อาชญากรรม

รวบหนุ่มแสบ! ฉวยโอกาสยายวัย 97 จ้างพาไปเบิกเงิน แอบเปิดแอปฯ โอนเงิน 3.4 ล้านเข้าบัญชีตัวเอง

โดย petchpawee_k

17 ม.ค. 2567

315 views

เมื่อวานนี้  (16 ม.ค.67) พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ  ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยชุดสืบสวนควบคุมตัวนายธนภัทร อายุ 24 ปี หลังก่อเหตุลักทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 3.4 ล้านบาทของยายจิต อายุ 97 ปี  โดยเจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางเป็นเงินสดกลับมาได้ 1.2 ล้านบาท รวมทั้งมีทองรูปพรรณและทองแท่ง น้ำหนักรวม 22 บาท , รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ BMW สีขาว ,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า สีเทา , สลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 23 ฉบับ และสลากออนไลน์อีกกว่า 140 ฉบับ


นายเจษฎา ชะอ้อนชม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.สวนกล้วย  เปิดเผยว่า ยายจิตเป็นลูกบ้านของตน และไม่มีญาติใกล้ชิด   เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ได้จ้างให้นายธนภัทรพาไปเบิกเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่งในตลาดบ้านโป่ง ต่อมาวันที่ 15 ม.ค.67 ยายจิตไปที่ธนาคารเพื่อเบิกเงินสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายกินอยู่อีกครั้ง ทำให้ทราบว่าเงินก้อนโตได้หายไปจากบัญชีชาวบ้านจึงมาแจ้งเรื่องให้ตนทราบ  ตนจึงพายายจิตไปตรวจสอบบัญชีที่ธนาคาร ทำให้ทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายธนภัทร จึงอายัดบัญชีไว้ ก่อนเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านโป่ง


ยายจิต เล่าว่า ตนเกิดที่บ้านโป่ง ก่อนจะย้ายไปอยู่กับสามีที่ภาคใต้ตั้งแต่อายุ 25 ปี โดยสามีทำงานเป็นผู้รับเหมา ส่วนตนเปิดร้านขายของ  ซึ่งสามีจะโอนเงินรายได้เดือนละ 20,000 – 30,000 บาท มาให้ตนเก็บสะสม กระทั่งสามีเสียชีวิตลง จึงเดินทางกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิดใน อ.บ้านโป่ง โดยมีเงินที่สะสมมาทั้งชีวิต เป็นทุนเลี้ยงปากท้อง และทำบุญตามวัดต่างๆ


เนื่องจากตนไม่มีลูกและญาติใกล้ชิด  อีกทั้งอายุมากเรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยมี จึงต้องอาศัยไหว้วานคนรู้จักให้พาไปธนาคาร  ตอนแรกที่จะจ้างนายธนภัทร พาไปธนาคาร ก็ยังลังเลและไม่ไว้ใจ เพราะพอจะรู้ว่าประวัติไม่ค่อยดี แต่เนื่องจากจำเป็น จึงทำให้พลาดท่า ซึ่งหลังจากที่ทราบว่าเงินหายออกไปจากบัญชีกว่า 3 ล้านบาท ตนตกใจมากจนถึงกับเป็นลมล้มพับ


จากการสอบสวนเบื้อต้น นายธนภัทร ไม่ตอบถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่สารภาพว่า ลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง ไม่ได้มีผู้ร่วมขบวนการ  โดยได้อาศัยช่วงเวลาที่พายายจิตไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร ตนก็แอบเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ในชื่อของยายจิต ก่อนจะโอนเงินผ่านแอปของธนาคารเข้ามาที่บัญชีของตัวเองทุกวัน วันละประมาณ 200,000 บาท โดยจะโอนเงินครั้งละ 20,000 - 40,000 บาท จากนั้นนำเงินไปใช้หนี้สินและซื้อทรัพย์สินต่างๆ ทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาล ทองคำ รถยนต์ BMW มือสอง ราคา 330,000 บาท และรถจักรยานยนต์มือสอง ราคา 145,000 บาท


พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้ง ทางชุดสืบสวนได้เร่งตรวจสอบจนทราบว่า นายธนภัทรเป็นผู้ก่อเหตุจริง  จึงเข้าควบคุมตัวได้ที่บ้านพัก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการขยายผล ว่ามีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำมาตรวจสอบ พบว่า ทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณเป็นของจริงทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 7 แสนบาท  ซึ่งการกระทำของผู้ก่อเหตุถือเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ นับรวมการโอนเงินได้ทั้งหมด 127 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน


ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า นายธนภัทร ปกติมีอาชีพขายของอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง มักชอบโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะอวดกินหรู อยู่แพง ชอบปาร์ตี้สังสรรค์ และเที่ยวกลางคืน  ซึ่งหลังจากที่มีข่าวว่านายธนภัทรถูกจับกุม กลุ่มโซเซียลในพื้นที่ก็มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าว โดยมีสมาชิกเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก หลายคนบอกตรงกันว่า นายธนภัทรมักชอบแอบอ้างเป็นเสี่ย มีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน และมีบางคนแซวว่าเป็นเสี่ยกำมะลอ สุดท้ายโป๊ะแตกจนได้ กรรมตามทัน


ด้านนายเจษฎา ชะอ้อนชม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3  เปิดเผยว่า ขณะนี้ยายจิตอยู่ในความดูแลของตนและชาวบ้าน ในส่วนสภาพจิตใจของยายจิตหลังจากเกิดเรื่อง ปัจจุบันดีขึ้นมากแล้ว สำหรับทรัพย์สินที่สามารถตรวจยึดกลับมาได้ ทั้งทองคำ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เพื่อความโปร่งใสและความปลอดภัยของยายจิต ทางตนและคณะกรรมการหมู่บ้าน จะเข้ามาร่วมกันดำเนินการเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินให้กลับมาเป็นเงินสด แล้วฝากเข้าบัญชีธนาคารของยายจิตตามเดิม


ส่วนทางด้านคดีความ ทราบว่า นายธนภัทรได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/V8ECPwGEDPA

คุณอาจสนใจ

Related News