อาชญากรรม

แม่ 'จีจี้' ร่ำไห้ ผลชันสูตรชี้ลูกถูกยิงแบบไม่รู้ตัว - ไร้เงาครอบครัวรับศพ 'อิคคิว' ตั้งสวดที่อยุธยา

โดย nattachat_c

21 เม.ย. 2566

108 views

ความคืบหน้า กรณีการเสียชีวิตของนางสาวสุพิชชา ปรีดาเจริญหรือ น้องที่ถูก นตท. ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา อายุ 17 ปี หรืออิคคิว ยิงเสียชีวิตในคอนโดหรู ก่อนยิงตัวตายตาม


พ่อของน้องจีจี้ ให้ข้อมูลว่า ยังคงคาใจกับประเด็นเรื่องอาวุธปืนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ว่า นตท.ภูมิพัฒน์ อายุเพียง 19 ปี มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองได้อย่างไร ซึ่งได้ถามประเด็นนี้ กับพนักงานสอบสวนเมื่อคืนที่ผ่านมา แจ้งว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทราบว่าเป็นปืนที่ลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่บอกว่า “ใครเป็นเจ้าของอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว"


พ่อจึงอยากได้รับคำตอบนี้จากตำรวจ และไม่รู้ว่าจะไปสอบถามใคร จึงขอให้สื่อมวลชน สอบถามตำรวจที่เกี่ยวข้องว่าเจ้าของปืนนี้ มีความผิดหรือร่วมรับผิดชอบกับการก่อเหตุครั้งนี้ด้วยหรือไม่ เพราะพ่อเป็นเพียงประชาชนตัวเล็กๆ คนนึงที่ต้องสูญเสียลูกสาวไป อยากได้รับคำตอบเพื่อความยุติธรรมแก่ลูกสาวของตัวเอง


ด้านคุณแม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลอดช่วงเวลาที่คบกัน แม่ทราบเรื่องมาตลอดว่า อิคคิวทำร้ายร่างกายลูกสาว ซึ่งทางครอบครัวของฝ่ายชายก็ทราบดีและทั้งสองครอบครัวไม่อยากให้มาคบกัน โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองคนเคยเลิกรากันไปแล้ว แต่ก็กลับมาคบกันใหม่ ช่วงที่กลับมาคบกันใหม่ลูกสาวไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมาก เพราะไม่อยากให้แม่เป็นห่วง  ซึ่งตนก็ถามว่า “กลับมาคบกันใหม่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง” ทางจีจี้ก็บอกว่า “ กลับมาคบกันแล้วดี ไม่มีอะไร”


ที่ผ่านมา ตนได้เตือนลูกตลอดเพราะลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก และฝ่ายชายก็เป็นคนชอบเล่นปืนและมีอาวุธปืนติดตัว เป็นคนอารมณ์ร้อน จึงกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนทะเลาะกัน ไม่มีบุคคลคอยห้ามจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้น แต่ลูกไม่ฟัง ซึ่งลูกสาวรักอิคคิวมาก แม้เขาจะโดนทำร้ายเขาก็รักกัน


สำหรับประเด็นในโลกโซเชียล ที่มีข้อความของจีจี้และรูปภาพส่งไปให้เพื่อนแล้วบอกว่า อิคคิวใช้อาวุธปืนยิงประตูทะลุ เรื่องนี้ตนทราบดีเพราะว่าเหตุเกิดที่บ้านของฝ่ายชาย และพ่อกับแม่ของฝ่ายชายก็อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเขาได้แจ้งว่าทั้งสองคนทะเลาะกัน แล้วก็พยายามห้ามปรามแล้ว แต่ไม่สามารถห้ามลูกได้


“แม่บอกว่า มองว่าทางครอบครัวของฝ่ายชายเลี้ยงลูกมาแบบตามใจ และยอมรับกับแม่ว่า บางครั้งก็ไม่สามารถตวบคุมลูกได้ เพราะลูกเป็นคนใจร้อน"


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามคุณแม่น้องจีจี้ เรื่องการใช้อาวุธปืนของอีกคิวซึ่งเป็นคนมีอารมณ์ร้อนและชอบใช้ความรุนแรง  แต่ทางครอบครัวของอิคคิวรับทราบแต่ทำไมถึงให้อิคคิวใช้อาวุธปืนและเล่นปืนจนทำให้เกิดการสูญเสีย 


แม่น้องจีจี้ นิ่งหลังจากได้ฟังคำถามและไม่ขอตอบคำถามนี้ และบอกว่า ตนก็ยังคาใจเรื่องปืนที่ใช้ก่อเหตุว่าเจ้าของปืนจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยหรือไม่


ด้าน นายกีรติ พ่อเลี้ยง กล่าวว่า โดยส่วนตัว ตนสนิทกับจีจี้ เพราะเคยขับรถรับส่งน้องไปทำงาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่สมควรมาเหิดกับน้องจีจี้เลย โดยส่วนตัวมองว่า ครอบครัวของอิคคิวเลี้ยงลูกชายมาแบบผิดๆ ในมุมมองของตนพ่อควรเตือนลูกว่าไม่ให้พกปืน เนื่องจากอายุยังไม่ถึงและตนสงสัยว่า อายุยังไม่ถึง ทำไมถึงสามารถเข้าไปที่สนามยิงปืนได้


“โดยทราบมาว่า ฝ่ายชายถูกเลี้ยงมา แบบตามใจ โดยที่คิดตลอดว่า พ่อของตัวเองมีอำนาจ จึงเป็นคนเอาแต่ใจและอารมณ์รุนแรง เราไม่ได้โกรธเกลียดอะไรทางครอบครัวของฝ่ายชาย ตอนที่ทราบว่าทั้งสองคนเลิกกัน เราก็ดีใจเพราะลูกได้หลุดพ้นแล้ว


แต่เมื่อมาถึงวันนี้ ทั้งสองก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว ก็อยากให้ครอบครัวของฝ่ายชายจริงใจกับครอบครัวเรา รู้ว่าเขามีพาวเวอร์ใหญ่ เราไม่ได้กลัว แต่อยากให้ข่าวจบด้วยดี จีจี้ไม่มีอะไรเสียหาย และฝ่ายชายก็ไม่มีอะไรเสียหายไปมากกว่านี้”


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า ทำไมฝ่ายชายถึงคิดว่าตัวเองมีอำนาจตลอดเวลา ที่ผ่านมา มีการข่มขู่เรื่องนี้หรือไม่ ด้านนายกีรติ ตอบว่า “ไม่แปลกที่ลูกไม้จะหล่นไม่ไกลต้น“

--------------
ช่วงเวลา 15:00 น. มีตัวแทนบริษัทเอกชนทำหีบศพ แห่งหนึ่งนำเอกสาร มอบอำนาจ มาให้ทางบริษัท เป็นผู้ดำเนินการรับศพมาส่งให้ครอบครัวในพื้นที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


โดยร่างของ อิกคิวมาถึงวัดช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ก่อนที่ทางครอบครัวได้ทำพิธีนิมนต์พระมาสวดเป็นค่ำคืนแรก ทั้งนี้ทางทีมข่าวได้พยายามที่จะเข้าไปสอบถามพร้อมขอพูดคุยแต่ทางครอบครัวไม่สะดวก เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ ก่อนที่จะขอความร่วมมือกับทางทีมข่าวว่าในส่วนของพิธีวันนี้ขอเป็นการภายใน ไม่อนุญาตให้ทีมข่าวเข้าไปภายในศาลา จากนั้นมีการรดน้ำศพ และสวดพระอภิธรรมเสร็จสิ้น


เมื่อเสร็จพิธี น้าสาวของอิคติว ซึ่งเป็นทนายความประจำตะกูลของอิคคิวออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ครอบครัวยังไม่พร้อมในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพราะเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมากจากการสูญเสียของทั้งสองครอบครัว “ยอมรับว่าอิคคิวเป็นคนอารมณ์รุนแรงและที่ผ่านมาอีกคิวกับน้องจีจี้คบกันครอบครัวสองฝ่ายรับรู้มาตลอดและช่วงหนึ่งน้องจีจี้ก็มาอาศัยอยู่ที่บ้านของอีคิวพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้มาตลอด


ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกายนั้น ทางครอบครัวทั้งสองฝ่ายทั้งแม่อิคคิวและแม่ของน้องจีจี้ก็ได้พูดคุยกัน และเตือนทั้งสองฝ่ายไม่ให้ทำร้ายร่างกายกัน หากวันใดที่ทั้งสองคนทะเลาะกัน และมีผู้ใหญ่อยู่ ก็จะเข้าไปห้าม แต่บางครั้งก็ห้ามไม่ได้


แม่อิคคิวและแม่ของน้องจีจี้ เคยคุยกันแล้ว อยากให้เลิกคบกัน เพราะรู้ว่าอิคคิวอารมณ์รุนแรง และเมื่อเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร การปรับอารมณ์ของอิคคิวก็ดีขึ้น แต่ไม่ค่อยได้เจอจีจี้  เมื่อเจอกันก็จะมีปัญหาระหองระแหงกันบ่อยครั้ง จนกระทั่งทั้งสองคนเลิกกัน


เมื่อพูดถึงเรื่องประเด็นปืนมีข้อสงสัยว่าเหตุใดทางครอบครัวรับรู้มาตลอดว่าอิคคิวอารมณ์ร้อนและชอบใช้ความรุนแรงแต่กลับให้พกปืน “เรื่องนี้ น้าของอิคคิวยืนยันกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ว่า ทางครอบครัวไม่อนุญาต และไม่เคยให้อิคคิวพกปืน แต่วันเกิดเหตุไม่มีใครรู้ว่าอิคคิวนำปืนติดตัวไปด้วย และไม่รู้ไปไหน


ซึ่งพบว่าอิคคิวไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนเตรียมทหาร ทางครอบครัวก็ออกตามหา จนกระทั่งมาพบว่าเสียชีวิต “ซึ่งปืนที่ใช้นั้นก็เป็นปืนของพ่อและพ่อไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือสนับสนุนให้ให้นำปืนไปก่อเหตุ และไม่รู้ว่าอีกคิวแอบนำปืนออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อไหร่”


ทั้งนี้ ทางครอบครัวอิคคิวอยากขอโทษสังคมกับสิ่งที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้สนับสนุนให้อีกคิวใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง แต่บางครั้งก็ห้ามไม่ได้ และขณะที่เกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันนั้น ก็ไม่มีผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่อยู่ในบ้านด้วย จึงทำให้ทั้งสองคนก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันและทำร้ายร่างกายกัน


ส่วนสาเหตุของการทำร้ายร่างกายกันนั้นไม่ขอเอ่ยถึง เพราะทั้งสองครอบครัวก็ต่างสูญเสียคนที่รักซึ่งครอบครัวอิ๊กคิวนั้นมีลูกชายเพียงคนเดียว
--------------

มีคนใกล้ตัวของจีจี้รวมถึงชาวเน็ตหลายคน ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของฝ่าย ชายไม่ว่าจะเป็นเรื่องหัวรุนแรง ครอบครองอาวุธปืน การใช้กำลังกับฝ่ายหญิง รวมไปถึงทัศนคติที่มี ต่อผู้หญิง ค่อนข้างไปในทางเหยียด ล่าสุด มีการเปิดเผยจากคนใกล้ชิดของจีจี้ว่า ตนเคยเตือนเรื่องการคบหากับอิคคิวไปแล้วเมื่อช่วงปี ก่อน เมื่อเห็นว่าจีจี้ยังคงลงรูปแท็กชื่อฝ่ายชายตามปกติ ตนจึงทักสอบถาม ซึ่งจีจี้ได้มีการระบาย พร้อมกับเผยแชทของอิคคิว


โดยแชทที่อิคคิวส่งหาจีจี้มีทิศทางไปในเชิงเหยียดเพศ ดูถูกด้อยค่าจีจี้ ซึ่งการรัก ๆ เลิก ๆ ระหว่างจี จี้กับอิคคิว อาจเป็นเพราะคำพูดและการปลูกฝั่งของคนรอบตัวอิคคิวมาเกี่ยวข้อง


ส่วนหนึ่งของแชทเผยให้เห็นว่า อิคคิวได้แคปหน้าจอแชทที่พูดคุยกับพ่อมาให้จีจี้อ่าน ซึ่งพ่อขอ งอิคคิวได้กล่าวถึง"ความบริสุทธิ์ของผู้หญิง" และ"ความภูมิใจของการแต่งงานกับผู้หญิงที่ ไม่เคยผ่านมือชาย"


โดยมีใจความดังนี้ "พ่อจะบอกคิวว่าพ่อตั้งปณิธานไว้ตั้งแต่ก่อนจะมีแฟนคนแรกเลยว่า พ่อจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ยังไม่ เคยผ่านใครมาก่อนเท่านั้น คิวจึงภูมิใจในตัวแม่ต๊ะได้เลยว่า แม่มีพ่อเพียงคนเดียว และยังไม่เคย ผ่านใครมาก่อน รวมทั้งไม่เคยผ่านใคร ๆ มาตลอดชีวิต จนทุกวันนี้" "อาจจะเป็นความคิดที่คิวไม่เห็นด้วยก็ได้นะครับ เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่พ่อก็ยังคิดของพ่ออย่าง นี้ ถ้าคิวจะเห็นด้วย พ่อจะดีใจที่สุดเลย เพราะวันหนึ่งคิวเป็น ผบ. ทบ. หรือ ผบ. อะไร มีคนนินทา ภรรยาผบ ว่าอย่างนั้นอย่างนี้ คิวจะอายเพื่อน อายเจ้านาย อายลูกน้องมั้ย ก็แล้วแต่คิวนะครับ
--------------

คุณอาจสนใจ

Related News