อาชญากรรม
'รองต่อ' ยันไม่มีเจตนายิงเอาชิวิต ‘สารวัตรคลั่ง’ ชี้เป็นยุทธวิธีจากเบาไปหนัก – ญาติพ้อตร.ทำเกินไป ยิงตกชั้น 2 วอนสังคมเห็นใจ
โดย petchpawee_k
17 มี.ค. 2566
27 views
‘รองฯ ต่อศักดิ์’ เผย ผลการตรวจหาสารเสพติดในเลือด “สารวัตรกานต์’ เบื้องต้นพบสารเสพติดกลุ่มกัญชาในร่างกาย เป็นหนึ่งสาเหตุคลุ้มคลั่ง ระบุ ใช้เวลาสยบ 28 ชม.ไม่ถือเป็นความล้มเหลว ทุกขั้นตอนวางแผนรัดกุมพี่ชายติดใจการเข้าจู่โจมทำร้ายร่างกายหรือไม่
ด้านครอบครัว ‘สารวัตรกานต์’ รับศพสวด 1 คืน ก่อนเก็บอัฐิกลับภูมิลำเนา พี่ชาย เผย พ่อแม่ยังไม่รู้ลูกตาย ไม่อยากให้ข่าวทุกคนจะมองไม่ดี รับจนท.จู่โจมยิงน้องชายตกชั้นสองมันเกินไป เขาคือคนป่วยบางคนสะใจหัวเราะ แต่ญาติเสียใจอยากให้เห็นใจบ้าง
จากกรณี พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ อายุ 51 ปี หรือ สารวัตรกานต์ สังกัดศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล มีอาการทางจิตคลุ้มคลั่งกระหน่ำยิงปืนออกมาจากบ้านพักใน ซ.จีระมะกร แยกซอยสายไหม กทม.เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนาน 28 ชั่วโมง ก่อนควบคุมตัวบาดเจ็บ นำส่ง รพ.ภูมิพลฯ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
วานนี้ (16 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองพยาธิกรรม โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการสน.สายไหม พร้อมพนักงานอัยการและฝ่ายปกครอง ร่วมกันชันสูตรศพ หาสาเหตุการเสียชีวิต พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ หรือสารวัตรกานต์ ก่อนส่งมอบร่างให้ครอบครับนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา
ทีมข่าวพยายามสอบถาม พ.ต.อ.รังสรรค์ เรื่องผลการตรวจสอบว่าพบสารเสพติดภายในร่างของสารวัตรกานต์หรือไม่ พ.ต.อ.รังสรรค์ ปฏิเสธไม่ตอบคำถามใดๆ ระบุเพียงว่าเบื้องต้นยังไม่ได้พบครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจชันสูตรประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เสร็จสิ้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและพนักงานอัยการจะกลับออกจากห้องชันสูตรโดยไม่ให้ข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชน
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่โรงพยาบาลภูมิพล ร่วมประชุมกับ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2, พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม เพื่อตรวจสอบผลการชันสูตรร่างสารวัตรกานต์ ประกอบสำนวนคดี
จากนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ผลการตรวจหาสารเสพติดในเลือดผู้ตาย เบื้องต้นพบสารเสพติดกลุ่มกัญชาในร่างกาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการคลุ้มคลั่ง โดยต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดเพื่อให้เกิดความชัดเจนและตอบคำถามสังคมได้ คาดว่าอีก 3 วัน จึงจะทราบผล
เบื้องต้นแพทย์รายงานสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการเสียเลือด แต่ไม่พบกระสุนตกค้างในร่างกาย เนื่องจากกระสุนทะลุออกจากร่างทั้งหมด มีบาดแผลรอยถากตามร่างกาย แต่จุดที่กระสุนเข้าหลักๆ เป็นร่างกายช่วงหน้าอกลงไป มีกระสุนทะลุปอดและมีอาการตกเลือดในช่องท้อง
“ยืนยันว่าไม่ได้หวังเอาชีวิต แต่เนื่องจากขณะเจ้าหน้าที่พยายามบุกเข้าคุมตัว โดยใช้กระสุนยางและปืนไฟฟ้า สารวัตรกานต์ ได้ยิงปืนตอบโต้ ทำให้ตำรวจอีกชุดหนึ่งที่ใช้กระสุนจริง ยิงตอบโต้จนสารวัตรกานต์ จะกระโดดจากหน้าต่างชั้น 2 ร่วงลงมาข้างล่าง”
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย โดยเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาทุกวิถีทางแล้ว แต่ไม่สามารถเจรจาได้ กระทั่งแพทย์จิตเวชเจรจาและประเมินแล้วพบว่าเกินเยียวยา จึงจำเป็นต้องบุกเข้าชาร์จดังกล่าว
อย่างไรก็ตามพี่ชายของผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้กำกับการ สภ.แห่งหนึ่ง ติดใจในสาเหตุการตายว่าการเข้าจู่โจมว่าเกิดจากการทำร้ายร่างกายหรือไม่ แต่ประเด็นนี้สามารถอธิบายทางการแพทย์ได้ว่าเกิดจากการปะทะ ยืนยันว่าตำรวจทำตามยุทธวิธีและเกิดการปะทะกันจริง ไม่ได้เข้าไปทำร้ายจนเสียชีวิต จากนี้จะรายงานผลให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบและให้ทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงอีกครั้ง
โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่เข้าไปทำภารกิจครั้งนี้ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมชี้แจงการปฏิบัติ ซึ่งตำรวจทำงานตามยุทธวิธีสามารถชี้แจงได้ ถึงแม้จะใช้เวลาในการปฏิบัติงานร่วม 28 ชั่วโมง นั้นไม่ถือเป็นความล้มเหลวเพราะทุกขั้นตอนมีการวางแผนอย่างละเอียดรัดกุมและป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จากนี้จะหารือเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรวมถึงครอบครัวสารวัตรกานต์ เพราะมองว่าเจ้าตัวเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ที่สร้างคุณงามความดีมาตลอดการรับราชการ และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ขณะเดียวกัน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปรวบรวมกระสุนและพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมจำลองเหตุการณ์ก่อนนำผลมาประกอบสำนวนคดี
-------------------------------
ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่กองพยาธิกรรม โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ญาติขอความเป็นส่วนตัว ติดต่อขอรับศพ พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ หรือ สารวัตรกานต์ นำไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดสุทธิสะอาด นิมิตใหม่ ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ
ส่วนบรรยากาศที่วัดสุทธิสะอาด ทางญาติได้ประสานเข้ามาจัดเตรียมสถานที่ก่อนแล้ว หลังจากได้เคลื่อนร่างออกจากโรงพยาบาลภูมิพลฯ โดยรถตู้มาถึงวัดในเวลา 16.00 น. ญาติได้ยกโลงศพที่บรรจุร่างสารวัตรกานต์ ลงจากรถไปตั้งไว้ในศาลา 2 ก่อนยกร่างออกจากโลงและยกกลับเข้าไปในโลงอีกครั้ง โดยไม่มีการรดน้ำศพ
ขณะที่ครอบครัว ญาติ และเพื่อนร่วมงานของสารวัตรกานต์ ทั้งสังกัดฝ่ายอำนวยการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ,สังกัดกองบัญชาการศึกษา และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เดินทางมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพเวลา 19.30 น. เพราะรอให้พี่สาวของสารวัตรกานต์ อีก 2 คน เดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ มาถึงงานเสียก่อน โดยมีกำหนดสวด 1 คืน และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันนี้ (17 มี.ค.) จากนั้นจะนำอัฐิกลับภูมิลำเนาต่อไป
พี่ชายของสารวัตรกานต์ ซึ่งเป็นผู้กำกับการ สภ.แห่งหนึ่งที่ จ.พะเยา ขอไม่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพราะยังทำใจไม่ได้และยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ทีมข่าวสอบถามเรื่องอุปนิสัย โดยพี่ชายของสารวัตรกานต์ บอกสั้นๆ ว่า “สารวัตรกานต์ เป็นคนดี นกตัวเดียวยังไม่ฆ่าเลย”
พี่ชายของสารวัตรกานต์ อีกคน เปิดเผยว่า สารวัตรกานต์ เป็นคนอัธยาศัยไมตรีดี ใครอยู่ด้วยก็รัก ไม่เคยไปขัดคอกับใคร ดูแลพ่อแม่ดีส่งเงินให้ใช้ตลอดเวลา เป็นคนจิตใจอ่อนโยน เขาเคยมีภรรยาไม่มีลูกด้วยกัน แต่นำหลานของภรรยามาเลี้ยงเป็นลูก จริงๆ เขาเป็นคนดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางญาติก็ไม่อยากพูดอะไรมาก ข่าวที่ออกไปคนก็จะมองอีกด้านซึ่งไม่ดีต่อญาติพี่น้อง คนที่อยู่จะลำบาก
ครอบครัวไม่อยากให้เป็นข่าวมาก ทุกคนจะมองไม่ดีเลี้ยงลูกยังไงให้เป็นโจร สารวัตรกานต์ เขาเป็นคนป่วยจิตเวชที่ขาดการรักษา ถ้าได้รับการรักษากินยาต่อเนื่องก็น่าจะดีขึ้น ถ้ารักษาก็งาน คนป่วยทางจิตทำอะไรไม่รู้ตัว น้องทำงานก็ยังมีความเครียด แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สารวัตรกานต์ คลุ้มคลั่งหรือไม่
“ตนเองไม่ได้ติดใจเหตุที่เกิดขึ้นเพราะเป็นเหตุสุดวิสัย สารวัตรกานต์ เป็นคนหัวอ่อน เรื่องงานน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเครียด ตอนนี้พ่อกับแม่ซึ่งอยู่ต่างจังหวัดอายุมากแล้ว ยังไม่ทราบว่าสารวัตรกานต์เสียชีวิต เพราะยังไม่มีใครบอกถ้าแม่รู้คงเสียใจมาก แม่รักสารวัตรกานต์ มากเพราะเป็นลูกคนสุดท้อง จากพี่น้องทั้งหมด 5 คน และไม่อยากให้ไปทำข่าวที่บ้าน อยากให้เข้าจความรู้สึกของครอบครัวบ้าง”
พี่ชายของสารวัตรกานต์ “ยังบอกอีกว่าทุกคนไม่อยากเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับแม่ฟัง ยิ่งคลิปที่เจ้าหน้าที่จู่โจมเข้าไปในบ้าน แล้วสารวัตรกานต์ ทุบกระจกบานเกล็ดปีนลงมาจากชั้น 2 ตนเองยังไม่อยากดูเลย มันเกินไป น้องชายก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นไปกราดยิงใคร ไม่ได้ฆ่าใคร คนอื่นก็คิดไปแล้วว่าน่าจะเป็นเหมือนเหตุการณ์หนองบัวลำภู”
“ตนติดตามสื่อโซเชียลคลิปที่น้องโดนยิงตกลงจากชั้น 2 บางคนสะใจ บางคนหัวเราะ แต่ความรู้สึกของคนเป็นญาติมันเสียใจ อยากให้เห็นใจทางครอบครัวและญาติบ้าง ตนก็เห็นใจชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน มุมหนึ่งก็กดดันให้เจ้าหน้าที่วิสามัญ”
“ตนเป็นญาติ ก็ไม่อยากให้ยิงเกิดความสูญเสีย อยากให้เจรจาให้สุดๆ แต่มุมมองชาวบ้านอยากให้จบไวๆ ไม่คิดว่าน้องจะตาย อีกอย่างเขาเป็นผู้ป่วย ตนไม่ได้โทษน้องชายหรือโทษสังคม เพราะน้องเป็นคนป่วย แต่คนอื่นมองเขาเป็นผู้ร้าย”
------------------------------------
ขณะที่วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ชุมชนบ้านมั่นคง 2 เพื่อร่วมกันตรวจสอบเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เริ่มจากการวัดขนาดของร่องรอยกระสุน ปลอกกระสุน ชิ้นส่วนของแก๊สน้ำตา ที่พบบริเวณที่เกิดเหตุ
ไฮไลท์สำคัญ คือการนำหุ่นคล้ายคน จำนวน 1ตัว มาจำลองเหตุการณ์ ซึ่งหุ่นตัวนี้ ได้ใช้เป็นตัวแทนของสารวัตรกานต์ และการจำลองก็ได้ใช้เจ้าหน้าที่ชุดอรินทราช ที่ปฏิบัติการจริงในการเข้าควบคุมตัว มาร่วมจำลองเหตุการณ์เสมือนจริง แต่เป็นการจำลองภายในบ้าน
โดย พล.ต.ต.อรรถพล ให้ข้อมูลว่า ในการนำหุ่นมาประกอบการจำลองเหตุการณ์ เพื่อพิสูจน์วิถีกระสุน โดยเฉพาะช่วงที่มีการยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้ตำรวจชุดอรินทราช จำนวน 1 นาย ถูกยิงเข้าที่หมวกนิรภัย
ส่วนบริเวณหลังบ้านของสารวัตรกานต์นั้นพบว่าป่ารกด้านหลังบ้านจุดที่สารวัตรกานต์ ตกลงมาจากชั้นสองของบ้าน บริเวณดังกล่าวยังมีคราบเลือดและร่องรอยของเศษกระจกที่แตกกระจัดกระจาย และพบว่ามีต้นกัญชาปลูกอยู่ในกระถางจำนวน 2 กระถาง และกัญชาอีก 2 กระถางที่ล้มลงกับพื้น มีต้นกล้วยที่ถูกฟันทิ้ง ซึ่งชาวบ้านระบุว่ากัญชาทั้งหมดนั้นเป็นของสารวัตรกานต์ ที่ปลูกไว้ และในเวลาต่อมาช่วงเย็นหลังจากเจ้าหน้าที่กลับแล้วก็พบว่ากระถางต้นกัญชาทั้งสองนั้นหายไปจากหลังบ้านสารวัตรกานต์
ทั้งนี้ ในกองขยะพบเอกสารทางราชการเป็นเอกสารข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจหากเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่จะได้รับการชดเชยดูแลเช่นไร รวมไปถึงเงินฌาปนกิจต่างๆ ของข้าราชการตำรวจและสวัสดิการต่างๆ หากเสียชีวิตจะได้รับเช่นไร
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ToGpBHjgFEw