อาชญากรรม

ปิดจ๊อบ! คุมตัวครบแล้ว 9 ผู้ต้องหา คดีแทง 'นศ.ปทุมวัน' เสียชีวิต ผู้ต้องหาฝากถึงรุ่นน้อง “ทำอะไรคิดดีๆ”

โดย petchpawee_k

1 ก.พ. 2567

73 views

 “ผู้การจ๋อ” เผย จับหัวโจกยั่วยุชูนิ้วกลาง-เหยียบดอกบัวรั้ว ตามภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้เกิดเหตุรุนแรง แทง “น้องเร” เสียชีวิต ส่วนมือแทงพบ 3 คน เตรียมขยายผลต่อ หากพบใครให้ความช่วยเหลือจะดำเนินคดีทั้งหมด /ฝากขังแล้ว 3 คน ปริปากอ้างคู่อริควักมีดก่อน ยันเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับสถาบัน

จากกรณีที่นายวราวุธ หรือ เร อายุ 25 ปี นักศึกษาช่างกลปทุมวัน ถูกกลุ่มสถาบันคู่อริใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง จนเสียชีวิตบริเวณหน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ (26 ม.ค.)


ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุ รวม 9 ราย กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.นำทีมชุดสืบสวนนครบาล, บก.น.6 และสน.ปทุมวัน เปิดปฎิบัติการ “ปิดเมืองล่า มือฆ่าน่องเร” ปูพรมค้น 7 จุด จนสามารถจับกุมผู้ต้องหา รวม 3 คน คือ นายณัฐพร  หรือ “โต้ 9 นิ้ว” อายุ 19 (มือแทง/ยังเรียนอยู่)/ นายธีรทัศน์  อายุ 21 ปี (พ้นสภาพเป็นนักศึกษา) นายการัณย์  อายุ 19 ปี (พ้นสภาพเป็นนักศึกษา)

และคืนวานนี้สามารถจับกุมนายเพชรมงคล อายุ 28 ปี ซึ่งถือเป็นบุคคลตามหมายจับลำดับที่ 5 ได้พร้อม เสื้อ และกางเกงที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ สำหรับ ผู้ต้องหารายนี้ เป็นคนที่ชูนิ้วกลางและใช้เท้าเหยียบดอกบัว ตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา


พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เผยว่า ตอนนี้ตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ทางสืบสวนนครบาลได้สอบปากคำไปหมดแล้ว และนำตัวมาคุมไว้ที่ สน.ปทุมวัน แยกห้องขังแต่ละคนไว้/โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ถูกแจ้งในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือ นายณัฐพร พวงแก้ว นายธีรทัศน์ นิจนันท์ นายการัณย์ นันทะแสน ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญารัชดา โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบไปถามไปยังผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ว่าฝั่งตรงข้ามเป็นคนชักมีดออกมาหาเรื่องก่อนจริงหรือไม่ นายธีรทัศน์ หนึ่งในผู้ต้องหาตอบว่า “จริงครับ ฝั่งนู้นเริ่มก่อน และไม่รู้ว่าคืนนั้นเพื่อนคนไหนพกมีดไป” นายธีรทัศน์ ยังบอกอีกว่า “เหตุคืนนั้นเป็นเหตุซึ่งหน้า ยืนยันไม่ได้เป็นการล้างแค้นระหว่างสถาบันแต่เป็นเหตุเฉพาะบุคคล”


เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ใครเป็นคนแทงน้อง เร นายธีรทัศน์ บอกว่า ไม่ทราบว่าใครเป็นคนแทงเหตุตอนนั้นมันชุลมุน วันนั้นตนกับเพื่อนไปกินข้าวบริเวณใกล้สถาบันฝั่งตรงข้าม และไปเจอกับผู้เสียหายที่วิ่งออกมาจากปั๊ม จึงมีการยั่วยุด่าทอกัน และยืนยันว่าไม่มีการชกต่อยกันตัวต่อตัว ส่วนจากคลิปวงจรปิดที่มีการปีนรั้วเปลี่ยนรั้วเพื่ออะไร เป็นการถ่ายคอนเทนท์หรือไม่ นายธีรทัศน์ บอกว่า “ผมไม่รู้ว่าใครปีนผมไม่ได้ปีน”


เมื่อถามว่าอยากขอโทษครอบครัวผู้ตายไหมทั้งสามคนเงียบไม่ตอบคำถามสื่อ /ถามต่อว่า มีอะไรอยากบอกรุ่นน้องที่จะร่วมงานในวันสถาปนาสถาบันอุเทนถวาย ในวันพรุ่งนี้ไหม นายธีรทัศน์ บอกว่า “ขอให้สนุก”


เมื่อผู้ข่าวถามว่ามีคำสั่งไม่เปิดรับนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของสถาบันอุเทนถวายจากกรณีของพวกตน นายธีรทัศน์ บอกว่า ถ้าไม่เปิดรับเพราะ มาจากกรณีของตน ตนก็รู้สึกเสียใจ /ถามต่อว่าการไม่รับนักศึกษาปีหนึ่งจะทำให้ปัญหาทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบันยุติลงหรือไม่นายธีรทัศน์ บอกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสถาบันเป็นเรื่องระหว่างบุคคล


---------------------

 ‘เพชรมงคล’ ยอมรับต่อย ‘น้องเร’ 2 ครั้ง อ้างป้องกันตัวเพราะไม่มีมีด เผย ปีนรั้วถ่ายรูปชูนิ้วกลาง-เหยียบดอกบัว ไม่ได้ทำคอนเทนต์ แค่คึกคะนอง  “ฝากถึงรุ่นน้องทำอะไรคิดให้ดี ๆ” ขอโทษครอบครัว-เพื่อนผู้ตาย ขณะที่ รอง ผบช.น. ระบุ กลุ่มผู้ต้องหามี 2 คนที่ยังคงสถานะ นศ. ที่เหลือพ้นสภาพ กลุ่มนี้อยู่ในโลกเสมือนจริงมีค่านิยมผิด ๆ  


ต่อมา เวลา 12.45 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สอบปากคำ นายเพชรมงคล  ด้วยตนเอง โดยนายเพชรมงคล ให้การว่าตนเองได้สิ้นสภาพการเป็นศึกษา เมื่อสองปีที่แล้ว พร้อมอ้างว่าวันเกิดเหตุตนเองนั่งอยู่ในสถาบัน กินน้ำกินขนมกัน จากนั้นก็เดินออกมาเจอเพื่อนข้างนอก ซึ่งเพื่อนเดินไปกันก่อน พวกตนเองเดินไปทีหลัง ไปเจอเดินอยู่หน้าโรงเรียน


พร้อมยอมรับว่า ที่ไปถ่ายรูปลักษณะนั้นเป็นการถ่ายรูปเพราะความคึกคะนองของวัยรุ่น แต่ไม่ได้เป็นการทำคอนเทนต์ เป็นแค่ความคึกคะนอง และกำลังจะเดินกลับ คู่อริ 2 คน ก็เดินมาเจอกัน ยอมรับว่าเป็นคนต่อยไป 2 ครั้ง ป้องกันตัวเพราะตนเองไม่มีมีด เนื่องจาก 2 คนนั้นชักมีดออกมา และยอมรับว่าเป็นคนปีนรั้ว ชูนิ้วกลาง ส่วนเหตุผลที่เข้าไปภายในมหาวิทยาลัยแม้จะซิ้วไปแล้วก็เพราะไปร่วมทำกิจกรรม


พล.ต.ต.นพศิลป์ ถามว่า จากแผนปุทษกรรมมีการลงขันบริจาคเงินกัน ผู้ต้องหาเคยบริจาคหรือไม่ โดยนายเพชรมงคล ตอบว่า เคยบริจาคไป 1 ครั้งเป็นค่าข้าวค่าน้ำ จากที่เพื่อนทักมาบอก โอนไป 40-50 บาทเพราะไม่ค่อยมีเงิน ส่วนมีค่าทนายด้วยหรือไม่นั้น ตนเองคิดว่าก็น่าจะมี แต่ตนเองก็ไม่ทราบแน่ชัด


 นายเพชรมงคล บอกอีกว่า “อยากฝากถึงรุ่นน้องทำอะไรคิดให้ดีๆ อะไรที่เกิดขึ้นแล้วมันแก้ไขไม่ได้ก็ต้องรับสภาพ แล้วคนที่เดือดร้อนก็คือพ่อแม่และคนข้างหลัง และอยากฝากขอโทษพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตด้วย” พร้อมยืนยันไม่ได้เป็นการล้างแค้น แต่เป็นเหตุซึ่งหน้า ส่วนเป็นรูปแบบองค์กรหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ เพราะรวมกลุ่มกันกินเหล้าปกติ

--------------------------------------------

ผู้ต้องหา ร่วมแทง ‘น้องเร’ เข้ามอบตัว ปฏิเสธการแจ้งข้อหาของทางพนักงานสอบสวน ระบุ ต้องการให้ปากคำในชั้นศาลเท่านั้น ผู้ต้องหาทั้งหมดบอกรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนและรุ่นพี่ร่วมสถาบันประสานทนายความ ให้เข้ามาช่วยคดี  


เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายมนต์ธัช  อายุ 21 ปี (มือแทง/พ้นสภาพเป็นนักศึกษา) ,นายกฤศกร  อายุ 20 ปี (ยังเป็นนักศึกษา) /และนายสหรัฐ อายุ 20 ปี (มือแทง/พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา) มาสอบสวนที่กอง บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายหลังที่ทนายความได้พาผู้ก่อเหตุทั้งสามมอบตัวที่ สน.ปทุมวัน โดยทั้งหมดไม่ตอบคำถามใด ๆ ใส่หมวก ปกปิดหน้าตา กล่าวสั้นๆ ว่าจะให้การในชั้นศาล


เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการควบคุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 รายคือนายภูริ พลจันทร์ , นายวรกันต์ ขานทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตาม


ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยภายหลังผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เข้ามอบตัว ว่าเบื้องต้นจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้งสามที่มามาพร้อมกับที่ปรึกษาทางกฎหมาย ได้รับเพียงว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏอยู่ตามคลิปกล้องวงจรปิด ขณะที่นายเพชรมงคล ขึ้นไปเอาเท้าเหยียบดอกบัวที่บริเวณรั้วหน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน แต่ปฏิเสธการแจ้งข้อหาของทางพนักงานสอบสวนโดยระบุเพียงว่าต้องการให้ปากคำในชั้นศาลเท่านั้น


จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมด บอกเพียงว่ารู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนทนายความจากการสอบถามทราบว่ามีการประสานมาจากทางเพื่อนและรุ่นพี่ร่วมสถาบัน ให้เข้ามาช่วยเป็นทนายความในคดีนี้ให้กับกลุ่มผู้ต้องหา และจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนี้ มีเพียงหนึ่งรายที่ยังคงสถานะความเป็นนักศึกษา คือนายกฤษกร (รวมกับนายณัฐพร ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ จะเป็นสองรายที่ยังมีสภาพเป็นนักศึกษา) ส่วนอีกสองราย ที่มอบตัวในวันนี้ พ้นสภาพไปตั้งแต่ปี 2565 โดยขั้นตอนต่อจากนี้ จะต้องให้พนักงานสอบสวน สน. ปทุมวัน ดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดอีกครั้ง


พร้อมกันนี้รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังฝากถึงเพื่อนหรือคนใกล้ตัวของผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีไม่ประสานเข้ามอบตัวกับทาง หากตำรวจพบว่ามีการสนับสนุนช่วยเหลือในการหลบหนีหรือการซ่อนตัวผู้กระทำความ จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด หรือหากมีใครรู้ว่าผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ที่ใดสามารถให้ข้อมูลกับทางตำรวจได้เช่นกัน


17.30 น. นายภูริ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าน้องเร นักศึกษาปทุมวันเสียชีวิต เข้ามอบตัว ที่ สน.ปทุมวัน เพิ่มเติมอีก 1 ราย โดยมีทนายความพามามอบตัว โดยตำรวจได้ใช้เวลาในการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง


พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นนายภูริ ผู้ต้องหายังปฏิเสธที่จะให้การในชั้นสอบสวน ในคืนนี้ (31 ม.ค.) จะควบคุมตัวไว้ในห้องขัง ก่อนที่ในช่วงเช้าจะนำตัวส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อฝากขังต่อไป


ล่าสุด นายวรกันต์ เป้าหมายลำดับ 8 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ร่วมกันฆ่าน้องเร นศ.ช่างกลปทุมวัน เข้ามอบตัว หลังเจอกันดันอย่างหนัก ทำให้ขณะนี้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้ง 9 คนแล้ว



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/44Vd94d5BzE


คุณอาจสนใจ

Related News