อาชญากรรม

'อธิบดีกรมการข้าว' พบบิ๊กเต่า เผยเจอโดรนตกในบ้าน 'แรมโบ้-ธนกฤต' โผล่เป็นเหยื่อแก๊งตบทรัพย์

โดย passamon_a

8 ก.พ. 2567

59 views

อธิบดีกรมการข้าว ดอดเข้าพบ บิ๊กเต่า พูดคุยให้ข้อมูลคดีตบทรัพย์เพิ่มเติม เจ้าตัวยิ้มไม่ตอบคำถาม ขอคำปรึกษา หลังเจอชายปริศนา เดินป้วนเปี้ยนแถวบ้านพัก ซ้ำเจอโดรนปริศนาหล่นในสวน หวั่นไม่ปลอดภัย ด้านบิ๊กเต่าเผยคดีคืบหน้าไปเยอะ ยืนยันไม่มีถอย


ขณะที่ แรมโบ้ อีสาน เข้าให้ข้อมูลยื่นหลักฐานตำรวจ ปปป. แฉเคยถูก นาย อ. ขบวนการตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวขู่กรรโชกทรัพย์ 6 ครั้ง แจ้งความไว้หลายท้องที่แต่คดีไม่คืบ ลั่นไม่อยากให้มีที่ยืนในสังคม ยืนยันตนเองไม่เคยทำผิด ปัดตอบให้เงินจริงหรือไม่ เผยสบายใจขึ้น หลัง ผบก.น.1 สั่งดูสำนวนติดตามคืบหน้าคดี มั่นใจเอาผิด นาย อ. ได้ เพราะพฤติการณ์ซ้ำซ้อนกับคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว



เมื่อวันที่ 7 ก.พ.67 นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เดินทางเข้าพบพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดคลี่คลายคดีตบทรัพย์ ที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ชั้น 16 เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม หลังตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาขบวนการตบทรัพย์ได้แล้วรวม 4 ราย และอยู่ระหว่างการขยายผลเตรียมขอหมายจับเพิ่มเติม


โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มาเชิญอธิบดีกรมการข้าว ที่บริเวณห้องทำงานชั้น 16 ไปพูดคุยที่บริเวณห้องทำงานชั้น 27 ซึ่งจากการสอบถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ว่ามีการเรียกมาให้ข้อมูลเรื่องใดเป็นพิเศษ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุเพียงว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปเยอะแล้ว ที่เรียกอธิบดีกรมการข้าวมาพูดคุย ก็จะพูดคุยทุกเรื่อง พร้อมยืนยันว่า "ไม่มีถอย"


ขณะที่นักข่าวถามอธิบดีกรมการข้าว ว่าวันนี้เจ้าหน้าที่เรียกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมประเด็นใดบ้าง เจ้าตัวไม่ตอบคำถามได้แต่ยิ้ม แต่เมื่อถามว่า สบายใจขึ้นหรือไม่ ก็ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า "ไม่มีอะไร" และก็ยิ้มให้กับนักข่าว


มีรายงานด้วยว่า ที่นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เดินทางมาเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ในวันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นการเข้ามาแสดงความขอบคุณการทำงานของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันก็ถือโอกาสนำเรื่องมาเข้าปรึกษา หลังเกรงว่าตนเองและคนในครอบครัวจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากหลังเกิดเรื่องขึ้นมาได้มีชายปริศนา จำนวน 2 คน เดินป้วนเปี้ยนที่บริเวณบ้านพัก รวมถึงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ยังพบโดรนบังคับลำหนึ่งบินตกลงมาในบ้านพักอีกด้วย จึงทำให้เกิดความกังวล


อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถาม นายณัฏฐกิตติ์ ว่าต้องการให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าดูแลความปลอดภัย หรือทำเรื่องขอคุ้มครองพยาน หรือไม่ เจ้าตัวยังไม่ขอตอบรับ โดยให้เหตุผลว่า ขอนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับภรรยาและคนในบ้านก่อน


ในวันเดียวกัน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ อีสาน เดินทางมาที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ข้อมูลกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เกี่ยวกับขบวนการตบทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหาคดีเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าว โดยเฉพาะพฤติกรรมของนายเอกลักษณ์ หนึ่งในผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าว ซึ่งนายเสกสกลอ้างว่า เคยถูกนายเอกลักษณ์กรรโชกทรัพย์ในลักษณะเดียวกัน


นายเสกสกล กล่าวว่า วันนี้ได้ประสานกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ หรือ รองเต่า เพื่อเข้ามาให้ข้อมูล เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ 1 ในผู้ต้องหาคดีเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าวไว้หลายโรงพัก แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงจะมาเร่งรัดคดี แต่ขอยังไม่บอกรายละเอียด โดยขอให้ได้รายงานพลตำรวจตรีจรูญเกียรติก่อน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี


แต่บอกได้ว่า คดีที่ตนแจ้งความไว้ มีลักษณะเดียวกันกับคดีนี้ทุกอย่าง โดยหนึ่งในผู้ต้องหา คือ นายเอกลักษณ์ มีพฤติกรรมซ้ำซาก ทำแล้วทำอีก ตนมองว่าเป็นอันตรายต่อสังคม แสวงหาผลประโยชน์ด้วยการตบทรัพย์ ตนเองเคยโดนกระทำ รู้สึกเจ็บปวดมาก น้ำตาตกในและรู้สึกว่า ตนเป็นถึงที่ปรึกษานายกรัฐมนตรียังโดนคุกคามแบบนี้ แล้วประชาชนทั่วไปจะอยู่อย่างไร


โดยวันนี้ ตนจะรายงานทุกเรื่องต่อ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เท่าที่ตนมีข้อมูลที่เจอกับตัวเอง ทั้งคลิปเสียง และหลักฐานต่าง ๆ ที่บันทึกไว้ ก่อนหน้านี้ ตนเคยไปแจ้งความนายเอกลักษณ์ไว้แล้วประมาณ 6 คดี ในช่วงปี 2565-2566 พฤติการณ์คือตบทรัพย์ เรียกเงินจำนวนหลายแสนบาท และถูกข่มขู่คุกคามหลายรูปแบบ จนไม่ได้หลับได้นอน และตนยังเคยไปปรึกษาตำรวจผู้ใหญ่ว่าจะล่อซื้อด้วย เพราะยืนยันได้ว่าตนเองไม่มีความผิดสักเรื่อง แต่นายเอกลักษณ์ก็จะเอาให้ได้ ไปร้องคนนั้นคนนี้ เปลี่ยนตัวละครที่มาเล่นงานตนไปเรื่อย ๆ


นายเสกสกล บอกอีกว่า เรื่องที่ตนโดนและไปแจ้งความ เคยออกข่าวไปแล้วหลายครั้ง และตนก็เคยแถลงข่าวตอบโต้ที่ทำเนียบรัฐบาลว่าตนโดนคุกคามอย่างไร และตนเคยบอกคนที่มาเล่นงานตนว่าให้ระวังถูกใช้เป็นเครื่องมือ แต่ก็ไม่มีใครฟัง และข่าวก็เงียบไป


ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของนายเสกสกลที่โดนเรียกทรัพย์ มีนายศรีสุวรรณ จรรยา และนายยศวริศ ชูกล่อม ผู้ต้องหาในคดีนี้อีก 2 คนร่วมด้วยหรือไม่ นายเสกสกล ตอบว่า นายศรีสุวรรณไม่เกี่ยว แต่อีกคน นายเสกสกลบอกเพียงว่า กระบวนการมันอยู่ในนั้นอยู่แล้ว แต่มี นาย ว.แหวน เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย


นายเสกสกล ยืนยันว่า ที่มาให้ข้อมูลกับ ปปป. วันนี้ ตนไม่ได้เปิดหน้าชน แต่มาในฐานะผู้ถูกกระทำ ตนแค่ต้องการเอาคนที่ทำผิดกฎหมายมาลงโทษ ไม่อยากให้ไปใช้วิธีแบบนี้กับคนอื่นอีกต่อไป หลังให้สัมภาษณ์นายเสกสกล ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าไปให้ข้อมูลกับรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและชุดสืบสวน โดยบอกว่า หลังพูดคุยกับตำรวจแล้ว จะมาเปิดเผยรายละเอียดที่ถูกตบทรัพย์ให้สื่อมวลชนรับทราบอีกครั้ง


ต่อมา นายเสกสกล เปิดเผยทางโทรศัพท์ ภายหลังเดินทางเข้าให้ข้อมูลตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. คดีขบวนการเรียกรับผลประโยชน์อธิบดีกรมการข้าว ว่า เบื้องต้นหลังรับเอกสาร พนักงานสอบสวน ปปป. ได้ ประสานไปยัง พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ล่าสุดทราบว่า พล.ต.ต.อัฏธพร ได้เรียกดูสำนวนคดี พร้อมเตรียมที่จะเรียกพยานฝ่ายตนเอง 2 คน เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยตนมีคลิปเสียงที่เป็นพยานหลักฐานทั้งหมด ที่พร้อมจะเปิดเผยต่อสื่อมวลชนให้รับทราบ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่า ขอให้หลักฐานดังกล่าวอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนไว้ก่อนเพื่อไม่ให้กระทบต่อการทำคดี


นายเสกสกล ระบุอีกว่า หลังให้ข้อมูลรู้สึกอุ่นใจและเชื่อว่าจะมีความคืบหน้า เพราะคดีนี้จะมีความเชื่อมโยงกับคดีเรียกรับผลประโยชน์ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งก็จะโยงไปถึงตัวบุคคลทุกคนที่เกี่ยวข้องในกลุ่ม โดยเฉพาะบุคคลสองคนที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ คือ นาย อ.อ่าง และ นาย จ.จาน อีกทั้งจะเชื่อมต่อไปถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง คือ นาย ว.แหวน เพราะไม่รู้พฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับ แล้วมีการรับข้อมูลมาร้องเรียนตัวเอง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/a5YuzdQQZsM

คุณอาจสนใจ

Related News