นศ.สาววัย 21 แจ้งจับ 'ดาบตำรวจ' มอมเหล้าพาขืนใจ-แบล็กเมล์ ผกก.รับเป็นตำรวจจริง เรียกสอบวันนี้

นักศึกษาสาววัย 21 ปี แจ้งความจับ 'ดาบตำรวจ' มอมเหล้าพาเข้าโรงแรมขืนใจถ่ายคลิปแบล็กเมล์ แฟนหนุ่มตามมาหา พาหลบออกหลังโรงแรม ไปเปลี่ยนรถที่โรงพัก พาไปขืนใจซ้ำโรงแรมอีกแห่ง ผกก.สภ.คลองห้า ยอมรับ เป็นตำรวจชุดสืบสวนของโรงพัก หากผิดจริงถือว่าประพฤติชั่วร้ายแรง


เมื่อวันที่ 26 มี.ค.66 เวลา 15.00 น. ที่ สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ทีมสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษาสาวสถาบันแห่งหนึ่ง เข้าพบ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม ผู้กำกับการ สภ.คลองห้า เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ดาบตำรวจ เจ้าของผับชื่อดัง ย่านคลองหก จ.ปทุมธานี หลังออกอุบายมอมเหล้าเหยื่อก่อนลงมือข่มขืน


ผู้เสียหาย อายุ 21 ปี ยังอยู่ในอาการหวาดผวา เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ เล่าว่า รู้จักดาบตำรวจนายดังกล่าวตอนเรียนอยู่ปี 1 ดาบตำรวจมาจีบเพื่อนของตน ตนไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เคยเจอกันบ้างเพราะมาเที่ยวกับเพื่อนของตนที่เป็นแฟนเขา ได้ยินเพื่อนบอกเขาเป็นตำรวจสืบสวนอยู่ สภ.คลองห้า


กระทั่งวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนชวนไปเที่ยวร้านแถวคลอง 6 จ.ปทุมธานี ไปกับเพื่อน 6 คน (ช 4 ญ 2) ตอนนั้นตนรู้สึกแปลก ๆ ดาบตำรวจมานั่งใกล้ ตีสนิท ขอไลน์ ตนเห็นว่าเป็นแฟนเพื่อนเลยไม่ได้คิดอะไร พอเที่ยงคืนเพื่อนคุยกันว่าจะไปต่อร้านที่ 2 อยู่คลอง 5 ตอนนั้นเพื่อนหลายคนไม่ไป จึงเหลือแค่ตัวดาบตำรวจ ตนเอง และเพื่อนผู้หญิงที่ชวนมา


พอไปถึงร้านที่ 2 ก็มีการดื่มปกติ ตอนนั้นมีผู้เสียหาย เพื่อนของผู้เสียหาย และคู่กรณี โดยตัวของคู่กรณีพยายามให้ผู้เสียหายดื่มมากขึ้น จนมีอาการมึนเมา พอผู้เสียหายรู้ตัวว่า เริ่มเมาแล้ว จึงบอกคู่กรณีว่า "อยากกลับบ้าน" แต่คู่กรณีกลับพยายามที่จะขอร้องให้ไปต่อที่ร้านของเขา และออกอุบายว่า "หากไปต่อ เดี๋ยวจะไปส่งที่บ้าน" ผู้เสียหายเลยตอบ "ตกลง" เพราะคู่กรณีจะไปส่งที่บ้าน


นั่งร้านที่ 2 ได้ 1 ชั่วโมง ตนรู้สึกเมาจึงขอกลับก่อน แต่ดาบตำรวจอ้างว่าถ้าจะกลับ ให้ไปเช็กอินร้านที่เขาเป็นเจ้าของก่อน (ร้านที่ 3) อยู่คลอง 6 เมื่อถึงร้าน ดาบตำรวจได้ให้เพื่อนที่นั่งหน้าข้างคนขับลงไปจองโต๊ะ ส่วนตนเองนอนหลับอยู่เบาะหลัง มารู้ตัวอีกที ดาบตำรวจมาปลุกให้ลงรถ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าเขาอุ้มหรือตนเดินไปเอง รู้สึกตัวอีกทีตอนดาบตำรวจคร่อมตัวอยู่บนเตียง มีการใช้กำลังบังคับ จนคู่กรณีสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง ตนเองพยายามขัดขืนแต่ด้วยมึนเมา สู้แรงเขาไม่ได้


ขณะเดียวกันตอนนั้น เพื่อนของผู้เสียหายพยายามติดต่อหาผู้เสียหาย แต่ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ จึงได้โทรศัพท์หาแฟนของผู้เสียหาย ทำให้แฟนของผู้เสียหายหาผู้เสียหายผ่านแอปพลิเคชั่น (Find My iPhone) จนตามไปที่โรงแรมดังกล่าว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คู่กรณีได้ให้พรรคพวกมาบอกแฟนของผู้เสียหายเอาไว้ เพื่อเคลียร์ทางให้คู่กรณีพาผู้เสียหายออกไปทางด้านหลังของโรมแรม


ผู้เสียหาย เล่าว่า หลังออกมาจากโรงแรมแรก ดาบตำรวจพาตนมาเปลี่ยนรถที่ สภ.คลองห้า (ที่ทำงานของ ด.ต.) และบอกกับตนว่าจะพาไปร้านอีกที่หนึ่ง โดยอ้างว่าแฟนหนุ่มของตนยังมีอารมณ์ร้อนอยู่ จากนั้นดาบตำรวจพาตนนั่งรถขับออกจาก สภ.  


ด้วยความกลัวจึงไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากใคร และไม่ได้บอกเพื่อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนั้นตี 3 แล้วและใกล้เช้าจึงยอมไปด้วย แล้วดาบตำรวจก็พาเข้าไปอีกโรงแรม ตอนนั้นติดต่อใครไม่ได้ สุดท้ายถูกข่มขืนเป็นครั้งที่ 2 พอประมาณตี 5 เขาพยายามเข้ามาจะข่มขืนอีกแต่ตนไม่ยอม


ดาบตำรวจข่มขู่ว่า "ได้ถ่ายคลิปเอาไว้แบล็กเมล์ ถ้าไม่ไปต่อโรงแรมที่ 2 คลิปนี้อาจจะหลุดได้" จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เสียหาย ต้องจำยอมไปโรมแรมที่ 2 ต่อกับคู่กรณี และอยู่กันจนถึงเช้า ถูกกระทำซ้ำ ก่อนที่คู่กรณีจะพาผู้เสียหายกลับมาส่งที่บ้านเพื่อน ตอนแรกตัดสินใจจะแจ้งความแต่ไม่กล้า เพราะผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจในพื้นที่และเป็นผู้กว้างขวาง  


ผู้เสียหาย ยอมรับว่า สภาพจิตใจย่ำแย่มาก ฝ่ายคู่กรณียังพยายามติดต่อเพื่อนของตนมาเรื่อย ๆ เพื่อขอเคลียร์ และคู่กรณีเป็นตำรวจ ยิ่งกลัวเรื่องความปลอดภัย ส่วนแฟนของตัวเองก็พยายามที่จะให้กำลังใจและคอยปลอบอยู่ตลอดไม่ได้ทิ้งไปไหน ตอนนี้หลังจากเข้ามาแจ้งความ ก็ยอมรับว่า กังวลเรื่องหลักฐาน แต่ก็ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


เบื้องต้นเท่าที่ทราบข้อมูลคู่กรณีเป็นตำรวจ ยศดาบตำรวจ อยู่ สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี หลังเกิดเรื่องคู่กรณีพยายามที่จะส่งคนเข้ามาเคลียร์ และพยายามเข้ามาเจรจากับผู้เสียหาย โดยทางผู้เสียหายมีหลักฐานในโทรศัพท์บางส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ก็เกรงกลัวว่าตำรวจจะช่วยกันหรือไม่ เพราะผู้เสียหายกลัวว่าคู่กรณีที่เป็นตำรวจรายนี้ จะมีอิทธิพลและมีพรรคพวกทำให้หลุดคดีได้


ด้าน พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม ผู้กำกับการ สภ.คลองห้า ยอมรับว่า ดาบตำรวจคู่กรณีของผู้เสียหาย เป็นข้าราชการตำรวจที่ สภ.คลองห้า จริง เบื้องต้นได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าตัวคร่าว ๆ แล้ว ก็ยอมรับเพียงว่า ได้ไปเที่ยว ไปดื่มจริง ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่ได้พูดอะไร


เพราะดาบตำรวจ ก็ยังกึ่งยอมรับกึ่งปฎิเสธอยู่ ลักษณะภาคเสธ โดยเจ้าตัวก็มีความเครียด กังวล เพราะรับราชการตำรวจมานานกว่า 10 ปี เป็นชุดสืบสวนของโรงพัก อีกทั้งเจ้าตัวยืนยัน ไม่ได้เป็นเจ้าของร้านที่ 3 ตามที่ผู้เสียหายกล่างอ้าง แต่ยอมรับว่ารู้จักและคุ้นเคยกับหุ้นส่วน เพราะเป็นคนพรรคพวกเยอะ


เบื้องต้นเมื่อวานนี้ ได้สอบปากคำผู้เสียหาย ตลอดจนส่งผู้เสียหายให้แพทย์ตรวจร่างกาย พร้อมยืนยันว่า ข้อเท็จจริงไม่สามารถบิดเบือนอะไรได้ ทางตำรวจจะต้องรวบรวมข้อมูลทุกอย่าง ทั้งพยานหลักฐาน กล้องวงจรปิดเนื่องจากทางผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ จะไม่มีการช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน


ส่วนพฤติกรรมของดาบตำรวจรายนี้ เท่าที่มารับตำแหน่งที่นี่ได้เพียงแค่ 2 เดือน ก็มีข้อมูลว่า เขาเป็นคนเรียบร้อย ก็มีชอบเที่ยวดื่มแบบนี้บ้าง แต่ยังไม่เคยมีใคร เคยร้องเรียนอะไรมา ซึ่งเท่าที่ทราบเขาเจอกับผู้เสียหายในสถานที่ท่องเที่ยว และเคยทักไลน์ไปหาน้องผู้เสียหายด้วย


ทั้งนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการวินัยร้ายแรงตามขั้นตอน พร้อมเสนอความเห็นอาจจะให้พักราชการไว้ก่อน ส่วนนายดาบตำรวจรายนี้ จะมีการเรียกให้มาสอบในวันนี้ (27 มี.ค.) และดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน ถ้าพบว่ามีการกระทำผิดจริง ถือว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง


เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) หลังจากสอบปากคำแล้วเสร็จ ได้พาผู้เสียหายไปชี้จุดประกอบคำให้การที่จุดเกิดเหตุทั้งหมด 6 จุด ขณะที่ทีมข่าวพยายามสอบถามไปยังดาบตำรวจรายนี้ แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวไม่รับสายแต่อย่างใด

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/uglM1udmUsY