เตรียมย้าย 6 ตำรวจ เอี่ยวคดียิงสารวัตรศิว ฝากขังเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพฯ

หลังเมื่อวานนี้ คณะทำงานคดีการเสียชีวิตของ พันตำรวจตรีศิวกร สายบัว หรือสารวัตรศิว ตำรวจทางหลวงที่ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านกำนันนก ได้ยื่นคำร้องถึงศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม เพื่อขอโอนย้ายการฝากขังตัวผู้ต้องหาในคดีมาควบคุมตัวในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม อนุญาตแล้ว ขั้นตอนต่อไป วันนี้จะยื่นหนังสือถึงเรือนจำกลาง จ.สมุทรสงคราม แจ้งคำสั่งการโอนย้ายของศาล เพื่อนำตัวตำรวจทั้ง 6 นาย มาฝากขังที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร

อีกส่วนหนึ่งจะทำหนังสือถึง นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งมีอำนาจในการสั่งโอนตัวผู้ต้องหาข้ามเรือนจำ เพื่อสั่งให้โอนย้ายตำรวจทั้ง 6 นาย จากเรือนจำกลาง จ.สมุทรสงคราม มาเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน)

หลังโอนตัวตำรวจทั้ง 6 นาย มาที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมานคร ก็ต้องยื่นคำร้องต่อศาลขอฝากขังใหม่อีกครั้ง แต่จะเป็นวันไหนขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหน้าที่จะไปรับตัวเมื่อไหร่ ซึ่งขั้นตอนในการรับตัวต้องประสานกับเรือนจำทั้ง 2 แห่ง ซึ่งวันนี้จะมีความชัดเจน

ส่วนการเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในงานมาสอบสวนเพิ่มเติม วันนี้ยังไม่ได้เรียกใครเข้ามา ยังตรวจสอบรายละเอียดเรื่องกล้องวงจรปิดอยู่ ขณะที่วันนี้คณะทำงานประชุมชุดสืบสวนสอบสวนตั้งแต่ 8 โมงเช้า หลังประชุมได้แยกย้ายกันลงพื้นที่ทำงาน

พันตำรวจเอกวิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ในฐานะโฆษกชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เปิดเผยว่า การทำงานหลัก ๆ ในช่วงนี้จะเน้นไปที่การตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ซึ่งต้องดูให้ละเอียดรอบคอบว่าตำรวจแต่ละนายมีพฤติการณ์ในวันเกิดเหตุอย่างไร และตอนนี้ได้เร่งตรวจสอบโดยด่วน เพราะคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน

ส่วนการเรียกตำรวจที่อยู่ในงาน 13 นาย มาสอบปากคำเพิ่มเติม ได้ทยอยเรียกเข้ามาให้ปากคำบ้างแล้ว พนักงานสอบสวนจะนำคำให้การไปตรวจสอบกับพยานหลักฐาน และหากตรงไหนมีข้อสงสัย ก็จะเรียกตัวเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนตำรวจให้การขัดแย้งกับหลักฐานกล้องวงจรปิดหรือไม่ ตรงนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน