อาชญากรรม

ไขปริศนา เหตุสยอง 2 แม่ลูกถูกปาดคอ ตร.มุ่งเป้าคนในบ้าน ล่าสุดแม่สิ้นลมตามลูกแล้ว

โดย weerawit_c

6 มี.ค. 2566

210 views

2 แม่ลูก ถูกปาดคอเลือดนองพื้นบ้าน ลูกชายวัย 9 ขวบดับ ส่วนแม่สาหัสล่าสุดเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ผู้การสระบุรี มุ่งเป้าคนในครอบครัว ชี้ผู้เป็นแม่อาจลงมือลูกก่อน แต่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งพร้อมส่งมีดตรวจพิสูจน์ ก่อนหิ้วสามีตรวจร่างกายเพิ่ม ด้านสามีเล่าภรรยาเคยบ่นป่วยโรครุมเร้าไม่อยากอยู่ ส่วนย่าชี้ก่อนเกิดเหตุ ไม่มีอะไรผิดปกติ นอกจากลูกชายที่เรียก ยังสันนิษฐานอะไรไม่ได้ มืดแปดด้าน วอนเร่งสางคดี


จากกรณีตำรวจ สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี รับแจ้งเหตุใช้มีดปาดคอ ภายในบ้านพัก ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ผู้บาดเจ็บ ด.ช.อายุ 9 ปี ถูกมีดปาดเข้าที่คอเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ส่วนนางอารียา อายุ 40 ปี แม่ ด.ช.อายุ 9 ปี พบนอนหายใจรวยรินอยู่กลางถนนหน้าบ้าน ถูกปาดคอด้วยมีดทำครัวยาว 6 นิ้ว ตกอยู่ข้างถนน ญาตินำโรงพยาบาลพระพุทธบาทอาการสาหัส


คืบหน้าวานนี้ (5 มี.ค.) ร.ต.อ.อำนวย พูลผล พนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท เชิญตัวนายอุดร (สามี) ญาติ และเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเข้ามาสอบปากคำ เพื่อเร่งคลีคลายคดีและหาปมเหตุ ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าปมการฆ่าปาดคอเกิดจากสาเหตุใด ยังคงต้องรอผลการชันสูตร และผลดีเอ็นเอที่ตรวจจากรอยนิ้วมือที่มีดตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งจะเป็นผลทางนิติวิทยาศาสตร์


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเกิดเหตุอีกครั้งพบประตูบ้านถูกปิด จากการสอบถามนางลัดดา อายุ 64 ปี ย่า ด.ช.อายุ 9 ปี เล่าว่า ได้ยินเสียงนายอุดร ลูกชายของตนเรียกช่วงเวลาประมาณตี 5 ให้มาดูว่า ด.ช.อายุ 9 ปี เป็นอะไรแม่มาช่วยดูหน่อย ตนจึงเข้าไปดูพบว่าหลานมีเลือดไหลเต็มตัว จากนั้นเดินตามหาลูกสะใภ้ภายในบ้านว่าไปไหน ทำไมไม่ดูลูกเป็นอะไรเลือดไหล



ซึ่งนายอุดร อุ้ม ด.ช.อายุ 9 ปี อยู่ที่หน้าประตู จากนั้นปู่ของ ด.ช.อายุ 9 ปี ได้ยินเสียรถเบรกอยู่หน้าถนน จึงเอาไฟฉายไปส่องดู จากนั้นปู่ได้ตะโกนบอกว่า มันอยู่นี่ ๆ และถามไปว่ามึงเป็นอะไรมานอนอยู่ที่นี่ทำไม ซึ่งพบว่านางอารียา นอนอยู่กลางถนน จากนั้นนำ 2 แม่ลูกขึ้นรถ เพื่อนำไปส่งโรงพยาบาล



ซึ่งปกติบ้านที่เกิดเหตุจะอาศัยกันอยู่ 3 คนพ่อแม่ลูก ส่วนลูกชายกับลูกสะใภ้แยกกันนอน เนื่องจากลูกสะใภ้ไม่สบายและไอเลยไม่ให้ลูกนอนอยู่กับแม่ด้วย เกรงว่าจะมาติด



นางลัดดา กล่าวว่า ตนก็ไม่รู้ว่า ด.ช.อายุ 9 ปี ออกจากห้องมาอย่างไร หรือว่าจะออกมาเข้าห้องน้ำหรือเปล่าตนก็ยังไม่รู้ ซึ่งนายอุดร ยังบอกว่าตอนตี 3 ยังนอนกอดลูกยังห่มผ้าให้อยู่เลย ซึ่งลูกชายตนจะเป็นคนที่เอาใจเมียมาก คอยหุงหาอาหารให้กิน ตอนเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย



ภายในบ้านยังพบว่าหม้อข้าวได้เตรียมหุง แต่ไม่ได้เสียบปลั๊กไฟ ซึ่งทางเข้าบ้านตนก็เข้าได้ทางเดียว ภายในบ้านก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ในบ้านที่อยู่ก็อยู่กันในเครือญาติ พี่น้องกัน ไม่น่าจะมีใครเข้ามาได้ ตอนนี้ตนเองสันนิษฐานอะไรไม่ได้เลย มืดแปดด้าน



สอบถามนายสาย อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านอยู่ติดกับบ้านหลังที่เกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเช้ามืดไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มารู้ข่าวอีกทีก็เห็นตัวสามีผู้จะนำภรรยาและลูกชายส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่คิดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนภายในบ้าน เนื่องจากหากเป็นคนภายนอกเข้ามาภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุ ต้องมีสุนัขเห่าอย่างแน่นอนและไม่ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยเหลือ บ้านหลังเกิดเหตุมีเพียงพ่อแม่ลูกอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน ตนคิดว่าเป็นคนในบ้านก่อเหตุ



ข้อสงสัยคดีนี้ 1.มีดทำครัวที่พบตกในที่เกิดเหตุเป็นของที่บ้าน 2.หมาไม่เห่า ถ้าคนนอกหมาจะเห่า 3.ตอนเช้าไม่มีเสียงอะไรผิดปกติ แต่แปลกทำไมแม่ของเด็กถึงต้องวิ่งออกมาที่ถนน วิ่งหนีอะไรมาหรือวิ่งออกมาทำไม



ขณะที่ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิวุฒิกุล ผู้บังคับกการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เผยว่า จากหลักฐานในที่เกิดเหตุ ให้น้ำหนักผู้ก่อเหตุเป็นคนในครอบครัว ซึ่งผู้เป็นแม่เคยบ่นกับสามีว่าไม่ยากมีชีวิตอยู่เพราะมีโรคประจำตัวได้แขนขาอ่อนแรง แต่ยังไม่ตัดประเด็นใดๆทิ้ง ต้องรอผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจลายนิ้วมือที่มีดที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งในบ้านพักอาศัยด้วยกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก เหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องเรียกพยานเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.พระพุทธบาท



จากนั้นเวลา 17.30 น. ทางด้านพนักงานสอบสวน ได้นำตัวนายอุดร พรมมา (สามี) ไปทำการตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลพระพุทธบาท อ. พระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อทำการตรวจหาหลักฐานและภายในตัวว่ามีการบาดแผลอะไร หรือไม่ เพื่อจะได้นำหลักฐานดังกล่าวมาประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป



ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางจันทร์ บุญชำนิ อายุ 61 ปี แม่ของนางอารียา พรมมา ผู้บาดเจ็บทางโทรศัพท์ว่า ในช่วงเวลา 19.30 น. ทางเจ้าหน้าที่พยาบาล โรงพยาบาลในจังหวัดลพบุรี ได้ทำการแจ้งกับตนว่า ลูกสาวของตนเองอาการสาหัส โอกาสที่จะรอดชีวิตนั้นไม่มีเนื่องจากอาการนั้นโคม่ามาก ตนได้ปรึกษากับญาติแล้วคิดว่า ควรปล่อยให้ลูกสาวไปเสียดีกว่า ให้เขาไปอยู่กับลูกชายดีกว่า เขาคงอยากอยู่กับลูกชายมากกว่า



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/WiFkX_uu4gQ

คุณอาจสนใจ