รวบแล้ว! คนร้ายปีนหลังคา ซ้อมยายวัย 74 ชิงทรัพย์ สารภาพหาเงินไปเล่นพนัน-เปย์หญิง

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุปีนหลังคา โรยตัวเข้าไปทำร้ายร่างกายคุณยายเตียง อายุ 74 ปี และชิงทรัพย์ ในร้านขายของชำ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม คนร้ายต่อยที่ใบหน้าคุณยายจนฟันปลอมหลุด จิกหัวกระแทกพื้น จับมัดมือ เชือกรัดคอ และใช้ผ้านวมคลุมศีรษะ และล็อกบ้านคุณยายไว้ ได้เงินสดไป 30,000 บาท เหตุเกิดวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา


วันที่ 10 ก.ย.65 ตำรวจสืบสวนนครปฐม จับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว คือ นายถนอมจิตร สุดโส อายุ 41 ปี พร้อมของกลางที่ก่อเหตุ มีกระเป๋าผ้า ธนบัตรเก่าที่สะสม เครื่องประดับจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้ที่ห้องพัก ย่านลาดพร้าว กทม.


พลตำรวจโทธนายุทตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาถือเป็นภัยสังคม ก่อเหตุกับคนชรา โดยผู้ต้องหาวางแผนตั้งใจจะมาชิงทรัพย์คุณยาย เพราะเคยทำงานรับจ้างใกล้ร้านของคุณยาย และเคยมาซื้อของที่ร้าน จึงรู้ว่าคุณยายอาศัยเพียงลำพัง


วันเกิดเหตุช่วง 4 ทุ่ม วันที่ 4 ก.ย. ขณะนั้นเกิดฝนตกหนัก ผู้ต้องหาใช้วิธีปีนกำแพงข้างบ้าน ขึ้นไปที่หลังคาบ้านคุณยาย งัดแผ่นฝ้า เจาะรู และโรยตัวลงมา ซ่อนในห้องนอนคุณยาย จากนั้นก็ทำร้ายร่างกายคุณยาย ทั้งต่อย ตบ กระชากผม กระทืบ จนฟันปลอมหลุด ใบหน้าบวมปูด และก็จับมัดมือ รัดคอ ใช้ผ้านวมคลุมศีรษะ พฤติกรรมโหดร้ายมาก และตั้งใจจะให้คุณยายเสียชีวิต เมื่อได้ทรัพย์สิน ก็ปั่นจักรยานที่ยืมน้องชายฝาแฝด ปั่นหลบหนี และเดินทางมากทม.


ตำรวจชุดสืบสวนใช้เวลา 6 วัน ทราบว่าผู้ต้องหาไปเปิดห้องพักรายวัน ในซอยลาดพร้าว 101 จึงแสดงตัวจับกุม โดยขณะที่จับกุมผู้ต้องหากำลังเสพยาเสพติด (ยาไอซ์) กับเพื่อน


จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ก่อเหตุจริง วางแผนก่อเหตุมาก่อน โดยการปีนหลังคา ถอดแผ่นกระเบื้อง และโรยตัวเข้าไปแอบในห้องนอนคุณยาย ซึ่งการที่ปีนและถอดกระเบื้องออกนั้น ทำอย่างง่ายดายเพราะผู้ต้องหาเคยเป็นช่างที่โรงเหล็กและทำงานก่อสร้างมาก่อน จึงมีความชำนาญในการปีนหลังคา


สำหรับประวัติผู้ก่อเหตุ เคยทำงานเป็นผู้ช่วยในกองถ่ายละครและโฆษณา และรับบทเป็นนักแสดงตัวประกอบโฆษณาชื่อดัง


ผู้ต้องหาให้การว่า การก่อเหตุครั้งนี้ เพราะจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อไปดูแลแฟนสาวที่เพิ่งคบกันได้ไม่นาน และยังติดการพนันและยาเสพติด ทำให้ต้องใช้เงินจำนวนมาก รายได้จากงานกองถ่ายก็ลดลง ไม่เพียงพอกับรายจ่าย จึงก่อเหตุ ดังกล่าว


ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส, ลักทรัพย์ และควบคุมตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม


ส่วนกรณีที่จุดเกิดเหตุ ห่างจากป้อมตำรวจ 30 เมตร และขณะเกิดเหตุไม่พบว่ามีตำรวจอยู่ในป้อม พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจนครปฐม ชี้แจงว่า ป้อมนี้มีตำรวจประจำอยู่ 2 นาย แต่วันเกิดเหตุนั้น ตำรวจประจำจุดได้ไปตรวจสอบอุบัติเหตุในพื้นที่ จึงไม่มีตำรวจนายอื่นประจำป้อม แต่ได้ติดป้ายเบอร์โทรศัพท์ตำรวจไว้ด้านหน้า เพื่อให้ประชาชนโทรศัพท์หาตำรวจได้ทันที แต่คาดว่าวันเกิดเหตุประชาชนมาไม่เจอตำรวจก็เลยไม่มีใครโทร ตามเบอร์ที่ติดไว้


ส่วนการล็อกประตูไว้ ก็เนื่องจากไม่มีตำรวจอยู่ภายในจึงต้องล็อกไว้ ซึ่งตามปกติตำรวจก็คอยให้บริการประชาชนตลอด 24 ชม. แต่เนื่องจากกำลังพลน้อย จึงไม่เพียงพอบ้างในบางเวลาเท่านั้น

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/izz4gwKl-jk