวไปมา


วันที่ 30 ก่อนจะนำศพไปฝั่ง ก็ลงมากินข้าวที่ร้านเดิม และบอกกับแม่ค้าว่า เครียดจัด กินอะไรไม่ลง ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ควมคุมตัวไปสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยวันนี้ (2 ต.ค.) จะมีการแถลงข่าว รายละเอียดคดีนี้


รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/iE0tQQwOQcU


คุณอาจสนใจ

Related News