‘แม่จีจี้’ ยัน ‘อิคคิว’ ตายจริง เห็นเลือดไหล-ปืนที่ใช้ก่อเหตุ

แม่จีจี้ ยัน อิคคิว เสียชีวิตพร้อมกับลูกสาวไม่ใช่ตายทิพย์ อย่างที่มีการตั้งข้อสังเกตุ เพราะตนเห็นกับตาร่างอีกทั้งยังเห็นปืนที่ใช้ก่อเหตุด้วย ยอมรับลูกสาวไปรับอิคคิวข้างล่างจริงเพราะฝ่ายชายไม่มีคีย์การ์ด แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายจะเกิดเหตุสลดขึ้น

จากกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตุ ในคดีการเสียชีวิตของนางสาวสุพิชชา ปรีดาเจริญ หรือจีจี้ เนทไอดอล ซึ่งถูกปืนยิงที่ศรีษะ นอกจากนี้ยังพบศพ นักเรียนเตรียมทหาร ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา หรือ อิคคิว ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของจีจี้ อยู่ในห้องที่คอนโดของจีจี้ ย่านถนนอโศก

แต่สิ่งที่สังคมสงสัย คืออิคคิว ตายจริงหรือตายทิพย์ เนื่องจากมีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่นศพถูกซีนจากห้องที่เกิดเหตุแล้วนำขึ้นรถทันที ครอบครัวเลี่ยงที่จะไม่ไปรับศพที่โรงพยาบาล จนมีการพูดไปถึงขั้นว่า แม่น้องจีจี้อาจจะมีการตกลงอะไรบางอย่างกับครอบครัวของน้องอิคคิวหรือไม่

ล่าสุดแม่ของน้องจีจี้ ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 ถึงประเด็นที่เกิดขึ้น โดยแม่ของจีจี้ยืนยันว่าอิคคิวตายจริง เพราะวันเกิดเหตุ ตนได้ไปดูศพของจีจี้ที่ห้องพัก และ ก็เจอศพของอิคคิว ซึ่งติดกัน โดยสภาพศพของอิคคิวมีเลือดไหลออกมา แต่จำไม่ได้ว่ามาจากที่ไหนบ้าง

นอกจากนี้ยังเจอปืนที่ใช้ก่อเหตุอยู่ระหว่างร่างของอิคคิวและจีจี้ด้วย จึงอยากให้สังคมเลิกสงสัยในประเด็นนี้ และขอขอบคุณสังคมที่ให้กำลังใจตนและครอบครัว แต่ก็ขออย่าซ้ำเติมครอบครัวอิคคิว เพราะเขาก็เป็นผู้สูญเสียเช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมาตนคุยกับแม่ของอิคคิวตลอด เรื่องที่ลูกสาวของตนคบหากับอิคคิวและถูกอิคคิวทำร้าย ซึ่งแม่ของอิคคิวได้อบรมสั่งสอนให้อิคคิวเป็นคนดี แต่พฤติกรรมความรุนแรงของอิคคิวเป็นเรื่องของภาวะแต่ละคน ที่คงไม่สามารถไปควบคุมได้

หลังเกิดเหตุ แม่ของอิคคิวได้โทรศัพท์มาหาตนและขอให้ตนอโหสิกรรมให้ ซึ่งตนก็ยินดี เพราะไม่อยากให้มีอะไรติดค้างกันอีก ซึ่งหลังจากเสร็จงานศพก็จะนัดพูดคุยเรื่องการเยียวยา โดยทางครอบครัวของอิคคิวก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ

โดยเมื่อวานนี้ ครอบครัวของจีจี้ ได้ไปรับร่างของจีจี้ไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม โดยพ่อแท้ๆ ของจีจี้ได้เปิดเผยผลการชันสูตรศพของจีจี้ว่า มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับขวาทะลุขมับซ้ายทำให้เสียชีวิต ในสภาพชักเกร็ง เพราะถูกยิงโดยไม่ทันตั้งตัว

ส่วนอิคคิวเมื่อวานนี้ญาติได้ให้ตัวแทนซึ่งเป็นร้านจำหน่ายโลงศพมารับร่างจากโรงพยาบาลไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนผลการชันสูตรของอิคคิวแพทย์ระบุว่า มีบาดแผลกระสุนปืนลูกโดดเข้าที่บริเวณลำคอ กระสุนทำลายเนื้อเยื่อสมองจากการถูกยิงเข้าที่คอ ทำให้เสียชีวิต

ส่วนอีกประเด็นที่เป็นข้อสงสัยว่า อิคคิว ขึ้นไปที่ห้องของจีจี้ได้อย่างไร ล่าสุดตำรวจชุดทำงาน ได้เปิดเผยภาพวงจรปิด ของวันที่ 18 เมษายน ซึ่งก่อนที่จะพบศพจีจี้และอิคคิว ในวันที่ 19 เมษายน โดยในภาพจะเห็นว่าจีจี้ได้ลงมาที่ข้างล่างคอนโดแล้วพาอิคคิวขึ้นไปที่ห้อง โดยวันนั้นอิคคิวใส่เสื้อสีขาวลายยมทูต และหลังจากนั้นก็เกิดเหตุสลดขึ้น

ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามแม่ของจีจี้ ในเรื่องนี้ ซึ่งแม่ของจีจี้ยอมรับว่าจีจี้ได้ลงไปเปิดประตูรับอิคคิวขึ้นมาที่ห้องจริง เนื่องจากอิคคิวไม่มีคีย์การ์ด ซึ่งคนที่มีคีย์การ์ดห้องของจีจี้ จะมีเพียง 2 คน คือจีจี้ และ เพื่อนสนิทซึ่งเป็นผู้หญิงของจีจี้

ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมข่าวช่อง 3 ได้มีโอกาส สอบถามพระ วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา วัดที่ศพของ นตท.ภูมิพัฒน์ หรือ อิกคิว มาทำพิธีตามศาสนาที่ ศาลา 5 ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้

พระลูกวัดยืนยันกับทีมข่าวว่า โลงที่ประชาชนเห็นในข่าว ซึ่งเป็นโลงสีทองนั้น ไม่ได้บรรจุศพของ อิกคิว ศพของอิกคิวอยู่ในโลงเย็น ซึ้่งเป็นไปตามสภาพอากาศ และ ขั้นตอนปกติ ในการรักษาสภาพศพเพื่อประกอบพิธีจนกว่าจะแล้วเสร็จ

ทั้งนี้พระได้ทำการเปิดโลงตรวจสอบใบมรณะบัตร รวมทั้งตรวจผ่าน QR code พบว่า ร่างที่บรรจุในโลงเย็น เป็นศพของอิกคิว สวมชุดนักเรียนเตรียมทหารสีขาวตรงตามเอกสารทั้งหมด หน้าโลงมีรูป และ ผ้าขาวคลุมเป็นส่วนของญาติทำ แต่ไม่เคยเห็นศพรายอื่นทำ การห่อศพ มาปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ ทางวัดไม่มีหมกเม็ด ไม่ปิดบัง และไม่ได้เอื้ออำนวยพิเศษอะไร ทุกอย่างเป็นปกติ ที่ผ่านมาวัดนี้ จะเข้มงวดในการตรวจรับศพ ให้ตรงกับหลักฐานใบมรณะ

ส่วนเรื่องการทำพิธีที่ทำแบบรวดเร็ว เร่งรีบ นั้นเป็นไปตามความประสงค์ของญาติผู้ตาย หลังจากสวดอภิธรรมเสร็จ ได้มีการมอบหมายให้สัปะเหร่อเป็นผู้เฝ้าศพ โดยมีกำหนดการจะทำพิธีฌาปนกิจศพอิกคิว ในวันพรุ่งนี้ (22 เมษายน) เวลา 13.00 น.

พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการเสียชีวิตของ นางสาวสุพิชชา ปรีดาเจริญ หรือ จีจี้ เนตไอดอลชื่อดัง และนักเรียนเตรียมทหารภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา หรือ อิคคิว โดย ยืนนยันว่า อิคคิว เสียชีวิตจริง เนื่องจากหลังรับแจ้งเหตุ มีเจ้าหน้าที่ มีพยานรู้เห็นจำนวนมาก ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยถึงการเสียชีวิตของอิคคิว ว่ามีความพยายามปกปิดความจริงหรือไม่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกเป็นไปไม่ได้ เพราะในที่เกิดเหตุ ทั้งตำรวจท้องที่ ทั้งพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวน ต้องชี้แจงรายละเอียดของคดีให้เกิดความชัดเจน ตอบคำถามสังคมให้ได้ ส่วนจะเอาผิดใครได้หรือไม่นั้น ต้องรอผลการสอบสวนให้ชัดเจนก่อนเช่นกัน ส่วนทางครอบครัวของน้องจีจี้ จะฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายหรือไม่นั้น ก็สามารถทำได้ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดจากการทำผิดกฎหมายอาญา ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง

นอกจานี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังฝากเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังการเผยแพร่ภาพหรือข้อมูลของผู้เสียชีวิต ผ่านสื่อออนไลน์ เนื่องจาก หนึ่งในผู้เสียชีวิตยังเป็นเยาวชน อยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ดังนั้น การโพสต์ข้อมูลต่าง ๆ ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ผู้เสียชีวิตนั้น อาจเข้าข่ายความผิดได้

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/1fDK2oS4GJI