อาชญากรรม

แจ้ง 4 ข้อหา ค้านประกัน 'ครูสอนขับรถ' ชนตร.ทางหลวงดับ รับตั้งใจชน แต่ไม่ได้จะให้ถึงตาย

โดย panwilai_c

24 ก.พ. 2566

405 views

ความคืบหน้าคดีครูสอนขับรถ พยายามหลบหนีตำรวจทางหลวงบนถนนมอเตอร์เวย์สาย 9 มุ่งหน้าบางปะอิน แล้วขับรถชนรถจักรยานยนต์สายตรวจทำให้ ตำรวจทางหลวงเสียชีวิต ล่าสุดตำรวจคุมตัวไปฝากขังศาลธัญบุรีแล้ว พร้อมแจ้งข้อหาหนัก "ฆ่าเจ้าพนักงาน ขณะปฏิบัติหน้าที่"



ความคืบหน้ากรณี นาย กิตติรัช ราญประเสริฐ ซึ่งเป็นครูสอนขับรถ ขับรถเก๋งหลบหนีการตรวจจับของ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผู้บังคับหมู่สายตรวจ ทางหลวง2 กองกำกับการ8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (23ก.พ.66) แล้วยังขับรถเบียดรถจักรยานยนต์ของสิบตำรวจเอก เศรษฐการ ที่ขี่ติดตามไป ทำให้ศีรษะของ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ ไปฟาดกับราวสะพานข้ามแยกถนนลำลูกกา จนกะโหลกศีรษะแตก ทั้งที่เขายังใส่หมวกกันน็อก เสียชีวิตคาที่ ก่อนจะหลบหนีไป แล้วย้อนกลับมามอบตัวหลังผ่านไปเกือบ 6 ชั่วโมง



ในตอนแรก นาย กิตติรัช ให้การกับ ตำรวจทางหลวงที่เขาเข้ามอบตัวเมื่อคืนว่า สาเหตุที่เขาหลบหนี เพราะกลัวโดนจับที่ไม่ติดป้ายทะเบียนท้าย ในรถมีขวดเบียร์ และบุหรี่ไฟฟ้า และตอนที่ชนเขาอ้างว่าไม่เห็นว่ามีรถตำรวจมา



แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจาก สิบตำรวจเอก เศรษฐการ เปิดสัญญาณไซเรน ทั้งไฟและเสียง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ได้ยินและเห็น ประกอบกับก่อนหน้านี้ นาย กิตติรัช ก็รู้อยู่แล้วว่ามีตำรวจทางหลวงติดตามถึงได้พยายามขับรถหนี จึงส่งตัวให้ พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุไปดำเนินคดี เมื่อเพื่อนของสิบตำรวจเอก เศรษฐการ ทราบข่าว ก็มาดักรอและระบายแค้น



ทันทีที่มาถึง นาย กิตติรัช ก็โดนสอบปากคำต่อ กระทั่งผ่านไป 12 ชั่วโมง นับตั้งแต่เข้ามอบตัวกับตำรวจทางหลวง นาย กิตติรัช ยอมเปิดปากสารภาพกับพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ถึงสาเหตุที่เขาขับรถเบียดรถจักรยานยนต์สายตรวจของ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ เพราะตั้งใจที่จะขับรถชน เพียงแค่ให้รถของตำรวจล้ม ไม่สามารถติดตามจับเขาได้ แต่กลายเป็นว่าเขาทำให้ตำรวจเสียชีวิต



ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา คือ "เจตนาฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่" ซึ่งมีโทษ "ประหารชีวิต" ทำให้เสียทรัพย์ ขับรถประมาทหวาดเสียว และจอดรถในเขตห้ามจอด พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกจับในคดี "เมาแล้วขับ" ด้วย



กระทั่ง บ่าย 2 โมงที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนนำตัว นาย กิตติรัช ไปขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรีฝากขังผัดแรก และนี่คือการให้สัมภาษณ์ของ นาย กิตติรัช ก่อนที่จะถูกนำตัวส่งศาล เขายังยืนยัน "ไม่ได้ตั้งใจทำให้ตาย"



ส่วนครอบครัวของ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ มารับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่ 10 โมงเช้าที่ผ่านมา ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานที่มาร่วมแสดงความเสียใจหลายสิบคน พร้อมกับขอความเป็นส่วนตัว เนื่องจากยังอยู่ในความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะเคลื่อนร่างไปที่วัดตรีทศเทพวรวิหาร



เมื่อบ่าย 3 โมงครึ่งที่ผ่านมา เพื่อนข้าราชการตำรวจทั้งจากกองบังคับการตำรวจทางหลวง และหน่วยอื่นๆ มาร่วมงานจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า



ทีมข่าวมีโอกาสคุยกับ พันตำรวจโท ปรัชญา กัมลาศพิทักษ์ สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ บอกว่า 'หนุ่ม' เป็นน้องเล็กในสถานี เป็นคนจิตใจดี มีอารมณ์ขัน เป็นที่รักของพี่ๆ เป็นคนขยัน เวลาที่ปฏิบัติภารกิจปกติเสร็จแล้วก็จะมาช่วยงานสถานีต่อเสมอ เช่น หากมีคดีที่ต้องติดตามคนร้ายเป็นกรณีพิเศษ 'หนุ่ม' ก็จะอาสามาช่วยด้วยความกระตือรือร้น



ประกอบกับเขาขี่รถจักรยานยนต์เก่ง จึงได้รับการไว้วางใจให้ปฏิบัติภารกิจในการขับรถนำระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย แต่ที่น่าเศร้า คือ เพิ่งจะรู้จากเพื่อนสนิทของหนุ่มว่า เขามีแผนที่จะเชิญผู้บังคับบัญชาไปร่วมงานแต่งงานในอีก 2-3 เดือนที่จะถึงนี้



ทีมข่าวมีโอกาสได้คุยกับ สิบตำรวจเอก ภาสกร ตรีภพ ผู้บังคับหมู่สายตรวจทางหลวง 2 ซึ่งเป็นคู่บัดดี้ของสิบตำรวจเอก เศรษฐการ เปิดเผยว่า เขากับหนุ่มเข้ามาสังกัดที่สถานีตำรวจทางหลวง 2 พร้อมกัน และด้วยวัยที่ใกล้เคียงกันจึงเป็นคู่บัดดี้กันมาเกือบ 3 ปีแล้ว ทุกวันจะออกตรวจพร้อมกัน แล้วแบ่งพื้นที่กันรับผิดชอบจากคลิปที่เห็น เชื่อว่า ผู้ก่อเหตุตั้งใจตบรถจักรยานยนต์ของหนุ่มให้ล้ม แต่รถจักรยานยนต์คันนั้นเป็น รถใหญ่ กำลังเครื่องสูง เมื่อขับมาด้วยความเร็ว ทำให้ไม่มีจังหวะให้เบรกได้ และจากอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้ สิบตำรวจเอก ภาสกร ยอมรับว่า เขายังทำใจไม่ได้ที่ต้องขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจรุ่นเดียวกันกับเพื่อนที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุ



เขายังบอกด้วยว่า หนุ่มเป็นคนนิสัยดี ร่าเริงมาก มีความโอบอ้อมอารี เป็นจิตอาสา จะเห็นคนเดือดร้อนไม่ได้ ต้องยื่นมือไปช่วย ไม่ว่าผู้ใช้ทางจะยางแตก ยางรั่ว หนุ่มก็ต้องเข้าไปช่วยหมด และภาพที่เพื่อนๆ คุ้นเคย คือหนุ่มเป็นคนรักสัตว์ เวลาเห็นจะเข้าไปช่วยเหลือ เข้าไปอุ้มโดยไม่รังเกียจ



ทีมข่าวทราบมาว่า ช่วงปี 2558 - 2560 สิบตำรวจเอก เศรษฐการ สอบติดตำรวจใหม่ๆ ต้องเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ แต่ด้วยเงินเดือนที่ไม่มาก ทำให้เขาต้องไปขออาศัยที่วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร นานถึง 3 ปี

ทีมข่าวไปวัดแห่งนี้ พบกับ ร้อยตำรวจโท ธนาวุฒิ เดชาสกลหิรัญ รองสารวัตร กองบังคับการตำรวจจราจร ที่มาทำบุญที่วัดแห่งนี้ประจำ บอกว่า รู้จักกับ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ เพราะเป็นลูกศิษย์ที่วัดแห่งนี้เหมือนกัน ทุกครั้งที่ว่างจากงานหนุ่มจะเข้ามาดูแลเจ้าอาวาส และช่วยงานวัดเสมอ และทุกครั้งที่เจอเขาจะมาเล่าว่า การทำงานในแต่ละวันเขาได้ไปช่วยเหลือใครมาบ้าง เรียกได้ว่าเป็น ตำรวจน้ำดีคนหนึ่งที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง เพราะตำรวจดีๆ แบบนี้หายาก



สำหรับ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ เป็นชาวอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ รุ่น5 ฝึกอบรมหลักสูตรนายสิบตำรวจที่ ศูนย์ฝึกอบรม ตำรวจภูธรภาค7 จังหวัดนครปฐม รุ่นที่59 และตำรวจนครบาลรุ่นที่ 85



ก่อนหน้านี้ เป็นพลขับนำขบวน ให้พลตำรวจเอก ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย หรือ บิ๊กช้าง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจเอก ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ อดีตที่ปรึกษาพิเศษตร. ในฐานะรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ก่อนที่จะมาขับรถนำขบวนให้กับ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบัน กระทั่งมาเสียชีวิต



ล่าสุด ศาลธัญบุรีมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว นาย กิตติรัช ทำให้ถูกคุมตัวเข้าเรือนจำจังหวัดธัญบุรี ในวันนี้ทันที



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/769VDaniRBg

คุณอาจสนใจ

Related News