อาชญากรรม

'แม่แตงโม' เชื่อลูกสาวถูกฆาตกรรมอำพราง ไม่พร้อมพูด ปมส่งมือถือให้บังแจ็ค

โดย passamon_a

28 พ.ค. 2565

41 views

แม่แตงโม ควง ส.ส.เต้-อัจฉริยะ แถลงมอบอำนาจเดินหน้าสางความจริง หลั่งน้ำตาปักใจเชื่อ ฆาตกรรมอำพราง มั่นใจ 100% ไม่มีเท ย้ำสัมพันธ์ทนายเดชา ยังรักกันแต่ชอบแขวะ ชี้ 3 เดือนที่ผ่านมาคดีแตงโมถูกหมกเม็ด ชวนสื่อจบเรื่องปิดร้านร้องเพลงเลี้ยงทุกคน พร้อมโชว์ลูกคอร้องเพลงใต้ร่มมลุลี


ด้านอัจฉริยะ เผยแม่ยังไม่พร้อมตอบปมส่งมือถือให้บังแจ็ค แจงถูกบีบโจมตีอย่างหนัก ระบุไม่เชื่อจะกู้คลิป-ภาพคืนได้ นัดสื่อแถลงที่ สอท. 2 มิ.ย. เปรยจะได้สิ้นสงสัยเสียทีว่าทำงานร่วมมือกับบังแจ็คหรือไม่ ด้าน ส.ส.เต้ พร้อมช่วยเหลือจนเสร็จสิ้นทางคดี  



เมื่อวันที่ 27 พ.ค.65 ที่อาคารรัฐสภา นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา ร่วมแถลงกับ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หลังคุณแม่มอบหมายให้ ส.ส.เต้ และนายอัจฉริยะ เข้ามาดูแลคดีแตงโม


นางภนิดา เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนนัดว่าขอเวลาอีก 2 วัน ก็คือวันที่ 27 พ.ค. ถึงเวลาแล้วที่คุณแม่ขอให้ ส.ส.เต้ ช่วยเรื่องคดีของแตงโม เพราะตนมีความอึดอัดใจในประเด็นการเสียชีวิตของลูกสาว เขามีความกตัญญูมาตลอด เรียกว่าเขาเป็นอภิชาตบุตร น้องโมรักความยุติธรรม และอยากทำงานด้านการเมือง คุณแม่รักเขามาก และกำหนดวันเกิดให้เขาด้วย แม่เชื่อว่าไม่ได้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ แต่เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง จึงได้รับการช่วยเหลือจากพรรคไทยศรีวิไลย์ และชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม


ทั้งนี้ ตนเสียเวลาไป 3 เดือนแล้ว หลังจากนี้ก็จะสู้เพื่อลูก แม่มีหลักฐานเยอะเลย แต่ไม่ได้บอกใคร ตนต้องประกาศด้วยเหรอว่าแม่ช่วยอะไรบ้าง ถ้าไม่ทำแม่คงไม่น้ำหนักลด 7 กิโล เพราะไม่ได้หลับได้นอน สื่อมวลชนก็จะโทรศัพท์หาแม่ทุกเช้า กว่า 20 สาย สายแรกตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนไปถึงเวลา 16.00 น. ตนก็เข้าใจว่าสื่อต้องการข่าว แต่ตนก็วอนขอให้สื่อรายการข่าวอย่าบิดเบือน ขอความกรุณาให้ข่าวแม่ที่ถูกต้อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงหนึ่ง ผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามคุณแม่แตงในหลายประเด็น แต่ทั้งนายมงคลกิตติ์ และนายอัฉริยะ จะคอยเปิดไมค์ตอบแทนตลอดเวลา และได้ให้ทนายอู๋ ซึ่งเป็นโฆษกประจำตัวแม่ ให้คำตอบแทน จนแม่แตงโม มีอาการร้องไห้ ต้องน้ำผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา


ผู้สื่อข่าวจึงถามนายอัจฉริยะ แทนในเรื่องของ บังแจ็ค และปมเงินค่าฟ้องร้อง 200 ล้าน นายอัฉริยะ กล่าวว่าว่าวันนี้เป็นการเเถลงเรื่องเเนวทาง ส่วนเรื่องของบังเเจ็ค จะขอตอบในวันที่ 2 มิถุนายน ที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. ซึ่งมีการนัดหมายกับ พล.ต.ท.กรชัย คล้ายคลึง ผบช.สอท.เเล้ว โดยก่อนหน้านั้นมีทนายความคนหนึ่ง กล่าวหาว่าตนเองร่วมมือกับบังเเจ็ค ยืนยันว่าตนเองไม่เกี่ยวข้อง ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ จะเเถลงในวันดังกล่าว


จากนั้นผู้สื่อจึงพยายามสอบถามคุณแม่แตงโม อีกครั้งถึงความเชื่อมั่นในทีมทำงานชุดนี้ คุณแม่แตงโมจึงเปิดไมค์และตอบคำถามพร้อมน้ำตาว่า ที่นายอัจฉริยะ พูดว่าลูกคุณแม่หายไป ตั้งแต่ตอน 4 ทุ่ม นั่นแหละที่ตนเพิ่งรู้ว่าลูกหาย ไม่เคยมีใครบอกว่าลูกตนหายไปไหน จนตอนนี้เสียใจมากๆ ตนก็มั่นใจในทีมของ ส.ส.มงคลกิตติ์ เพราะมีทั้งทนายความและที่ปรึกษา เป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ความสามารถ มีทั้งคุณหญิงหมอพรทิพย์ และนายอัจฉริยะ ซึ่งเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เอาไว้เยอะมาก เยอะจนตนขอบอกว่าสงสารนายอัจฉริยะ


ตนเองอยากคุยกับนายอัจฉริยะ มานานเเล้ว เนื่องจากเห็นว่ามีความทุ่มเท เสี่ยงชีวิตเพื่อหาหลักฐานช่วยคดีเเตงโมโดยเมื่อสัปดาห์ก่อน ตนเองได้ขอเบอร์นายอัจฉริยะ จากทนายเดชา เพื่อจะโทรขอบคุณ เเต่ทนายเดชาห้ามไม่ให้โทรโดยทนายเดชาบอกว่า "คุณเเม่อย่าโทรนะ เดี๋ยวจะหาทางลงไม่เจอ"


คุณเเม่จึงยังไม่ได้คุยสักที และจะเสียหาย จน 1 สัปดาห์ผ่านไป ก็ได้มาเจอนายอัจฉริยะตัวจริง ตนก็ดีใจที่ได้เจอ ทั้งทุกคนในทีมงาน และก่อนออกมาก็ได้บอกแตงโมไว้ว่าจะมาทำงานให้ลูกนะ ลูกก็ต้องช่วยคุณแม่ด้วย เพราะเป็นงานใหญ่แล้วไม่ได้ใช้ทนายคนเดียวแล้ว แต่เป็นทีมแล้วเป็นทีมระดับชาติ แตงโมก็ต้องเชื่อใจตนด้วย ตนก็ขอยืนยัน 100% ว่าจะสำเร็จแต่อาจจะต้องใช้เวลา ขอยืนยันทีมนี้


เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับทนายเดชา คุณแม่แตงโมตอบด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มว่า ยังคงเป็นเพื่อนกัน แต่ทนายเดชาก็ชอบแขวะ เขาคงคิดถึงตน ยังรักกันดี


เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจได้อย่างไร ว่าจะใช้ทีมทนายชุดนี้ไปจนประสบความสำเร็จ เพราะที่ผ่านมามีการเปลี่ยนทีมทนายบ่อยครั้ง คุณแม่แตงโม ตอบว่า นักข่าวก็ต้องมีวิจารณญาณด้วยตัวเอง ตนไม่อยากไปกล่าวหาใคร ซึ่งสื่อน่าจะรู้จักดีว่าทั้งสองคนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น แต่นายอัจฉริยะ มีข้อมูลเต็มเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วจะไปทิ้งได้อย่างไร ที่ผ่านมามีความต้องการจะติดต่อมาโดยตลอด แต่ก็ถูกระงับ ไม่ให้คุย จนมาเจอตัวจริงถึงได้คุยกัน


แม่แตงโม กล่าวต่อด้วยน้ำตาว่า ตอนนี้ตนรู้สึกดีใจ เหมือนพระเจ้า มาเข้าข้างแตงโมให้ได้รับความยุติธรรม ให้ได้รับความจริง คนเป็นแม่เป็นลูกมันตัดกันไม่ขาดเราก็ต้องถึงที่สุดเหมือนกันถึงจะไม่มีใครช่วยตนในที่นี้ ตนก็จะหาวิธีช่วยตัวเองไปจนถึงที่สุดให้ได้


ส่วนที่สังคมตั้งคำถาม ว่าคุณแม่หวังเงินมากกว่า 30 ล้านเป็นเงิน 200 ล้าน คุณแม่แตงโมไม่ตอบ ก่อนให้นายอัฉริยะตอบแทนว่า คุณแม่มีสิทธิ์ตามกฎหมายในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอยู่แล้ว สิ่งที่เราจะทำตนขอยืนยันว่ายังไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้น แต่จะพูดตรง ๆ ก็ได้ว่ามีการเสนอมา และคุณแม่ก็นำไปคำนวณ ว่าแตงโมหากมีอายุ 55 ปี จะมีรายได้เท่าไหร่


แต่ประเด็นนี้ตนก็ได้บอกกับตัวคุณแม่ไปแล้วว่าเป็นแค่ความฝันยังไม่ใช่เป็นความจริง เพราะขณะนี้ยังไม่รู้เลยว่าแตงโมตายเพราะอะไรแต่ก็เชื่อว่าไม่ใช่เพราะความประมาท และสิ่งที่ตนจะทำ ก็จะทำให้สังคมได้เห็นว่าคดีนี้ไม่ใช่เพราะความประมาทแต่เป็นคดีฆาตกรรมอำพราง


ในช่วงท้ายนายมงคคลกิตติ์ ย้ำว่าตอนนี้อย่าเพิ่งกดดันบังแจ็ค เพราะบังแจ็คมีข้อมูลทีเป็นประโยชน์ และควรให้เกียรติทุกคน พร้อมฝากถึงสื่อมวลชน ขอว่าอย่ากล่าวหาใครผิดๆ ส่วนผ้าผูกเอวสีขาวเปื้อนเลือดที่บังแจ็คอ้างว่าเป็นของแตงโม นายมงคลกิตติ์ บอกว่าเขาได้รับมาแล้ว และตอนนี้หลักฐานชิ้นดังกล่าวก็อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐ


ขณะที่ช่วงสุดท้ายของการเเถลงข่าว ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงบรรยากาศงานเลี้ยงเมื่อคืนก่อนที่ผ่านมา ที่คุณแม่แตงโมไปรับประทานอาหารกับนายมงคลกิตติ์ เเละได้ขึ้นร้องเพลง จึงทำให้บรรยากาศในการแถลงข่าวผ่อนคลายลง และแม่แตงโม กล่าวว่าตนขอขอบคุณสื่อมวลชน และฝากบอกประชาชนชาวไทยทุกคน ว่ากรุณาเปลี่ยนความคิดที่จะมองตน ให้เป็นมุมที่ดีขึ้น อย่าเอาแต่ต่อว่าโดยไร้สาเหตุ ไม่ได้รู้ความจริง  


ส่วนเมื่อคืนก่อนตนได้ร้องเพลง "ปลอบใจเจ้าทุย" และเพลง"ใต้ร่มมลุลี" ก่อนที่ผู้สื่อข่าวได้ขอให้คุณแม่แตงโม โชว์ร้องเพลง คุณเเม่จึงร้องเพลง "ใต้ร่มมลุลี" ให้ฟัง จึงจบแถลงข่าว


จากนั้นนางภนิดา ได้เดินออกจากห้องแถลงข่าวเผยกับนักข่าวว่า ได้พูดอะไรหลายๆ อย่างรู้สึกสบายใจทุกเรื่องมีคนปกป้อง นักข่าวพยามยามสอบถามประเด็นส่ง โทรศัพท์มือถือของแตงโมให้บังแจ็ค ที่อเมริกา โดยคุณแม่ “ยอมรับส่งให้จริง คนเราต้องพูดความจริง ส่งไปเพื่อให้ไปกู้ข้อมูล” โดยมีคนแนะนำบอกให้ส่งโทรศัพท์ของแตงโม ไปให้กับบังแจ็ค เจตนาของแม่ต้องการให้กู้ข้อมูลเพียงอย่างเดียว เมื่อถามว่าคิดอย่างไรที่บังแจ็ค นำภาพและคลิปของกี่โมงมาเปิดเผย คุณแม่ไม่ตอบ ก่อนที่ ส.ส.เต้ จะเดินมาบอกว่าพอแล้ว ๆ ไม่ต้องถามแล้ว


ด้าน นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าคุณแม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องคดีฆาตกรรมอำพราง และขณะนี้อัยการจึงให้มีคำสั่งเลื่อนรับฟังคำสั่งฟ้อง สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือ แนวทางของการฟ้องร้องคดีที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม แต่บางส่วนก็ไม่สามารถเปิดให้สื่อมวลชนดูได้


ตนได้เชิญอดีตผู้พิพากษา ซึ่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ร่างคำฟ้องในคคีฆาตกรรมอำพราง ส่วนผู้เชี่ยวชาญทุกสาขาอาชีพ ซึ่งจะเข้ามาเป็นที่ปรึกษา ประมาณ 15 คน ทั้งหมอพรทิพย์ และผู้เชี่ยวชาญทางเรือ ที่ยืนยันว่าไม่ได้ตกท้ายเรือและผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบ GPS ที่ผ่านมาคุณแม่เสียเวลาไปมากแล้ว เพราะคดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุจากการนั่งปัสสาวะท้ายเรือจนพลัดตกน้ำเสียชีวิต


นายอัจฉริยะ ได้โชว์เอกสาร พร้อมระบุว่าตนเองเเละทนายความได้รับมอบอำนาจจากคุณเเม่อย่างเป็นทางการ โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการใช้สิทธิ์ฟ้องร้องบุคคลบนเรือทั้งหมด ก็จะทำงานได้ง่ายมากขึ้น วันนี้(27 พ.ค.) ตนได้นำหลักฐานบางอย่างให้คุณเเม่ดู ซึ่งคุณเเม่เองก็เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม ดังนั้นเเนวทางต่อไปคือฟ้องร้องดำเนินคดี


เเม้ว่าหลักฐานบางส่วนจะยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ เเต่ตนได้เปิดให้เเม่ดูเเล้ว วันจันทร์นี้ จะใช้โดรนสำรวจใต้น้ำหาวัตุสำคัญในทางคดี ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ในวันนั้นก็จะมีพยาน 2 คน มาชี้จุด แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจออะไรมาก ซึ่งโดรนใต้น้ำไม่มีใครเคยใช้มาก่อน คดีนี้เป็นครั้งแรกที่นำมาใช้


นอกจากนี้การที่อัยการรับข้อเสนอ 8 ข้อ ของตนและมีคำสั่งเลื่อนรับฟังคำสั่งฟ้อง นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะท่านอัยการจะได้เห็นอะไรมากมายว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ ต่อไปตนจะดำเนินคดีกับพยานเท็จที่เราตรวจสอบได้ ซึ่งตำรวจนำมาอ้างอิงเรียกว่าเป็นพยานปั้นขึ้นมา หรือพยานปรุงแต่ง


"คนเหล่านี้ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ตนยังไม่สามารถเปิดเผยทั้ง 8 ข้อได้ เพราะตนกำลังสู้กับหลาย ๆ คนแต่วัตถุประคงค์ คือให้ความยุติธรรมกับคนตาย มีตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ไปบอกกรรมาธิการชุดหมอพรทิพย์ ว่ามีแก้วบนเรือแตก 1 ใบ แต่ไม่ให้ พฐ.เก็บ"


นายอัจฉริยะ กล่าวว่า โดยก่อนหน้านั้นตนได้ร้องขอให้ตรวจคราบเลือดบนเรือใหม่ เพราะโดยปกติเเล้วการใช้สารลูมินอล ในการตรวจคราบเลือด จะต้องทำตอนกลางคืน เเต่คาใจว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงตรวจในตอนกลางวัน ซึ่งมีเเสงสว่าง จะทำให้มองไม่เห็นคราบเลือด เเละยังคาใจในพยานหลักฐานของตำรวจ โดยเฉพาะภาพวงจรปิดต่าง ๆ ที่อ้างว่าเเตงโมตกเรือหลังจากเวลา 22.30 น. เเต่นายบอล ซึ่งอยู่ที่อู่เรือ NBC ได้รับโทรศัพท์จากคนบนเรือตอนเวลา 22.20 น. ดังนั้นจึงเชื่อว่าเเตงโมหายไปตั้งเเต่เวลา 22.00 น.


ซึ่งตนเเละทีมงานจะทำให้คดีนี้ได้รับความยุติธรรมมากที่สุด เชื่อมั่นว่าเป็นคดีฆาตกรรม เพราะตนมีประสบการณ์ทำคดีในลักษณะนี้มาเเล้ว ยกตัวอย่างคดีน้องหลิว ที่ตกรถเทลเลอร์ ตอนเเรกตำรวจสรุปสำนวนว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งจุดเริ่มต้นเหมือนคดีเเตงโม เเต่ภายหลังพ่อของผู้ตายได้มาร้องขอให้ตนช่วยเหลือ กระทั่งศาลตัดสินว่าเป็นคดีฆาตกรรม


ส่วนคดีแตงโม "ถ้าวันนี้ท่านอัยการเล็งเห็นถึงทั้ง 8 ข้อ ก็จะได้ข้อเท็จจริงว่าคดีไม่ใช่ข้อหาประมาท ซึ่งเป็นข้อหาสถานเบา ถ้ามีการสอบ 8 ข้อ ก็สามารถแจ้งข้อหาฆาตกรรมอำพรางได้ วันนี้คุณแม่ก็เหมือนแม่ของผมคนหนึ่ง น้องโมก็เป็นลูกผมได้ ผมอายุ 55 แล้ว ผมทำคดีเพื่อประเทศชาติ"  


นายอัจฉริยะ กล่าวช่วงหนึ่งว่า ตนทราบจากแม่ว่าเหตุผลที่ให้กู้ภาพต่าง ๆ เพราะมีคลิปวิดีโอถูกลบออกไป 2 คลิปและภาพอีก 550 ภาพ เรื่องนี้ไม่ได้จะแบล็คเมล์ใครอย่างแน่นอน ตนก็ควบคุมบังแจ็คไม่ได้ เพราะโทรศัท์อยู่ในมือของเขา ก็รอดูว่ามันจะเป็นจริงตามที่บังแจ็คอ้างว่ากู้คืนได้ 4 หมื่นภาพหรือไม่ เพราะตนก็ยังไม่เชื่อ


ดังนั้นในวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ตนและคุณแม่จะไปแถงข่าวเรื่องนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ (สอท.) ตนคิดว่าข้อครหาต่าง ๆ จะให้ตำรวจไซเบอร์เป็นผู้แถลง ทุกคนจะได้สิ้นสงสัยเสียทีว่าตนทำงานร่วมมือกับบังแจ็คหรือเปล่า ไม่ใช่วันนี้เลี่ยงตอบคำถาม แต่ต้องเข้าใจว่าแมโดนโจมตีอย่างหนัก จึงต้องรอดูต่อไป แต่วันนี้แม่ยังทำใจไม่ได้ ร้องเพลงยังผิดเลย แม่ถูกบีบกั้นทุกอย่าง ตนก็จะได้ทวงถามบังแจ็คด้วยว่าทำได้จริงหรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ทวงโทรศัพ์คืนมา


ทางด้านนายบัญชา สุชญา หรือ ทนายอู๋ ซึ่งถูกเเต่งตั้งเป็นโฆษกประจำตัวของเเม่เเตงโม กล่าวว่า ทุกคนที่มานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยความหวัง จากหลักฐานที่ได้มาเชื่อว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ การทำงานของเรามีเป้าหมาย ไม่ได้เดินอย่างสะเปะสะปะอย่างเเน่นอน ทั้งนี้ในส่วนของคดีเเตงโมเป็นหน้าที่ของทีมงานนายอัจฉริยะ เเต่สำหรับบุคคลที่ว่ากล่าวหรือให้ร้ายคุณเเม่ เป็นหน้าที่ของตนที่จะดำเนินการ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/cqBgkc-MwTU

คุณอาจสนใจ

Related News