อาชญากรรม

อดีตภรรยา 'หมอศรุต' เผยอีกมุม เชื่อสามีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ไม่ใช่ถูกโยนบก

โดย passamon_a

25 ธ.ค. 2564

12K views

หลังศาลอาญามีคำพิพากษา คดีหมอหนุ่มและหญิงสาวใกล้ชิด โยนบก 'หมอศรุต' จากชั้น 4 อพาร์ตเมนต์ย่านบางกะปิ เมื่อปี 53 โดยพิพากษาจำคุก นพ.ปราโมทย์ และหญิงสาวใกล้ชิด คนละ 15 ปี แต่ทั้งคู่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 10 ปี และให้ชดใช้ค่าเสียหาย 5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยให้แม่ของหมอที่เสียชีวิต


(ให้การเป็นประโยชน์ ไม่ใช่ รับสารภาพ แม้จะปฏิเสธ ศาลอาจจะเห็นว่าให้การเป็นประโยชน์ได้ รายละเอียดต้องไปดูในสำนวน)


นี่คือ ข้อความจากอดีตภรรยา ของหมอศรุต ที่ไม่คิดว่าเป็นการฆาตกรรม โดยโพสต์ระบุว่า "ใช่ค่ะ เราเป็นภรรยาของผู้ตาย คุณหมอศรุต ในข่าวนี้เอง อยากพูดในมุมมองของตัวเองที่ข่าวไม่ได้สื่อออกมาบ้างนะคะ


วันนั้น หมอศรุตเมาตั้งแต่ที่บ้าน กินเหล้าคนเดียวตั้งแต่ 4-5โมง และโทรไปชวนหมอเอ (นามสมมติ) และเพื่อนอีกหลายคนออกไปเที่ยวต่อ เมื่อออกไปเที่ยวมีโทรกลับมาเป็นพัก ๆ และเมื่อร้านปิด หมอเอโทรมาบอกว่า ศรุตเมามาก เดี๋ยวพาไปนอนที่ห้องดีกว่า น่าจะกลับไม่ไหว ไม่ต้องเป็นห่วง และโทรมาหาอีกครั้ง คือแจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว ได้ทำการปั๊มหัวใจจนสุดความสามารถแล้ว


สิ่งที่หมอเอให้การคือ อยู่ดี ๆ หมอศรุตก็ลุกขึ้นมาแล้วพุ่งตัวออกไปเลย ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน สิ่งที่นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้านบ่อยจนปกติ คือเมื่อหมอศรุตเมากลับมาที่บ้านคือจะมีความโซซัดโซเซ พยุงตัวเองไม่ได้ มีอาการพุ่งตัวอย่างแรง เมื่อรู้สึกตัว เหมือนจะวิ่ง แรงเยอะ เหมือนวิ่งหลาว เพื่อไปเข้าห้องน้ำ แต่ห้องที่บ้านมีขนาดใหญ่มาก วิ่งได้สบาย แต่เมื่อเทียบกับห้องที่เกิดเหตุคือมีขนาดเล็กมาก ๆ แค่ 2 ก้าวเท่านั้น


เมื่อฟังจากคำให้การคือนึกภาพออกเลยว่าเค้าพยายามจะไปเข้าห้องน้ำ แล้วในห้องนั้นประตูระเบียงกับประตูห้องน้ำอยู่ติดกัน และหน้าตาเหมือนกัน หมอศรุตอาจไม่ได้วิ่งพุ่งตัวลงมา แต่วิ่งไปเปิดประตูคิดว่าเป็นห้องน้ำ เหมือนที่ทำที่บ้าน บวกกับห้องแคบมาก ๆ และระเบียงแคบและเตี้ย เจอระเบียงและพลัดตกลงมาในจังหวะที่หันหลัง และน่าจะพยายามคว้ากำแพงเอาไว้ เลยมีฝุ่นติดมือและองศาการตกเป็นไปในทิศทางการทดลอง


เราซึ่งเป็นภรรยาผู้ตายก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย 100% ในใจยังคงเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุเรื่องพลัดตกเสมอมา


เรายังคงเชื่อในความรักความมุ่งมั่นของแม่หมอศรุต และเชื่อในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่แม่คุณหมอหามาทุกอย่างว่าเป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ว่าหมอศรุตไม่ได้ฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องที่ถูกต้องค่ะ


แต่มันเป็นไปได้จริงที่เค้าจะลุกขึ้นมาจากการเมามาก ๆ และวิ่ง เพราะเราเคยเห็นมาแล้วหลายครั้ง แน่นอนว่าทางบ้านเค้าไม่เคยเห็น ทางบ้านเค้าไม่รู้ด้วยว่ากินเหล้าหนักมาตลอด เค้าไม่เคยบอกทางบ้าน แต่หากเป็นเพื่อนและคนใกล้ชิดจะรู้เรื่องนี้ดี


และมีข้อสงสัยถึงหลักฐานการชู้สาว และการช่วยกันอุ้มคนโยนลงจากตึกว่ามีคนเห็นหรือไม่ ที่คดีนี้ไม่ปิดมา 11 ปี เพราะไม่มีหลักฐานการฆ่าเลย มีแต่หลักฐานการตกว่าไม่ได้ตกลงมาเอง และสมมติฐานที่คิดกันขึ้นมาเอง


เมื่อศาลฟังความ 2 ฝ่าย อีกฝ่ายนึง มีพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แน่นหนา ส่วนอีกฝั่งยืนกระต่ายขาเดียวว่าผู้ตายลุกขึ้นมากระโดดจริง ๆ = มันฟังดูเหมือนการฆ่าตัวตาย และขัดกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ = ศาลต้องตัดสินให้หลักฐานชนะแน่นอนอยู่แล้ว


แต่เราในฐานะคนใกล้ชิดอยากจะแจ้งว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้จริง ๆ ที่คนคอพับคออ่อนจะมีแรงลุกไปเข้าห้องน้ำได้ ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่เป็นอุบัติเหตุโดยไม่เจตนา หากเรื่องนี้ตัดสินตามที่ศาลตัดสิน คือชีวิตของคน 2 คน ต้องจบสิ้นอนาคต และทุกข์ทรมานยิ่งกว่า 11 ปีอย่างแน่นอน ในเรื่องนี้อาจเป็นเพียงอุบัติเหตุที่ต้องการคนผิดมารับผิดชอบ และมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแพะก็เป็นได้  


ปล. เราอยู่เฉย ๆ เงียบ ๆ ก็ได้ไม่ต้องมีปัญหากับใครเลย แต่เราเลือกที่จะพูดความจริงเพื่อให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นค่ะ หากการกระทำใดที่ทำกับใครไว้จะเป็นกรรมติดตัวไปตลอดกาล"


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/iFAkGnOlPcc

คุณอาจสนใจ