นักโทษร้อง ถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำ เรียกไปทำโทษทั้งที่ไม่มีความผิด

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 โพสต์ข้อความ มีผู้เสียหายมาร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำกลางคลองไผ่ เรียกตัวเข้าไปทำโทษทั้งที่ไม่มีความผิด ซึ่งทางผู้เสียหายได้ส่งเป็นคลิปเสียงมาให้ ในคลิปเสียงดังกล่าวมีเนื้อหาประมาณว่า โดนเรียกไปทำโทษ ซึ่งผู้เสียหายที่เป็นนักโทษ ไม่ได้มีความผิดอะไรเลย โดยคนที่เรียกไปทำร้าย หรือลงโทษนั้นเป็นผู้อำนวยการ และผบ.แดน 6 โดยระบุว่า "ผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่นั้นต้องการให้ญาติที่อยู่ข้างนอกไปเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเองภายในอาทิตย์นี้ เพราะโดนซ้อมหนัก ทั้งที่ไม่มีความผิด อยู่ดีๆ เขาก็เรียกเข้าไปซ้อมไปกระทืบ ตอนนี้แผลก็ยังไม่หายดี ซึ่งปัจจุบันมีคนภายในเรือนจำคอยดูแลผู้เสียหายรายนี้เป็นอย่างดีแล้ว และปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ต้องการให้เรียกร้องความเป็นธรรม"



ทีมข่าวช่อง 3 ได้ติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงผ่านทางโทรศัพท์กับ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ระบุว่าเรื่องนี้ได้ประสานงานไปยังผบ.เรือนจำกลางคลองไผ่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ให้ข้อมูลมาว่า เป็นการเข้าไปตรวจภายในเรือนจำของเจ้าหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุม และผบ.แดน 6 ก่อนที่เจ้าหน้าที่ และนักโทษ จะมีการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทางเรือนจำได้มีการย้ายเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแยกกับนักโทษ และจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ซึ่งคาดว่าทางเรือนจำกลางคลองไผ่ จะมีการรายงานกลับมาที่กรมราชทัณฑ์อีกครั้งหนึ่ง



เรื่องที่ผู้เสียหาย อ้างว่าโดนเรียกไปทำโทษทั้งที่ไม่มีความผิด ระบุว่าเรื่องนี้ก็มีเค้าโครงความจริงอยู่ แต่คงจะไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งต้องให้ทางเรือนจำตรวจสอบ เบื้องต้นที่คุยกับทางผบ.เรือนจำกลางคลองไผ่ ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปนั้น เป็นผบ.แดน 6 ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรดูแลนั้น เป็นผู้อำนวยการฝ่ายควบคุม ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มีการกระทบกระทั่งกันกับนักโทษนั้น คือ ผบ.แดน 6 ส่วนผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมนั้น จะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ในวันนั้นได้เรียกตัวนักโทษไปเพียงคนเดียว คือผู้เสียหายที่มาร้องขอความเป็นธรรม



ซึ่งตามหลักการแล้ว วิธีการจัดการหลังจากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จะต้องมีการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพยานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องว่าเหตุเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ และหาสาเหตุที่แท้จริง หากพบว่าเจ้าหน้าที่มีความผิดจริง ก็จะมีการลงโทษตามระเบียบ และจะต้องมีการย้ายเจ้าหน้าที่ออกมาก่อน เพื่อดำเนินการสอบสวน



ซึ่งหลังจากเกิดกรณีเช่นนี้ หลายคนเป็นกังวลว่านักโทษที่อยู่ภายในเรือนจำจะถูกกระทำเช่นนี้หรือไม่ โฆษกราชทัณฑ์ ระบุว่า ตอนนี้มี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนก็เป็นกังวลหมด และเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องเคารพทำตามพ.ร.บ.ที่กำหนดขึ้น ซึ่งปัจจุบันภายในเรือนจำก็มี CCTV ที่คอยตรวจสอบอยู่ อย่างกรณีที่มีผู้ต้องขังเข้ามาใหม่หากมีร่องรอยบาดแผล หรือรอยฟกช้ำจะต้องมีการรายงานถึงคณะกรรมการทั้งหมด และทุกครั้งที่มีการเสียชีวิตไม่ว่าจะตายด้วยสาเหตุธรรมชาติหรือไม่ ก็จะต้องมีการรายงานต่อคณะกรรมการเช่นเดียวกัน ซึ่งทางคณะกรรมการจะมีการเข้ามาตรวจภายในเรือนจำอีกครั้งหนึ่ง จึงอยากจะฝากบอกพี่น้องประชาชนว่าไม่ต้องเป็นกังวล เรือนจำให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก