'บิ๊กโจ๊ก' เผยผลค้น 15 จุด เครือข่าย 'กำนันนก' พบหลักฐานเชื่อมโยงเพียบ เตรียมขยายผลเอาผิดเพิ่ม

ตร.ค้นบ้าน “นายเต้ง” หรือกำนันเต้ง เจ้าตัวยืนยันไม่รู้จัก “กำนันนก” ไม่เคยฮั้วประมูลอะไรด้วย เผย “คนอาจมองว่าตนไม่ดี ถ้าไปถามชาวบ้านจะทราบว่าตนเองเป็นคนดี” บุกค้นบ้าน “จ.ส.ต.พิสิฐ” ไม่เจอตัว พบอาวุธปืน 9 กระบอก ยึดตรวจสอบ ญาติยันไม่มีความเกี่ยวข้องเป็นญาติ หรือสนิทสนมกับกำนันนก เชื่อหลานไปงานเลี้ยงตามเจ้านายไป ไม่ได้มีการร้องขอตำแหน่งอย่างที่เป็นข่าว


วานนี้ (13 ก.ย.) หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 7 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจกองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายบริษัทและกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เชื่อมโยงกับคดีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก กำนันตำบลตาก้อง ทั้งหมด 15 จุดใน จ.นครปฐม แบ่งเป็น อำเภอกำแพงแสน 2 จุด อำเภอเมือง 13 จุด

หนึ่งในเป้าหมายเป็นบ้านหลังหนึ่ง ซอยวัดทุ่งรี ต.ทัพหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม ของนายศักรินทร์ ท้วมสุข หรือกำนันเต้ง หรือนายเต้ง คนสนิทของกำนันนก (นายเต้งไม่ได้เป็นกำนัน แต่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกกำนัน)  

 โดยบ้านหลังแรกเป็นร้านให้เช่าวัตถุมงคล ซึ่งหลังแรกนั้นไม่พบ นายเต้ง พบเพียงป้าของนายเต้ง บอกว่านายเต้ง ได้ไปขายอาหารที่ประเทศกัมพูชา หลายปีแล้ว เคยคุยล่าสุดกับนายเต้ง เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา และเธอยืนยันว่านายเต้งไม่ได้รู้จักกับกำนันนกและไม่เคยทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งก่อนที่นายเต้งจับไปขายอาหารที่ประเทศกัมพูชา ก็มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนตัวเธอนั้น ก็ยืนยันว่าไม่รู้จักกำนันนกเช่นกัน

ส่วนบ้านจุดที่ 2 เป็นบ้านทรงโมเดิร์น 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ภายในแบ่งพื้นที่เปิดเป็นร้านรับส่งพัสดุเอกชน มีรถยนต์บีเอ็มดับบลิวสีขาวป้ายแดงจอดอยู่ที่โรงรถ 1 คัน และรถจักรยานยนต์จอดอยู่อีก 1 คัน โดยมีชายคนหนึ่ง ซึ่งทราบว่าเป็นลูกน้องของเจ้าของบ้าน แสดงตัวเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบปืนสั้นอัตโนมัติ 3 กระบอก มีทะเบียนและใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย

 จากการสอบถามลูกพี่ลูกน้องของนายเต้ง เดินทางเข้ามาตรวจสอบ พร้อมเผยว่านายเต้ง ไม่ได้อยู่ที่บ้านนี้นานแล้ว เพราะเขามีภรรยาหลายคนเลยซื้อบ้านไว้หลายหลังและเปิดทำธุรกิจหลายประเภท ยืนยันว่าเจ้าตัวไม่เกี่ยวข้องและไม่รู้จักกับกำนันนก เพราะไม่ได้ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหรือเป็นนายหน้าที่ดิน แต่ทำธุรกิจรถสไลด์ เคยเปิดบูชาไอ้ไข่ โดยตอนนี้ค้าขายอาหารอยู่ต่างจังหวัด

ขณะที่นายเต้ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านโทรศัพท์ ยืนยันว่าไม่รู้จักกับกำนันนก ไม่เคยฮั้วประมูลอะไรด้วย ตอนนี้เปิดร้านอาหารอยู่ประเทศกัมพูชา ยอมรับว่าเคยมีคดีฆ่าคนตายเมื่อ 10 ปี ก่อน แล้วพ้นโทษได้ 5 ปีถึงมาครอบครองปืนที่ตำรวจพบ ทั่วไปคนอาจจะมองว่าตนไม่ดี แต่ถ้าไปถามชาวบ้านก็น่าจะทราบว่าตนเป็นคนดี


สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า บ้านดังกล่าวพอตกค่ำมืดก็เงียบ ไม่ค่อยมีคนเข้ามาหาหรือจัดปาร์ตี้อะไร โดยตัวเจ้าของบ้านก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ต่างคนต่างอยู่ ช่วงเช้าเห็นว่าจะส่งลูกไปโรงเรียนตามปกติส่วนอาชีพอื่นนอกจากเปิดกิจการรับส่งพัสดุนั้นไม่ทราบ แต่ถือว่าค่อนข้างมีฐานะดีกว่าชาวบ้านในพื้นที่เดียวกัน

ต่อมา เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านพักของ จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา หรือจ่าอาร์ต ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ซึ่งเป็นบุคคลที่กำนันนก ขอเปลี่ยนตำแหน่งจากสารวัตรแบงค์ และมีปากเสียงกันและเกิดเหตุยิงสารวัตรแบงค์เสียชีวิตในคืนวันที่ 6 ก.ย.

เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงบ้านหลังดังกล่าวไม่พบตัว จ.ส.ต.พิสิฐ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นพบอาวุธปืน 9 กระบอก เป็นปืนยาว 3 กระบอก ปืนสั้น 6 กระบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกลับไปเพื่อตรวจสอบ

นายอานนท์ บุญส่ง อาของ จ.ส.ต.พิสิฐ ยืนยันว่า ทางบ้านไม่ได้รู้จักกับกำนันนก ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเป็นญาติหรือสนิทสนมกันแต่อย่างใด ซึ่งย้ำว่าคนแถวนี้ไม่เคยได้ยินชื่อกำนันนก มาก่อน รู้สึกแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่าสาเหตุที่หลานของตนได้ไปงานเลี้ยงวันนั้น ก็ตามเจ้านายไปเท่านั้นไม่ได้มีการร้องขอตำแหน่งอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

-----------------------------------------

“บิ๊กโจ๊ก” เผย หลังเข้าค้น 15 จุดเครือข่าย “กำนันนก” เจอปืน 16 กระบอก เครื่องกระสุนกว่า 200 นัด พบมี 1 กระบอกเคยใช้ยิงข่มขู่ เชื่อมโยงการประมูลงาน ส่วนรถที่ใช้หลบหนีมี ตร.นั่งไปด้วย 2 นาย พบถอดไฟ ถอดกระจังหน้าไม่ให้จดจำได้-นำรถไปล้าง

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ หลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่มีการเข้าตรวจค้นบริษัท ป.รุ่งโรจน์พัฒนา จำกัด ที่มีชื่อของกำนันนก เป็นกรรมการว่า  พบรถยนต์ที่ใช้ในคืนวันหลบหนี 2 คัน โดยได้มีการเก็บพยานหลักฐานที่ตัวรถไปหมดแล้ว


โดยรถที่ใช้หลบหนี พบว่ามีการถอดไฟ ถอดกระจังหน้า เพื่อจะไม่ให้จดจำได้และมีการนำรถไปล้างก่อน แต่ รอง ผบ.ตร. ยืนยันว่าไม่ส่งผลต่อการตรวจเก็บดีเอ็นเอ ส่วนเส้นทางการนำรถยนต์ที่ใช้หลบหนีมาซ่อนไว้ที่นี่ จะมีการไล่กล้องอีกครั้ง


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่ารถทั้งสองคันที่ตรวจพบวันนี้ (13 ก.ย.) เป็นรถที่ใช้ในวันที่หลบหนี ให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บไปแล้วทั้งดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ ลายพิมพ์ฝ่ามือ 10 นิ้ว จากนี้ต้องรอผลการตรวจ 2-3 วัน โดยรถที่หลบหนี มีตำรวจสองนายนั่งไปในรถ ที่ช่วยกำนันนก หลบหนี  ซึ่งก็ดำเนินคดีหมดแล้ว ส่วนคนขับรถเป็นลูกน้อง กำนันนก


พร้อมกันนี้ทางชุดตรวจค้น ได้ถอดเซิร์ฟเวอร์ กล้องวงจรปิดทั้งหมดของบริษัทที่นี่ รวมถึงทุกจุดที่เข้าไปตรวจค้น เพื่อไปดูความเชื่อมโยงทั้งหมดว่าใครเข้ามาดำเนินการบ้าง


อีกส่วนหนึ่งคือการยึดเอกสารทั้งหมด โดยกรมสรรพากร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน วันนี้ก็จะไปตรวจละเอียด เรื่องการประมูลต่าง ๆ ว่ามีการฮั้วประมูลหรือไม่ และสิ่งสำคัญกว่านั้นคืออาวุธปืน จะเอามาตรวจสอบและยิงเก็บหัวกระสุนว่ามีการไปก่อเหตุ ไปยิงบ้าน หรือยิงข่มขู่คู่กรณีต่าง ๆ เพราะเท่าที่ทราบ มีการเอาปืนดังกล่าว ไปยิงข่มขู่คู่กรณีแต่ไม่ทราบว่าเป็นปืนกระบอกไหน จึงต้องเอาไปตรวจสอบดู


ทั้งนี้พยานหลักฐานทั้งหมดจะนำไปสู่เรื่องการกระทำความผิดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการประมูลต่าง ๆ ว่าผิดหรือไม่ และบางส่วนก็พบโพยหวยด้วย ก็มีการจับกุมพัศดี ไปแล้ว 1 ราย (นายโบ๊ท ทำลายหลักฐานเซิร์เวอร์โยนน้ำ) และทำการจับกุมภรรยาของเลขานายก อบจ.ไปอีก 1 ราย ฉะนั้นส่วนนี้จะไปขยายผลต่อ ก็พยามดำเนินการอย่างรอบคอบและรัดกุม


“ส่วนความคืบหน้าของเซิร์ฟเวอร์ จากที่คุยกับผู้เชี่ยวชาญน่าจะกู้ได้เรียบร้อย โดยที่กู้ได้น่าจะ 100% วันนี้ (14 ก.ย.) ก็น่าจะทราบผลแล้ว หลังจากกู้มาแล้วก็จะทำให้เราสามารถระบุตัวตนและขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติมได้ และจะเห็นว่าใครโกหกใครไม่โกหกยังไงส่วนการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มก็ต้องรอดูวันนี้ถึงจะตอบได้”


สำหรับน้องชายของกำนันนก ที่พบว่ามีการขึ้นรถตู้ออกไปจากบริษัท ขณะไปตรวจค้นนั้น ก็จะขอดูทั้งหมด และสรุปกันว่าใครบ้างที่มีส่วนช่วยเหลือ ถ้าเป็นน้องชายมีส่วนช่วยเหลือ ก็ต้องดำเนินคดีด้วย ไม่มีการละเว้น

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ZkE138dibvI