อาชญากรรม

โดนจับยังปากแจ๋ว นาทีรวบ ‘เป๊ปซี่’ สมาชิกแก๊งเด็กช่าง ยิงน้องหยอด-ครูเจี๊ยบ ยังท้าตำรวจ "ยิงดิ"

โดย nattachat_c

19 ธ.ค. 2566

858 views

วานนี้ (18 ธ.ค. 66) ตำรวจสืบสวนนครบาลเปิดปฏิบัติการ 'ปิดเมืองกรุง ล่ามือปืน EP.2' นำหมายเข้าตรวจค้นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 14 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้ 13 ราย จากทั้งหมด 14 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมช่างกล ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิง นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือ น้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาอุเทนถวาย และ ครูเจี๊ยบ ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ จนเสียชีวิต เมื่อวันที่้ 11 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา


โดยมีภาพวินาทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ บุกจับนาย ชนัญชิต แสงจันทร์ หรือ เป๊ปซี่ อายุ 21 ปี อดีตนักศึกษาช่างกลปทุมวัน รุ่น 64 หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต วิศวกรรมปิโตรเลียมเคมีและสิ่งแวดล้อม ที่บ้านพัก


โดย เป๊ปซี่มีท่าทีขัดขืน โวยวายด่าทอใส่เจ้าหน้าที่ พร้อมท้าทายเจ้าหน้าที่ว่า "ยิงดิ!" ขณะที่ ทางด้านตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อม โดยบอกว่าอย่าขัดขืน พร้อมให้ทางแม่ของเป๊ปซี่มาช่วยพูดคุย โดยทางแม่พยายามเกลี้ยกล่อมลูกชายบอกว่า “เป๊ปซี่ อย่าโวยวาย”


จากการบุกจับกุม เจ้าหน้าที่ยึดโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง // สมุดโน้ต // กระดาษประวัตินักศึกษา // และสมุดบัญชีธนาคาร ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ในความผิดฐาน "ร่วมกันสมคบตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)" เบื้องต้น เจ้าตัวให้การปฏิเสธ

------------

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่หน้าของขังของ สน.ทุ่งมหาเมฆ 'เป๊ปซี่' เป็นคนที่ไปเยี่ยมเพื่อน 9 คนที่โดนจับ จากปฏิบัติการ 'ปิดเมืองกรุง ล่ามือปืน EP.1' ของตำรวจ


และวันนั้น "เป็ปซี่" บอกว่า ทุกคนที่ถูกตำรวจจับเป็นแพะรับบาป มั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ฝีมือของนักศึกษาปทุมวันแน่นอน แต่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มคู่อริสถาบันอื่น ที่เคยมีเรื่องบาดหมางนักศึกษาอุเทนถวาย ยืนยันว่า ไม่ได้รวมตัวกันเป็นแก๊งก่ออาชญากรรม แต่รวมตัวกันเพื่อติวหนังสือ พร้อมกับท้าทายให้ไปเจอกันในชั้นศาล


แต่ 'เป็ปซี่' ก็เป็น 1 ในผู้ต้องหา คดีกราดยิงงานแต่งอดีตนักศึกษาอุเทนถวาย เมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2565 ด้วย


โดยหลังจากถูกจับตำรวจก็คุมตัว 'เป๊ปซี่' เข้ามาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า "วันนี้ยังบอกว่าเป็นการจับแพะอยู่หรือไม่" โดยเป๊ปซี่ไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ กับผู้สื่อข่าว ก่อนจะเดินเข้าห้องสอบสวนไป


และจากนั้น ระหว่างที่เป๊ปซี่ถูกนำตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้พยายามถามย้ำว่า "วันนี้ยังบอกว่าเป็นการจับแพะอยู่หรือไม่" แต่เป๊ปซี่กลับไม่ตอบคำถามใด ๆ และจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า “ผมมีอะไรจะพูดอย่างหนึ่งครับ ผมชอบแมนยูครับ” ก่อนที่จะเดินขึ้นรถไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีอาการเครียดใด ๆ


นอกจากนี้ ตำรวจยังตามจับ นายนภวุฒิ เรืองศรี หรือวุฒิ อายุ 25 ปี คนชี้เป้า ผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ออกเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ในข้อหา 'ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด หรือสมคบซ่องโจร' ได้ด้วย


ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาตามหมายจับใหม่ 14 คน เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค. 66) จับได้ 13 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม


กลุ่มแรก 10 คน ได้แก่

1. นาย ชนัญชิต แสงจันทร์ (เป๊ปซี่) อายุ 21 ปี

2. นายจิรเมธ นามณรงค์ อายุ 20 ปี

3. นายกันตพงศ์ พรมพิทักษ์ อายุ 28 ปี

4. นายขจรศักดิ์ แต้มชัยภูมิ อายุ 25 ปี

5. นายกรกฎ ตื้อแอ้ อายุ 20 ปี

6. นายสุขสันต์ กองแก้ว อายุ 22 ปี

7. นายชุมนุมโชค เอี่ยมปาน อายุ 21 ปี

8. นายนครินทร์ นาคิน อายุ 29 ปี

9. นายณัฏฐกิตต์ คำเก่า อายุ 33 ปี

10. นายอัฐวุฒิ สินอยู่


ซึ่งทั้งหมดถูกดำเนินในความผิดฐาน "ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)"


ส่วน นางสาวอัญญารัตน์ ทองสุข อายุ 24 ปี / นายธนโชติ บุญสงเคราะห์ อายุ 22 ปี และ นายนภวุฒิ เรืองศรี อายุ 25 ปี (หมายจับเก่า) ถูกดำเนินคดีฐาน ข้อหา "สนับสนุนร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"


สาเหตุที่ นางสาว อัญญารัตน์ โดนจับ เพราะร่วมกับนายนภวุฒิ ช่วยพาทีมสังหารหนีเหลืออีก 4 คน ที่หลบหนี ได้แก่ นายอนาวิน หรือวิน แก้วเก็บ อายุ 20 ปี มือปืน // นายอับดุลเลาะ หรือเลาะ ดือราแม อายุ 28 ปี คนขี่มอเตอร์ไซค์ // และอีก 2 คน ที่เป็นหมายจับใหม่ ตำรวจยังไม่เปิดเผยชื่อ และข้อหา


ทั้งหมดถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกคุมตัวแต่ละคนอยู่ในสภาพอิดโรย และเมื่อมาถึงที่ศูนย์สืบสวนนครบาล ตำรวจก็คุมไปสอบปากคำทันที

-------------

มีรายงานว่า พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเองทั้งหมด


โดยระหว่างการสอบปากคำ ได้สั่งสอนผู้ต้องหาทั้งหมด ระบุว่า “ปัญหาที่เกิดขึ้นสิ่งที่ต้องถูกหมายจับ และถูกจับกุมตัวเป็นไปตามพยานหลักฐานทั้งหมด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้หยุด และจบที่รุ่นเรา เมื่อสิ้นสุดกระบวนการยุติธรรมแล้วต้องไปต่อในวันข้างหน้า ได้หรือไม่ได้” โดยผู้ต้องหาทั้งหมดตอบว่า "ได้ครับ"


ภายหลังการสอบปากคำในเบื้องต้น พลตำรวจตรี นพศิลป์ เปิดเผยว่า

เกือบ 1 เดือน ที่ผ่านมา ทีมสืบนครบาลได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม พยานวัตถุ และไปพบแอปพลิเคชั่น และกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้พบว่า กลุ่มคนร้ายเหล่านี้ มีการวางแผนตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ วางแผนหลบหนี เช่าเซฟเฮ้าส์ จัดหายานพาหนะ คิดวิธีอำพรางยานพาหนะ จัดหาอาวุธปืน ฝึกรุ่นพี่รุ่นน้อง ปกครองกันแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง มีเป้าหมายชัดเจน และจะมีการรับน้องในวันที่ 12 พฤศจิกายน


ทางเจ้าหน้าที่จึงลงมือก่อนวันรับน้องคือ วันที่ 11 พฤศจิกายน เบื้องต้น ผู้ต้องหาทุกคนยังให้การปฏิเสธ และได้ซักถามสืบสวนขยายผล เพื่อให้เขารู้ว่า เมื่อศาลออกหมายจับ แสดงว่าพยานหลักฐานเพียงพอ แต่จะให้การอย่างไร ไม่ว่ากัน ไปสู้กันในศาล


ซึ่งตอนนี้ ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 13 คน จากทั้งหมด 14 คน ในจำนวนนี้ 11 คน เป็นผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิด ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน หรือซ่องโจร และ สนับสนุนให้ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” เหลือติดตามจับกุมอีก 1 คน


ส่วนอีก 1 คน ที่จับกุมได้วานนี้ (18 ธ.ค. 66) คือ นภวุฒิ เรืองศรี เป็นผู้ต้องหาในข้อหาเดียวกัน แต่ถูกออกหมายจับไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา


ตอนนี้ เหลือตามจับกุมมือยิงตัวจริง อีก 2 คน คือนายอนาวิน และนายอับดุลเลาะ ผู้ต้องหามือยิงและคนขี่รถจักรยานยนต์ก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอด โดยยืนยันว่า ตอนนี้กำลังไล่ล่าตัวอย่างกระชั้นชิด


ซึ่งเบาะแสล่าสุดที่พบคือ หลบหนีไปทางจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี นายนภวุฒิ และแฟนสาวเป็นคนให้ความช่วยเหลือ


ส่วนกลุ่มไลน์ขององค์กรอาชญากรกลุ่มนี้ ถ้าตำรวจสืบไปแล้ว พบว่าใครมีเกี่ยวข้อง ใครสนับสนุน ใครช่วยเหลือ ผู้กระทำความผิด จะนำตัวมาลงโทษไม่มีละเว้น

-----------

ขณะที่ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังตรวจค้นบ้านพัก ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา ราคาประมาณ 5 ล้านกว่าบาท และได้นำตัวนภวุฒิมาชี้จุดเกิดเหตุ


ภายในบ้านไม่มีผู้อาศัย ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ มีเพียงรถฮอนด้า แอคคอร์ด สีบรอนซ์ทอง จอดอยู่ ภายในรถเจอกระเป๋าเป้สีเทา 1 ใบ มีกล่องสีดำล็อกกุญแจ 1 ใบ


ในกล่องคือ ปืนออโตเมติกขนาดจุด 45 พร้อมกระสุนปืนขนาดจุด 45 จำนวน 36 นัด และกระสุนขนาดจุด 38 อีก 3 นัด // แม็กกาซีน 2 อัน // ซองปืน // อุปกรณ์ทำความสะอาดปืน 1 ชุด // ถุงมือ 1 ข้าง // เสื้อผ้า 1 ชุด // และกระดาษจดเวลาเรียน 1 แผ่น


โดย นายนภวุฒิ ยืนยันว่า ตนเป็นเจ้าของปืน และพกติดตัวไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ซึ่งซื้อผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ราคาประมาณ 4-5 หมื่นบาท ซื้อมาพร้อมกระสุนปืน และแม็กกาซีนแบบสั้น-แบบยาว ขนาด 15 นัด 1 อัน และ 7 นัด 1 อัน โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ถึงบ้าน ซึ่งปืนดังกล่าวเป็นปืนไม่มีทะเบียน


ขณะที่ ท้ายรถเจอถังน้ำมันขนาด 10 ลิตร 1 แกลลอน ซึ่งนายนภวุฒิอ้างว่า ชอบเดินป่าเลยซื้อน้ำมันติดรถไว้ แต่ตำรวจเชื่อว่า อาจจะซื้อไว้เพื่อหลบเลี่ยงกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมัน หรือเตรียมไว้ทำภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง

-------------

ภายหลังการตรวจค้น พลตำรวจตรี นพศิลป์ เปิดเผยว่า

นายนภวุฒิ เป็นคนขับรถกระบะ มิตซูบิชิ ไททัน ไปรับทีมสังหารที่อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี หลังทีมสังหารเปลี่ยนสีรถ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว


โดยให้ นางสาวอัญญารัตน์ แฟนสาว ขับรถเก๋งคันนี้ไปรับที่สุพรรณบุรี และนำรถมาจอดหลบซ่อนไว้ในบ้านหลังนี้ โดยบ้านหลังนี้เพิ่งซื้อ แต่เป็นชื่อแม่ของนายนภวุฒิ ส่วนรถเป็นชื่อของนายนพวุฒิ และจากการตรวจสอบพบว่า นายนภวุฒิ เรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 เรียนไปด้วย ทำงานเป็นช่างแอร์ไปด้วย จึงมีเงิน และได้คอยสนับสนุนเพื่อน


ขณะที่ ตำรวจคุมตัวนพวุฒิ กลับไปสอบปากคำที่ศูนย์สืบกองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามว่าอยากจะพูดอะไรถึงครอบครัวของน้องหยอดหรือครูเจี๊ยบบ้างหรือไม่ และมีส่วนร่วมในการก่อเหตุหรือไม่ หรือเป็นคนจัดซื้ออาวุธปืนให้กับกลุ่มเพื่อนด้วยอีกหรือไม่ โดยนายนพวุฒิไม่ตอบอะไรเลย

-----------

ทั้งนี้ มีรายงานว่า มีผู้ต้องหา 5 คน ที่ถูกจับกุม เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค. 66) มีรอยแผลเป็น เป็นรูปฟันเฟืองที่ไหล่ซ้าย หน้าอกซ้าย บางคนมี 4 รอย บางคน 2 รอย


ซึ่งถ้าจำกันได้ แผลเป็นของสัญลักษณ์ฟันเฟืองที่ต้นแขนซ้ายเป็นเหมือนการอวยชั้นยศ ใครที่ไปก่อเหตุแล้วผลงานเข้าตา ก็จะได้รับการประทับตรานี้ 1 อัน โดยการเอาตราฟันเฟืองไปเผาไฟแล้วมาประทับที่แขนซ้าย หากเทียบก็คล้ายเหรียญเกียรติยศ หากมีมาก ก็จะเป็นระดับยศชั้นสูงหรือเป็นผู้นำ ได้รับการยอมรับจากคนในกลุ่มมาก


เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า รอยฟันเฟืองดังกล่าวเป็นตำนานที่บิดเบี้ยว ในจำนวนคนที่จับได้ พบว่า มีฟันเฟืองที่แขน 5 คน 1 ในนั้น มี 5 เฟือง มากที่สุดตั้งแต่จับกุมมา และ ถือเป็นการตอกย้ำแนวทางการสอบสวนว่า เฟืองหมายถึงสัญลักษณ์การก่อเหตุ เพราะก่อนหน้านี้ มีบางกระแสบอกว่า การปั๊ม 4 เฟือง หมายถึง ตรา 4 เฟืองทอง สัญลักษณ์ของช่างกล 4 สถาบัน


การจับกุมเมื่อวานนี้ (18 ธ.ค. 66) เป็นแถวหน้า และทุกคนที่จับกุมเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด


ทั้งนี้ เมื่อไปตรวจสอบภาพของผู้ต้องหาที่มีรอยฟันเฟือน พบว่า ประกอบด้วย


1. นายธนโชติ บุญสงเคราะห์ อายุ 22 ปี มีฟันเฟือง 4 เฟือง จากรายงานจากชุดสืบสวนว่า นายธนโชติ เป็นเหมือน หัวโจกในแก๊ง ทำหน้าที่รวบรวมเงิน สู้คดีให้กับรุ่นน้อง และ พบว่านายธนโชติ เป็นประธานรุ่นที่ 79 คณะ อุตสาหกรรมช่างยนต์ ด้วย


2. นายชุมนุมโชค เอี่ยมปาน อายุ 21 ปี มี 5 เฟือง ซึ่งมีคดีเก่าที่ศาลตัดสินรอลงอาญาอยู่


3. นายสุขสันต์ กองแก้ว อายุ 22 ปี มี 4 เฟือง ที่แขนซ้าย


4. นายนครินทร์ นาคิน อายุ 29 ปี มี 4 เฟือง ที่หน้าอกข้างซ้าย


และ 5. มี 2 เฟือง และเป็นที่รู้จักกันดี คือ นายชนัญชิต แสงจันทร์ (เป๊ปซี่) อายุ 21 ปี


ขณะที่เพจ สืบนครบาล โพสต์ภาพรอยฟันเฟืองของกลุ่มผู้ต้องหา พร้อมข้อความระบุ "ฟันเฟือง 2 4 และ 5 มีความหมายอย่างไร ผู้รู้ช่วยตอบหน่อยค่ะ ครั้งนี้ แอดมินขอความรู้จากสมาชิกเพจเป็นโคนัน ช่วยไขปริศนาฟันเฟืองนี้ไปพร้อมกัน"


จากนั้นได้คอมเมนท์ใต้โพสต์ ระบุ "บางคนก็เฟืองนูนมาก"

-------------

คุณอาจสนใจ

Related News