อาชญากรรม
รวบ “ทนายเก๊” ตระเวนหลอกว่าความทิพย์ อึ้งพบคดีติดตัวกว่า 30 คดี เสียหายรวมหลายล้านบาท
โดย nicharee_m
20 มิ.ย. 2568
419 views
ตำรวจสอบสวนกลาง “รวบทนายเก๊ ตระเวนว่าความทิพย์” พบมีคดีติดตัวกว่า 30 คดี และหมายจับตามตัวกว่า 7 หมาย ความเสียหายรวมหลายล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.2 กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายกิตติ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 689/2567 ลงวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้าน ซอยพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ 35-12 แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบหมายจับค้างเก่ายังพบว่ายังมีหมายจับที่ยังประกาศสืบจับอีกจำนวน 7 หมาย
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2567 มีผู้เสียหายจำนวนมากทยอยเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูกชายรายหนึ่งแอบอ้างตัวว่าเป็นทนายความ มีสำนักงานตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ โดยอวดอ้างว่าตนได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทนายความอย่างถูกต้อง สามารถว่าความในชั้นศาลได้ และรับทำคดีทั้งแพ่งและอาญาให้กับผู้เสียหาย แต่ความจริงกลับปรากฏว่า ชายคนดังกล่าวไม่ใช่ทนายความ ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และไม่ได้มีความรู้ทางกฎหมายแต่อย่างใด ทั้งยังใช้กลอุบายสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนจะหลอกให้เหยื่อหลายรายจ่ายเงินค่าดำเนินคดี “ว่าความทิพย์” รายละ 200,000 – 500,000 บาท จากนั้นก็หายตัวไป ไม่ดำเนินการใดๆ ให้ตามที่ตกลงไว้
ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ก่อเหตุลักษณะเดิมซ้ำๆ หลอกเหยื่อที่กำลังเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือทางกฎหมาย โดยอาศัยช่องว่างของระบบยุติธรรมเป็นเครื่องมือในการหลอกลวง ไร้ซึ่งความเกรงกลัวต่อกฎหมาย หลังผู้เสียหายรวมตัวร้องขอความเป็นธรรมต่อกองบังคับการปราบปราม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับจากศาล ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้วเห็นพ้องอนุมัติหมายจับตามคำร้องของพนักงานสอบสวน ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนติดตามตัว ทราบว่าหลังจากเกิดเหตุผู้ต้องหา ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่บ้านพักแห่งหนึ่งแถวบางบอน กรุงเทพมหานคร
ต่อมาเจ้าหน้าหน้า กก.3 บก.ป. จึงได้ลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณบ้านพักของผู้ต้องหาในจังหวัดศรีสะเกษ กระทั่งพบตัวผู้ต้องหาเดินออกมานอกบ้าน จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับของศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 689/2567 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ในข้อหา “ฉ้อโกง” จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าผู้ต้องหายังมีหมายจับคดีฉ้อโกงติดตัวอีก 7 หมาย และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับใดมาก่อน
ภายหลังการจับกุม มีชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษซึ่งเคยถูกหลอกลวงทยอยเข้าแจ้งความเพิ่มเติมแล้วกว่า 30 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และเข้าใจในสิทธิของตนเป็นอย่างดี จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดศรีสะเกษเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ถูกจับกุมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทนายเก๊ ,ว่าความทิพย์