ย้อนคดี 'หมอศรุต' ครอบครัวสู้ 11 ปี พบหลักฐานพลิกจาก 'ฆ่าตัวตาย' เป็น 'ฆาตกรรม'

คดีหมอศรุต เป็นคดีซึ่งอยู่ในความสนใจของประชาชน โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นเพิ่งตัดสินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีการหาพยานหลักฐานนานถึง 11 ปี ในคดีการเสียชีวิตของ นพ.ศรุต ทวีรุจจนะ อายุ 28 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน สรุปสำนวนว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่มารดาของผู้เสียชีวิตได้พยายามติดต่อผู้เชี่ยวชาญ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มาตรวจสอบ เนื่องจากเชื่อว่าไม่ใช่ฆ่าตัวตายเอง จนได้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำคดีเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาลได้สำเร็จ



มีข้อความที่เขียนขึ้นผ่านโซเชียล เป็นภรรยาของ นพ.ศรุต อายุ 28 ปี ซึ่งได้เขียนขึ้น หลังจากมีคำพิพากษา ศาลชั้นต้น ที่พิพาษาให้ นพ.ปราโมทย์ จำเลยที่ 1 และนส.จิตวิมล จำเลยที่ 2 จำคุก 15 ปี ลดโทษให้เหลือ 10ปี



โดยระบุว่าเป็นผู้ใกล้ชิด และเคยเป็น นพ.ศรุต อยู่ในอาการเมา สามารถใช้แรงลุกไปเข้าห้องน้ำได้ คำพูดที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ผ่านมา 11 ปี ทำให้สังคมตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดถึงเพิ่งออกมาโพสต์ หลังจากมีคำตัดสินและเหตุการณ์ล่วงเลยมานานแล้ว จึงไม่ใช่ข้อความที่อยู่ในสำนวน อีกทั้งยังขัดแย้ง กับการให้ปากคำในชั้นการสอบสวนกับพนักงานสอบสวน และการเบิกความเป็นพยานในชั้นศาล



ซึ่งมีใจความสำคัญว่า เธอได้ไปถึงที่เกิดเหตุ โดย นพ.ปราโมทย์ เป็นผู้โทรศัพท์มาบอก เมี่อไปถึง นพ.ศรุตเสียชีวิตแล้ว โดยรู้จักกับนพ.ปราโมทย์เพราะเป็นเพื่อนสนิทกับนพ.ศรุต แต่ไม่ได้รู้จักกับจำเลยที่ 2 มาก่อน



ส่วนประเด็นของการเมาสุรา ระบุว่าเคยเห็นดื่มสุราเป็นบางครั้ง แต่ไม่เคยเห็นขณะเมามาก พร้อมทั้งฟังจากน้ำเสียงสามีในคืนเกิดเหตุที่โทรศัพท์มาถามว่าจะให้ซื้ออะไรไปฝากหรือไม่ น้ำเสียงก็ไม่ได้เมามาก



ส่วนคำให้การของ นพ.ปราโมทย์ จำเลยที่1ระบุว่า นพ.ศรุต ได้ผลุนผลันลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ และลื่นล้ม โดยขณะนั้นจำเลยที่ 2 กำลังอยู่ในห้องน้ำ มีอาการตกใจ โดยจำเลยที่ 1ได้เข้าไปพานพ.ศรุต ออกมานอน แล้วจู่ๆนพ.ศรุตก็ผลุนผลันลุกขึ้นไปเปิดประตูระเบียงแล้วก็กระโดดลงไป เมื่อลงไปดูยังหายใจรวยริน จึงได้ปั้มหัวใจ อยู่ประมาณ 30 นาที แต่ นพ.ศรุตไม่มีลมหายใจแล้ว ซึ่งจากการรวมรวมพยานหลักฐานเชิงนิติวิทยาศาสตร์ กรณีที่ นพ.ศรุตจะหุนหันพลันแล่นกระโดดลงมาเอง และกำแพงระเบียง ซึ่งมีความสูง ครึ่งเอว อีกทั้ง นพ.ศรุตเป็นคนตัวใหญ่



พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี อดีตผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งไปเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าผู้ตายกระโดดลงมาเองได้ยาก อีกทั้งในห้องไม่มีเก้าอี้ ที่จะมายืนให้กระโดดลงไปได้ และถ้ากระโดดลงไปเองจะสภาพศพต้องคว่ำหน้า คดีนี้ไม่มีประจักษ์พยาน นิติวิทยาศาสตร์เท่านั้นจะตอบคำถามได้



ขณะที่ผู้อาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ ที่เกิดเหตุ บอกว่าขณะเกิดเหตุเป็นเวลา ตี 3 กว่า ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่ได้ออกมาดูตอน นพ.ศรุตเสียชีวิตแล้ว



คดีนี้เหตุเกิดเมื่อ 18 เมษายนปี 2553 และมารดาของ นพ.ศรุตได้ประสานให้ผู้เชี่ยวชาญ จากหน่วยงานมาร่วมตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต กระทั่งส่งสำนวนให้อัยการเมื่อปี 2563 และมีการร้องขอให้ผู้พิพากษาเดินเผชิญสืบในจุดเกิดเหตุ ก่อนจะมีคำพิษากษาในศาลขั้นต้นออกมา