'บิ๊กต่อ' ร่วมฌาปนกิจ 'ผกก.เบิ้ม' ลุยตั้งกองทุนช่วยครอบครัว

'รองต่อศักดิ์' สวมกอดครอบครัว 'ผกก.เบิ้ม' พ่อผู้กำกับเบิ้มและรองต่อศักดิ์ เปิดใจหลังพิธีฌาปนกิจ ท่ามกลางตำรวจและประชาชนมาร่วมพิธีจำนวนมาก


เมื่อวันที่ 17 ก.ย.66 ที่วัดใหญ่ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ บรรยากาศพิธีฌาปนกิจศพ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม ผกก.2 บก.ทล. ซึ่งใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ที่บ้านพักย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ประเด็นความเครียดจากคดีกำนันนก


โดยตั้งแต่เวลา 11.00 น. ทางครอบครัวยาวไทยสงค์ รวมถึงญาติพี่น้อง ข้าราชการและบุคคลที่เคยทำงานใกล้ชิดกับ ผกก.เบิ้ม ร่วมฟังเทศน์ ฟังสวดพระพุทธมนต์ มาติกา-บังสุกุล และร่วมกันถวายภัตตาหารเพล


จากนั้นเวลา 12.00 น. ได้เชิญหีบศพออกจากศาลา เคลื่อนขบวนไปยังเมรุ ได้จัดขบวนพระสงฆ์นำรถเทียมลายพญานาค ซึ่งเป็นรถใช้บรรทุกโลงของ ผกก.เบิ้ม ที่มีพ่อแม่ประคองอยู่ไม่ห่าง โดยมีจ่าบอม (น้องชาย) ถือกระถางธูป เจ้าหน้าที่ถือพานธูปเทียน และพานบรรจุเครื่องแบบข้าราชการปกติขาว โดยภรรยาและญาติได้เดินตามหลัง ส่วนลูกชายวัย 8 ขวบ ได้บวชหน้าไฟเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับพ่อ ทั้งยังมีพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 39 และนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 55 ได้เดินวนรอบเมรุ 3 รอบ


โดยที่เมรุวัดใหญ่เสาได้ตกแต่งอย่างเรียบง่าย โทนสีขาวด้วยดอกไม้สด และนำนั่งร้านแขวนพวงหรีดกว่า 300 อัน เป็นการร่วมไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณของ ผกก.เบิ้ม และประมวลภาพภารกิจ การทำงาน ชีวิตครอบครัวของ ผกก.เบิ้ม บนไวนิลขนาดใหญ่ติดภายในงาน โดยมีครอบครัว เพื่อน เขียนข้อความต่าง ๆ ที่แสดงความรัก


จากนั้นเวลา 13.30 น. มีพิธีฌาปนกิจศพ ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี โดยมี พันเอกวินัย ยาวไทยสงศ์ บิดา นางประไพร ยาวไทยสงศ์ และพันตรีหญิงภัชชัญญาณ์ ธนาชินธนเกียรติ คู่สมรสพันตำรวจเอกวิชรา และญาติให้การต้อนรับ


โดยทันทีที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เดินทางมาถึง ได้เข้าสวมกอดครอบครัวยาวไทยสงค์ทุกคน โดยเฉพาะหลังจากวางดอกไม้จันทน์ ครอบครัวยาวไทยสงค์ได้มอบรูปหล่อท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหักให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้ก้มลงกราบ พ.อ.วินัย ยาวไทยสงค์ พ่อของ ผกก.เบิ้ม จากนั้นได้สวมกอดร้องไห้ เสียใจกับการจากไปของตำรวจฝีมือดี ซึ่งบรรยากาศภายในพิธีมีข้าราชกาตำรวจ และญาติพี่น้องของผู้กำกับเบิ้ม เดินทางมางานเป็นจำนวนมาก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวยาวไทยสงค์ ได้มอบทุนการสนับสนุนสาธารณะประโยชน์ การศึกษา และบำรุงพุทธศาสนา จากนั้นได้จัดพิธีตามขั้นทางศาสนา การทอดผ้าไตรบังสุกุล โดยข้าราชการตำรวจ ทหาร ระดับสูง และส่วนราชการ 30 ท่าน ต่อมาภรรยาของ ผกก.เบิ้ม ได้อ่านประวัติ นางการะเกด พลจัตุรัส ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ชมรมข้าราชการบำนาญ มทบ.35 อ่านกลอนไว้อาลัยให้กับผู้ตาย


จากนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าบังสุกุล โดยมีพระเจ้าคณะชั้นผู้ใหญ่เป็นตัวแทนสงฆ์สวดบังสุกุล พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นประธานวางดอกไม้จันทน์ ญาติ ๆ ตั้งแถวขอบคุณผู้ร่วมงาน โดยมอบของที่ระลึกคือ หนังสือที่ปกเป็นรูปของ ผกก.เบิ้ม เนื้อหานอกจากจะมีประวัติ ข้อความไว้อาลัยจากผู้บังคับบัญชาแล้ว ยังมีบทสวดมนต์ และธรรมะ ก่อนมีการเผาจริงในเวลา 14.00 น. เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการ


พันเอกวินัย ยาวไทยสงค์ บิดาผู้กำกับเบิ้ม เปิดใจหลังเสร็จพิธี โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นั่งให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ พันเอกวินัย บอกว่า ตนมีความภาคภูมิใจ ลูกชายตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งเติบโตขึ้นมา เขาไม่เคยสร้างความเสื่อมเสีย ให้กับครอบครัวเลย เป็นคนที่รักพ่อแม่ น้อง ภรรยาและลูกชาย ซึ่งเป็นความน่าชื่นชม ความสูญเสียในครั้งนี้เป็นความรู้สึกย่ำแย่ แต่ในวันนี้ต้องขอขอบคุณ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่ให้เกียรติมาเป็นประธาน


ส่วนสิ่งที่มันเกิดขึ้นมาแล้ว แม้ว่ามันจะเอาคืนไม่ได้ มันเป็นบาดแผล ที่เป็นความรู้สึกสูญเสียที่เอามาคืนไม่ได้ และยังถูกพิพากษาจากสังคมในห่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งก็เข้าใจว่าทำให้เกิดความเครียดได้ และหลังจากนั้นเมื่อคลี่คลายแล้ว คลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ผมไม่สามารถจะนำลูกของผมกลับมาได้ ผมสร้างขึ้นมาเป็นนักรบ เป็นความภาคภูมิใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นพรานเวหาที่เก่งกาจสามารถ เป็นทุกสิ่งอย่างที่เป็นตำรวจที่เหนือตำรวจหลาย ๆ อย่าง นี่เป็นความภาคภูมิใจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

หัวอกของความเป็นพ่อเป็นแม่ต้องยอมรับว่าเป็นความสูญเสีย หากถามว่าผมเป็นคนในเครื่องแบบ เป็นทหาร ผมร้องไห้ไหม ผมเสียน้ำตาครั้งแรกมาจนถึงทุกวันนี้ ผมไม่เคยจางไปจากเขาเลย ผมคิดถึงเขา ขอให้ดวงวิญญาณของเขาจงไปสู่สุขติ กลับมาเป็นลูกพ่อแม่กันหลาย ๆ ชาติตลอดไป ผมจะรอเขา

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดใจว่า ตนมีหน้าที่ป้องกันและปราบปราม ตอนแรกได้ทำหน้าที่ติดตามมือปืน ในเรื่องของคดี ท่าน ผบ.ตร.ได้แบ่งออกเป็นสองคดี ที่เกี่ยวกับกำนันนก ซึ่งตนไม่ได้แตะ ส่วนที่เดินทางมาในวันนี้เนื่องจากเบิ้มเป็นน้องที่อยู่กับพี่มานาน และสร้างเขาขึ้นมาอยู่หน่วยคอมมานโดตั้งแต่อยู่กองกำกับแล้ว และยังเป็น ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย คนแรกด้วย


ปัจจุบันหน้างานของเบิ้มคือ ถวายความปลอดภัย และบุดอาวุธด้วย เราผูกพัน อยู่กันแบบพี่น้อง คุณพ่อนี่เห็นอยู่กันมา เหมือนครอบครัว เราคือครอบครัว เราจะดูแลลูกของเบิ้ม พี่น้องตำรวจในกองสอบสวนกลาง และตำรวจทางหลวง ได้ตั้งกองทุนยาวไทยสงค์เอาไว้ เพื่อดูแล ไม่ใช้เฉพาะลูกเบิ้มคนเดียว แต่กองทุนนี้จะเอาไว้ดูแลตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นสาธารณะประโยชน์ให้แก่องค์กร เพื่อให้เกียรติแก่ยาวไทยสงค์ ในคราวนี้ด้วย


อยากให้ดูคนที่มาในวันนี้ มีแต่คนรักเบิ้ม เพราะเบิ้มเป็นคนที่น่ารัก เขามีพี่มีน้อง อยากให้ผู้สื่อข่าวที่จะนำเสนออะไร ขอให้ดูความรู้สึกของคุณพ่อคุณแม่ เพราะเรามีหน้าที่อื่นที่ต้องทำอีกเยอะ จึงขอฝากด้วยนะครับ


เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า อยากฝากอะไรถึง ผกก.เบิ้มไหม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ บอกว่าแทบไม่จำเป็น เพราะว่าแทบทุกคนในนี้ มองหน้าก็รู้ใจกันหมด หรือแค่มองตาก็เข้าใจ เสมือนกระโดดร่มลงไปก่อนแล่วไปตายเอาดาบหน้าก็ได้ และจะบอกว่าเบิ้มว่า ไปรอพวกพี่ก่อนเดี๋ยวพวกพี่ก็ตายตามไป ไปรออยู่บนฟ้า เราอยู่บนฟ้า หลาย ๆ คนไม่มีโอกาสเหมือนพวกเรา


สำหรับผู้กำกับเบิ้ม เป็นลูกชายคนโตของ พ.อ.วินัย ยาวไทยสงค์ อดีตนายทหารม้า ม.พัน7 ค่ายพระยาพิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ มารดาคือ นางประไพ ยาวไทยสงค์ เป็นครูใน จ.น่าน โตมาในครอบครัวทหาร สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 39 เหล่าตำรวจ นรต.รุ่น 55 ภายหลังจบจากโรงเรียน นรต. ได้เข้าประจำการที่ จ.ศรีสะเกษ บรรจุครั้งแรก เมื่อปี 2545 ที่ กิ่ง อ.ศรีรัตนะ เป็น นรต.ชุดแรกของโรงพัก


โดยเส้นทางอาชีพตำรวจของ พ.ต.อ.วชิรา ได้ร่วมทำงานกับ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ นับเป็นศิษย์ก้นกุฏิ ต่อมาย้ายมาสังกัดกองปราบปราม ขึ้นเป็นสารวัตรคอมมานโด หรือกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบปราม ก่อนย้ายไปอยู่กับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ขยับเป็นผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าว กองบังคับการตำรวจมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ต่อมาเป็นผู้กำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กก.ปพ.บช.ก. และล่าลุดปี 2564 ได้รับการสนับสนุนให้ย้ายไปเป็น ผกก.2 บก.ทล.

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/awFJOZnx5xY