อาชญากรรม

แม่พาลูกชายวัย 14 ฟ้องเอาผิด "หมอเหรียญทอง" 5 ข้อหา ถูกตบหน้า แอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำรพ.

15 พ.ค. 2567

479 views

เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ทนายรัชพล ศิริสาคร พร้อม น.ส.กัลยา มารดาและเด็กชาย วัย 14 ปี เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน ตามที่ตำรวจนัด หลังจากเด็กชาย ถูก นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ทำร้ายร่างกาย และจับเเก้ผ้าให้ออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากสูบบุหรี่ในห้องน้ำชั้น 12 ของโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา

ทนายรัชพล กล่าวว่า วันนี้ตนจะขอให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบในความผิดที่คู่กรณีได้กระทำต่อเด็กชายทั้งหมด 5 ข้อหา ได้เเก่ 1.ทำร้ายร่างกาย ผู้อื่นจนทำให้เป็นเหตุให้เกิดการทำร้ายจิตใจ 2.ยักยอกทรัพย์ 3.ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดหรือไม่กระทำการใดหรือทำให้เกรงกลัวอันตรายและเสรีภาพ 4.กักขังหน่วงเหนี่ยวก และ 5.กระทำอานาจาร โดยจะต้องรอตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนจะพิจารณาให้เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้ง 5 ข้อหานี้หรือไม่


โดยในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลใช้อำนาจเกินขอบเขตในการดำเนินการกับผู้เสียหายในโรงพยาบาล เนื่องจากผู้เสียหายได้กระทำความผิดกับกฎของโรงพยาบาลนั้น ก็ควรต้องทำตามกฏหมาย ซึ่งกฎหมายก็มีบทลงโทษอยู่ ไม่ควรที่จะตัดสินหรือลงโทษเอง และไม่ใช่เห็นว่าผู้เสียหายมารักษาฟรีแล้วจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำนอกเหนือกฎหมาย

ทั้งนี้ตนยอมรับว่า คู่กรณีมีความเป็นสุภาพบุรุษ เพราะได้ออกมายอมรับกับสิ่งที่ได้ทำลงไป โดยตนยังไม่ได้ติดต่อกับคู่กรณี เพราะอีกฝ่ายไม่อยากเจรจา

ในส่วนของการตรวจร่างกายนั้น ทางเเม่ของเด็กชาย ได้มีการพาไปตรวจมาแล้วเมื่อวาน ต้องรอผลตรวจอีกทีว่าผลจะออกมาเป็นอยากไร ร้ายเเรงเเค่ไหน

ด้าน น.ส.กัลยา กล่าวว่า ขอโทษและยอมรับกับการที่ลูกตนไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำจริง แต่สิ่งที่คู่กรณีทำกับลูกตนเกินกว่าเหตุ ซึ่งตนก็ไม่เคยกระทำกับลูกเช่นนี้มาก่อน และทางคู่กรณียังไม่ได้มีการติดต่อมาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ แต่ก็ยืนยันหากว่ามีการขอโทษจากคู่กรณี หรือคืนทรัพย์สินและยกเลิกการจ่ายค่าปรับ ตนก็จะยังดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุดอยู่เช่นเดิม

“ลูกหนูก็ไม่ใช่คนดีหรอก สิ่งที่เขาทำผิด หนูก็ยอมรับ แต่สิ่งพวกคุณทำผิดก็ต้องยอมรับด้วย” น.ส.กัลยา กล่าว

ขณะที่ เด็กชายผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนยอบรับว่าตนไม่รู้ว่าการสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ผิด ในส่วนที่คู่กรณีมีการออกมาโพสต์ว่าตนยกพวกไปขี่รถจักรยานยนต์ก่อกวนที่โรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ทำเช่นนั้น มีเเต่ตนได้ขอความช่วยเหลือจากประชาชนแถวนั้นให้ติดต่อแม่ของตนให้มารับที่โรงพยาบาล โดยแม่ของตนได้นั่งรถแท็กซี่มารับตนพร้อมกับญาติ ไม่มีการพวกมาก่อกวนแต่อย่างใด แต่ตนได้ขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี ขอติดรถกลับมาดูแฟนของตนที่ยังอยู่โรงพยาบาล

ทั้งนี้ตนอยากฝากถึงคู่กรณีว่า มีสิทธิ์อะไรที่มากระทำเช่นนี้ ตนไม่เคยโดนใครทำร้ายแบบนี้มาก่อน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  หมอเหรียญทอง

คุณอาจสนใจ

Related News