อาชญากรรม

อัยการตีกลับสำนวน คดีเยาวชนชายวัย 14 กราดยิงพารากอน ชี้ขั้นตอนสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดย thichaphat_d

29 ธ.ค. 2566

87 views

อัยการสูงสุดส่งคืนสำนวนสอบสวนคดีเด็ก 14 กราดยิงคนตายในห้างสยามพารากอน แจง พนักงานสอบสวน สอบผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กโดยไม่รอผลวินิจฉัยจากจิตแพทย์ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องรอให้ผู้ต้องหาที่เป็นเด็กหายป่วย สามารถต่อสู้คดีได้ จึงสอบสวนใหม่ แล้วส่งสำนวนให้อัยการอีกครั้ง รองโฆษกสำนักงานอัยการ ชี้ถ้าไม่ส่งคืนสำนวนจะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ด้านตำรวจ สน.ปทุมวัน เตรียมเรียกถกพนักงานสอบสวน เร่งทำสำนวนใหม่ ส่งอัยการให้ทันอายุความ


เมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.) นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2566

โดยเป็นคดีกล่าวหา เด็ก 14 ชาย ตกเป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยเหตุเกิดภายในห้างพารากอน เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมานั้น

คดีดังกล่าว พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ได้ตรวจสอบสำนวนการสอบสวนแล้วปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนการสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2566 พนักงานสอบสวนได้มีการส่งตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กไปยังสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อทำการตรวจและบำบัดรักษา ซึ่งสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ได้รับตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กไว้บำบัด รักษา และตรวจวินิจฉัยทางนิติจิตเวชแบบผู้ป่วยใน เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้

และจากการตรวจสำนวนการสอบสวนยังปรากฏข้อเท็จจริงอีกว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2566 ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างระยะเวลาที่แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยและประเมินความสามารถในการต่อสู้คดียังไม่เสร็จสิ้น

พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนคำให้การของผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็ก โดยที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับผลการตรวจประเมินและวินิจฉัยจากแพทย์สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ที่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นแต่อย่างใด


อีกทั้งยังมิได้ดำเนินการสอบสวนแพทย์ผู้ตรวจการรักษาให้ได้ความโดยกระจ่างชัดเพื่อประกอบคดี

และยังปรากฏข้อเท็จจริงด้วยว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2566 สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ได้ส่งรายงานผลการตรวจวินิจฉัยและประเมินความสามารถของจิตแพทย์เจ้าของไข้ และทีมสหวิชาชีพ นิติจิตเวช ได้ตรวจวินิจฉัยและประเมินผลว่า


ผู้ต้องหาไม่มีความเข้าใจตระหนักรู้เรื่องของข้อกล่าวหา ไม่มีความสามารถในการพูดคุยและตอบคำถาม รวมทั้งไม่สามารถควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของตนเองได้ ผลการประเมินสรุปว่า ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กยังไม่สามารถต่อสู้คดีได้    


พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กในคดีนี้ โดยไม่ได้รอผลการวินิจฉัยจากแพทย์สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ในเรื่องความสามารถของผู้ต้องหาที่เป็นเด็กก่อน


แล้วทำการสอบสวนพร้อมกับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นเด็ก จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14 มาตรา 134 พรบ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 6


โดยถือว่าเป็นการสอบสวนผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กโดยไม่ชอบ จึงมีคำสั่งให้คืนสำนวนการสอบสวนในคดีนี้ไปยังพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป


 นายนาเคนทร์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การคืนสำนวนในครั้งนี้ พนักงานอัยการยังไม่ได้วินิจฉัยในเนื้อหาของสำนวนแต่อย่างใด เพราะเห็นว่า กระบวนการสอบสวนยังไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงส่งสำนวนคืนให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย


เมื่อผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอยู่ในสภาวะหายป่วยเป็นปกติและสามารถต่อสู้คดีได้ ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้นแล้วส่งสำนวนคดีนี้ให้พนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาอีกครั้งภายในอายุความตามกฎหมาย โดยอายุความในคดีนี้มีอายุความสูงสุด 20 ปี


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/wH8--0s-FMk

คุณอาจสนใจ

Related News