อาชญากรรม

ตำรวจไซเบอร์ ประสานธนาคาร อายัดเงิน 2 ล้าน ได้ทัน หลังยายถูกหลอกโอนให้แก๊งคอลฯ

โดย nutda_t

5 ก.พ. 2568

3.1K views

ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ออกมาเปิดเผยความคืบกรณีคุณยายวัย 85 ปี ถูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงิน 2 ล้านบาท ว่าได้โอนสำนวนคดีมาจาก สภ.ปากเกร็ด ที่ผู้เสียหายเคยไปแจ้งความไว้เมื่อวัน 4 กุมภาพันธ์ ในช่วงเที่ยง หลังเกิดเหตุ โดยมอบหมายให้ทาง พล.ต.ต.ศิริวัฒร์ ดีพอ รรท.ผบก.สอท.1 และ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รรท.ผบก.สอท.2 เป็นผู้รับผิดชอบ และทำการสืบสวนสอบสวนในการติดตามเงินของผู้เสียหาย หลังจากที่ได้ทราบเรื่อง ตนได้ให้ทีมประสานงานกับธนาคารเพื่อตรวจสอบ และระงับทางธุรกรรมต่อจากที่ทางสภ.ปากเกร็ด ทำไว้เบื้องต้น พบว่ามีการโอนเงิน 2-3 ทอด ไปถึงธนาคารปลายทาง

เบื้องต้นทางตำรวจร่วมกับธนาคาร สามารถระงับที่ธนาคารปลายทางได้ จึงได้รับการประสานกลับมาจากธนาคารปลายทาง ว่าสามารถระงับเงินจำนวนดังกล่าวไว้ได้ แต่อาจจะถูกหักค่าธรรมเนียม 200 บาท (1,199,000) และต่อไปก็จะทำหมายอายัดเพื่อนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย

การสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด และผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบัญชีม้า หรือผู้ร่วมกันกระทำความผิด อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลติดตามตัวผู้กระทำความผิด ส่วนชื่อของเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังที่นำมาแอบอ้างเชื่อว่าน่าจะเป็นบุคคลที่มีอยู่จริง เพราะเป็นรูปแบบเดิมของมิจฉาชีพที่มามักจะอ้างชื่อเจ้าหน้ารัฐ

ในส่วนของกรณีนี้ คุณยายถูกหลอกด้วยวิธีการโทรศัพท์มาหาในช่วงเช้าที่คุณยายกำลังตื่น และอาจจะยังไม่มีสติในพูดคุย ปกติแล้วลูกหลานคุณยายเคยบอกไว้ว่าไม่ให้คุยกับเบอร์แปลก หลังจากนั้นมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจากการกระทรวงการคลัง บอกกับคุณยายว่ามีพันธบัตรสลากธนาคารออมสินมีอยู่ 4 ล้านบาท ซึ่งเกิดกว่าที่กฎหมายกำหนด หากไม่ทำให้ถูกต้องหรือทำให้เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่า 2 ล้านบาท ก็จะถูกเก็บภาษี จากนั้นหลอกให้คุณยายพูดคุยโดยการวิดีโอคอลร่วม 1 ชั่วโมง และล่อลวงให้คุณยายโหลดแอปพลิเคชันธนาคารมาไว้ในมือถือ จากนั้นก็สอนให้คุณยาย เข้าไปในแอปธนาคาร และทำธุรกรรมรวมถึงสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน ก่อนจะดูดเงินออกจากธนาคารคุณยายเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท โดยคุณยายไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่มิจฉาชีพให้ทำนั้นคือการยืนยันใบหน้าในแอปธนาคาร

จึงอยากฝากเตือนถึงคนทุกกลุ่มว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีทางที่จะโทรศัพท์และวิดีโอคอลไปหาประชาชนหรือส่งข้อความผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ไปหาประชาชนอย่างแน่นอน จึงอยากให้เฝ้าระวังโดยเฉพาะกลุ่มเบาะบาง หรือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่อาจจะรู้ไม่เท่าทันมิจฉาชีพ เพราะไม่ชำนาญในเรื่องเทคโนโลยี อีกทั้งยังประชาสัมพันธ์ ให้คนอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไปโหลดแอป “Senior’s Community Cyber Police Club เพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพในการที่จะถูกหลอก

อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีนี้จะรีบดำเนินการนำเงินมาคืนผู้เสียหายให้เร็วที่สุด ซึ่งหลังจากที่คุณยาย ทราบเรื่อง ก็ดีใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งฝากไปถึงประชาชนหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับตนเอง ให้รีบไปแจ้งความสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อให้ตำรวจประสานงานไปยังธนาคาร และรีบอายัดเงินไว้ได้ทัน

ด้าน นายทัศน์พล วัย 30 ปี หลายชาย หลังจากที่ทราบเรื่องจากคุณยาย ก็รีบกลับมาที่บ้านพาคุณยายไปแจ้งความทันทีที่ สภ.ปากเกร็ด ก่อนที่จะประสานมายังตำรวจไซเบอร์ เพื่อดำเนินการติดตามเงินคืน โดยคุณยาย บอกว่าเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่เก็บเงินเป็นลูกหลาน และอีกส่วนนึงเก็บไว้ทำศพให้ตัวเอง คุณยายคิดว่าน่าจะไม่ได้เงินคืนแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News