อาชญากรรม

จับเพิ่มอีก 1 กลุ่มคนร้ายยิง ‘น้องภู่’ นศ.เทคนิคดุสิต ตร.เค้นสอบปมจูงใจ เจ้าตัวปัดตอบสื่อ

โดย nattachat_c

23 พ.ย. 2566

21 views

ความคืบหน้า กรณีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิง นายพงษ์ภีระ หรือน้องภู่ อายุ 16 ปี นักศึกษา ปวช.ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเทคนิคดุสิต เสียชีวิต ภายในซอยระนอง 2 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา


โดยหลังจากตำรวจชุดสืบสวนนครบาลได้จับ นายอัครพล อายุ 22 ปี จากการสอบปากคำขยายผล รวมถึงการลงพื้นที่ ทำให้เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ย. สามารถจับกุมนายธนากร หรืออ๊อฟ อายุ 18 ปี ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น


ซึ่ง นายธนากรคือคนที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์อีกคัน และเคยเป็นนักศึกษาเทคนิคแห่งหนึ่ง ย่านจรัญสนิทวงศ์ โดยสามารถจับกุมได้ย่านฝั่งธนบุรี

-------------

พ.ต.อ.ไตรภพ แพทย์รัตน์ ผู้กำกับการ สน.ดุสิต เผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นยัง เป็นการสอบเรื่องพฤติการณ์การก่อเหตุ


ตัวของผู้ต้องหายังไม่พูดถึงมูลเหตุจูงใจ ซึ่งจะต้องสอบปากคำเพิ่ม นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวว่า ตัวของนายธนากร ได้รับบาดเจ็บจากการถูกแทงอีกด้วย


สำหรับนายธนากร นั้นยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของร่องรอยบาดแผลว่า บาดเจ็บมากน้อยเพียงใด ยังต้องรอผลตรวจก่อน เช่นเดียวกับนายอัครพล หรือยีนส์ ก็ยังต้องรอผลตรวจทางร่างกายก่อน


ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน ไปทำการตรวจหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อมาประกอบสำนวนในคดี


ระหว่างที่คุมตัว นายธนากร ออกจากห้องขัง ไปยังรถตำรวจเพื่อคุมตัวไปตรวจร่างกาย สื่อมวลชนพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ถูกกันออกมา


จากนั้น เวลา 10.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายธนากร กลับมาที่ สน.ดุสิต พอลงจากรถ ก็รีบนำตัวขึ้นชั้นสอง เข้าห้องขังทันที


เวลา 14.30 น. ตำรวจควบคุมตัวนายยีนส์ ออกจากห้องสอบสวนเพื่อเข้าห้องคุมขัง ระหว่างนั่น ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามมูลเหตุจูงใจในการลงมือก่อเหตุ แต่นายยีนส์ เดินก้มหน้าด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดไ ม่ตอบคำถามอะไรกับนักข่าว


ต่อมา เวลา 14.40 น. ตำรวจคุมตัวนายอ๊อฟ ออกจากห้องคุมขังไปสอบปากคำ ในห้องสอบสวนชั้น 3 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกันผู้สื่อข่าว ซึ่งตัวนายอ๊อฟ ก็ไม่ได้ตอบคำถามอะไรเช่นเดียวกัน

-------------

อุกอาจ ยิงถล่มงานแต่งกลางกรุง เจ้าบ่าวศิษย์เก่าอุเทนถวาย แขกดับ 1 เจ็บ 4 เจ้าบ่าวยันไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกับใคร จบการศึกษามาได้ 2 ปีแล้ว ตำรวจเร่งสอบปมขัดแย้ง ไม่ตัดประเด็นเรื่องสถาบันทิ้ง


เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 ส.ค.65 ตำรวจ สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่บริเวณบ้านพัก ในซอยสุทธิพงศ์ 1/1 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว พื้นที่ประมาณ 108 ตารางวา ที่บริเวณหน้าทางเข้าที่จอดรถพบรอยเลือดไหลเป็นทาง ภายในมีการจัดวางโต๊ะกลม 5 ตัว ขวดเบียร์วางเกลื่อนเต็มโต๊ะ เก้าอี้ล้มกระจัดจาย โดยทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธปืน จำนวน 5 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงไปก่อนหน้านี้แล้ว


ขณะที่มีรายงานว่า นายณัฐวุฒิ พินิจใหม่ ถูกยิงหน้าอกอาการสาหัส นำส่ง รพ.รามา ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งถูกยิงเข้าซี่โครงซ้าย 1 นัด ราวนมบริเวณหน้าอก 1 นัด เหนือราวนมขวา 1 นัด คอด้านขวา 2 นัด คอด้านซ้าย 1 นัด แผลที่หน้าผากมีรอยกระสุนถาก นิ้วชี้ข้างขวาขาด  


ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย ทราบชื่อ 2 ราย คือ น.ส.วราภรณ์ สุวรรณภา ถูกยิงที่หัวไหล่ซ้าย นายวันชนะ สุวรรณดี ถูกยิงที่บริเวณแขนถาก ๆ ถูกนำตัว ส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์


จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงเช้ามีการจัดงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวที่บริเวณบ้าน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ โดยเจ้าบ่าวเคยเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ช่วงเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนของเจ้าฝ่ายเจ้าบ่าวได้มานั่งดื่มสังสรรค์กันอยู่ที่บ้าน ในโรงจอดรถที่เกิดเหตุฝั่งตรงข้าม


ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์วนมาดูลาดเลา 1 รอบ กระทั่งหลังจากงานแต่งงานเสร็จสิ้น ยังมีการกินเลี้ยงกันอยู่ในกลุ่มเพื่อนถึงช่วงเย็น ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่ตามกันมาจอดบริเวณหน้าประตูทางเข้าที่เกิดเหตุ แล้วคนนั่งซ้อนท้ายทั้ง 2 คัน ใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าว ทำให้ทุกคนต้องก้มหลบหนีเอาตัวรอด ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย


ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเชิญตัว นายฟ้าลั่น และ น.ส.จินศุจี เจ้าบ่าวและเจ้าสาว มาสอบปากคำ หาสาเหตุการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายครั้งนี้ รวมถึงมีคำสั่งให้ขุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้ ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ


ต่อมาเมื่อเวลา 21.10 น. ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะเกิดเหตุมีคนร้าย 6 คน รถจักรยานยนต์ 3 คัน บุกเข้าไปยิงปืนเข้าไปในงานเลี้ยงแต่งงาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 4 คน หลังเกิดเหตุได้ทำการสอบสวนเจ้าบ่าวและเจ้าสาว รวมถึงเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพบปลอกกระสุน หัวกระสุนตกอยู่ ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน


รอง ผบช.น. กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าบ่าว ยืนยันว่าไม่มีเหตุโกรธเคืองกับใคร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีความเกี่ยวข้องกับผู้มาร่วมงานหรือไม่ ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบันนั้น ยังไม่ได้ตัดประเด็นนี้ เพราะเจ้าบ่าวจบการศึกษามานาน 2 ปีแล้ว โดยการยิงเป็นลักษณะยิงสาด ไม่ได้ยิงเฉพาะเจาะจงใคร ทั้งนี้ขอเวลาในการสืบทดสอบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป


รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเจ้าบ่าวนั้น ระหว่างศึกษาอยู่เป็นนักศึกษาที่ดี ไม่เกเร ไม่มีเรื่องมีราวกับใคร เป็นนักกีฬาฟุตบอลของสถาบัน และจากการสืบสวนพบว่า ในงานเกิดเหตุเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งมีทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลฯ วิทยาเขตอุเทนถวาย มาร่วมงานกว่า 90 คน โดยทางเจ้าบ่าวได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเชิญชวนเพื่อนมาร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว ซึ่งเป็นที่มาที่อาจจะทำให้กลุ่มคนร้ายรู้ว่าจะมีการรวมตัวของกลุ่มนักศึกษา จึงมาก่อเหตุลงมือดังกล่าว


ซึ่งพบว่า หนึ่งในแก๊งที่ยิงน้องหยอดกับครูเจี๊ยบ เป็นคนร้ายที่ยิงถล่มงานแต่งด้วย

---------------

เมื่อเดือนธันวาคม 2564 เกิดเหตุกลุ่มหลายสิบคน สวมชุดคล้ายกับนักเรียน นักศึกษาสายอาชีพยกพวกวิ่งไล่ตีกันบริเวณลาดจอดรถจักรยานยนต์ประตูทางเข้า-ออกฝั่งโรงหนังของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีกาฬสินธุ์ ไปจนถึงบริเวณด้านหน้าของห้าง


คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวพยายามวิ่งไล่ทำร้ายกัน หลังจากออกมาจากการดูภาพยนตร์เรื่อง“4 KINGS” ทำให้ประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยและอยู่บริเวณดังกล่าวพากันแตกตื่นและวิ่งหลบเพราะเกรงว่าจะโดนลูกหลง


ตอมา ตำรวจตามรวบ หัวโจกไว้ได้ คือ นายเลอวิทย์ หรือ นะโม (ตอนนั้นอายุ 20ปี) ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า  ไม่ได้เป็นนักเรียน หรือนักศึกษาแต่อย่างใด พฤติกรรมวันเกิดเหตุกลุ่มของนายเลอวิทย์ประมาณ 20 คน ส่วนใหญ่ไม่ได้เรียน แต่พยายามแต่งตัวให้คล้ายกับนักเรียนสายอาชีวะ ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสแล็ก คลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวมาดูหนังเรื่อง “4 KINGS” เนื่องจากหวังว่าจะได้ส่วนลด 20 บาท เพราะหากใส่เสื้อช็อปประจำสถาบันมาดูจะได้ส่วนลด ซึ่งเมื่อดูหนังจบ กลุ่มของนายเลอวิทย์ ได้ตะโกนใส่มาทางนักเรียนเทคนิคว่า “อินโว้ย” จากนั้นก็ลงมือวิ่งไล่ทำร้ายกลุ่มนักเรียนเทคนิค และมีชาวบ้านถ่ายคลิปไว้ได้


ต่อมา ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สั่งจัดกำลังคุมเข้ม เฝ้าสังเกตการณ์ทุกรอบที่ฉายหนังเรื่อง “4 KINGS” เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน


INGS อาชีวะ ยุค 90's ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการยกพวกตีกันของนักเรียนอาชีวะ ยุค 90's  ซึ่งในเรื่องก็มีการสอดแทรกสาระ นัยต่าง ๆ งานนี้โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ก็จัดโปรโมชั่นชื่อ "ยกพวกมาดูกัน ให้มันส์เต็มโรง เพียงใส่เสื้อช็อป ลด 20"

---------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/pmQ-Fx-NRBA

คุณอาจสนใจ

Related News