วินจยย.โดนจับรอบที่ 5 ฉกทองสาวเมียนมา ได้เงินแสนขายใช้หนี้

รวบวิน จยย. ฉกทองสาวเมียนมา 2 บาท พร้อมจี้ทองคำหนัก 2 สลึง ริมทางเท้าข้างถนน ก่อนนำไปขายได้เงินแสนมาใช้หนี้ ประวัติโชกโชนก่อคดีมาแล้ว 4 ครั้ง โดนจับเป็นรอบที่ 5 ต้อนรับวันตรุษจีน

เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา นายประสิทธิ์ หรือเอ๊กซ์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ, เสื้อผ้า หมวกนิรภัย รองเท้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ, เงินสดจำนวน 20,000 บาท (เหลือจากการนำทองคำไปขาย) และหลักฐานการขายทองคำ

พนักงานชุดจับกุมได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนว่าเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 09.40 น. ขณะที่สาวผู้เสียหายชาวเมียนมา เดินอยู่บนทางเท้าซอยเพชรเกษม 41 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ได้มีคนร้ายแต่งตัวใส่กางเกงขาก๊วย (สามส่วน) สีฟ้า สวมเสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้างสีส้ม (สวมทับ) ขับขี่รถจักรยานยนต์คันสีเขียว และได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทพร้อมจี้ทองคำหนัก 2 สลึง ที่ผู้เสียหายสวมใส่อยู่แล้วขับหนีไป ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี และพนักงานสอบสวนรับแจ้งไว้ตาม ประจำวันลำดับที่ 3 ลงวันที่ 26 ม.ค.2568 เวลา 11.52 น.

จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้สั่งการให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งจากการสืบสวนและการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทำให้ทราบว่าคนร้ายในคดีนี้น่าจะเป็นนายประสิทธิ์ ผู้ต้องหาทราบชื่อภายหลัง หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อไปถึงพบนายประสิทธิ อยู่บริเวณดังกล่าวเมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงอาการพิรุธต้องสงสัยจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้นตัว ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด จึงได้สอบถามเกี่ยวกับคดีคนร้ายวิ่งราวสร้อยคอทองคำ โดยการให้นายประสิทธิ ดูภาพถ่ายในวงจรปิดที่บันทึกไว้

นายประสิทธิ์ ให้การรับว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุจริง พร้อมทั้งได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดรถจักรยานยนต์ หมวกนิรภัย และเสื้อผ้า รองเท้า ที่ตนเองสวมใส่ในวันก่อเหตุซึ่งตรงกับภาพที่วงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ นอกจากนี้ยังได้สอบถามสร้อยคอทองคำพร้อมจี้ (ทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุ) นายประสิทธิ รับว่าตนได้พาไปขายที่ห้างทองตลาดพลู ซึ่งอยู่ซอยเทอดไท 14 ได้เงินมาจำนวน 104,000 บาท เงินบางส่วนได้นำไปใช้หนี้ เหลือเพียง 20,000 บาท จึงได้ยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหานี้เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เช่น คดีลักทรัพย์ ที่ สน.บางรัก เมื่อปี 61 คดีลักทรัพย์ ที่ สน.บางมด เมื่อปี 2562 ความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ที่ สน.ภาษีเจริญ เมื่อปี 2563 และ ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ที่ สน.สำเหร่ เมื่อปี 2567