ภรรยา 'พล.ต.ท.ปัญญา' รับเป็นคนลั่นไกยิงสามี ยังไม่พร้อมเล่าปมเหตุ ตร.แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

วานนี้ (19 ก.พ.66) เวลา 14.30 น. เกิดเหตุ พลตำรวจโทปัญญา ปิ่นสุข อายุ 59 ปี ตำแหน่งผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เสียชีวิตจากการถูกยิง 2 นัด ซึ่งตอนแรก ณ เวลาที่ได้รับแจ้งเหตุ ยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรือการฆาตกรรม

ต่อมา พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เพื่อนร่วมรุ่นของพลตำรวจโทปัญญา ปิ่นสุข ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า ไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากไม่มีการกระทำด้วยตัวเอง ต้องมีคนอื่นด้วย 

ต่อมา เวลา 19.00 น. ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว นางพรประภา ปิ่นสุข อายุ 67 ปี ภรรยาผู้ตาย ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจตลอดเวลา ไปสอบปากคำที่โรงพัก ปรากฏว่า เจ้าตัวยอมรับเป็นผู้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงสามีตนเองจริง แต่ยังไม่สามารถให้ปากคำเพิ่มเติมได้ เนื่องจากยังอยู่ในอาการช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังไม่ยอมเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากยังไม่พร้อมจะให้การกับทางตำรวจ

------------

สอบถาม ช่างเหล็กที่สนิทกับสองสามีภรรยา เล่าว่า

ก่อนเกิดเหตุ ภรรยาได้โทรมาหาว่า ให้ช่วยพาผู้การฯไป รพ.หน่อย ก็รีบไปหาที่บ้าน ขึ้นไปที่ชั้นสอง พบผู้การฯนอนหมดสติอยู่ จึงรีบโทรไปหาลูกน้องอีก 2 คน ให้มาหาเพื่อช่วยกันพาผู้การฯไป รพ. แต่เนื่องจากผู้การฯรุปร่างใหญ่ เข้ารถไม่ได้ จึงต้องรีบแจ้งหน่วยกู้ชีพมาช่วย แต่ท่านเสียชีวิตก่อนที่รถจะมา

-------------

ด้านนางสำรอง อายุ 70 ปี แม่ค้าขายของ ฝั่งตรงข้ามบ้าน พล.ต.ท.ปัญญา เปิดเผยว่า

เมื่อช่วงประมาณ 13.00 น. ขณะกำลังมาเปิดร้านขายอาหาร ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด จากนั้นได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องด้วยความตกใจ ก่อนจะเงียบไป และอีก 5 นาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด พร้อมเสียงกรีดร้องของผู้หญิงเช่นเดิม และร้องว่า "พี่ไม่น่าทำแบบนี้เลย" จากนั้นก็เห็นช่างเหล็กเข้ามาในบ้าน จึงรีบวิ่งเข้าไปให้การช่วยเหลือเพื่อจะนำตัว พล.ต.ท.ปัญญาส่งโรงพยาบาล

นางสำรอง เล่าอีกว่า เห็นครอบครัวนี้มานาน สามีภรรยามีลูกสาว 1 คน จบจากต่างประเทศ ไปทำงานที่ชลบุรี ทั้งคู่เป็นคนใจบุญ ตักบาตรแทบทุกวัน ใครมาขอข้าวขอน้ำขอเงินก็ให้ตลอด สร้างศาลาพักร้อนไว้ให้คนมานั่งพักด้วย 

-------------

ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาที่เกิดเหตุ ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตของ พล.ต.ท.ปัญญา มาจากการถูกภรรยายิง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถพูดคุยกับ ภรรยาของ พล.ต.ท.ปัญญา ได้ เนื่องจากยังอยู่ในอาการช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่าต้องใช้เวลาสักระยะจึงจะสามารถสอบปากคำได้

อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.จักรภพ สุคนธราช ผบก.น.7 ให้เข้าร่วมสอบปากคำแล้ว และได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำโทรศัพท์มือถือ และ กล้องวงจรปิดไปตรวจสอบแล้ว รวมถึงคราบดินปืน

ส่วนสาเหตุ คาดว่ามาจากปัญหาความเครียดในครอบครัว ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องงาน หรือ เพื่อนร่วมงานแต่อย่างใด

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวอีกว่า จากการสอบถามแม่บ้าน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุยิงกันนั้นไม่มีสัญญาณการทำร้าย หรือ ทะเลาะเบาะแว้งแต่อย่างใด ซึ่งบาดแผลที่พบ คือถูกยิงเข้าที่บริเวณราวนมซ้ายและขวา ส่วนจะเป็นปืนขนาดเท่าใดนั้น ต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

พล.ต.ท.ธิติ เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ปัญญา เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน อุปนิสัยส่วนตัวเป็นคนอารมณ์ดี น่ารัก สุภาพ เป็นคนมีความรู้ และขยันทำงาน สำหรับครอบครัวนี้ก็เป็นครอบครัวที่น่ารัก ซึ่งยังแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่ามาจากปัญหาความเครียดส่วนตัวภายในครอบครัว

-------------

เวลา 19.00 น. ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว นาง พรประภา ปิ่นสุข อายุ 67 ปี ภรรยาผู้ตาย มาสอบปากคำ ปรากฏว่าเจ้าตัวยอมรับเป็นผู้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงสามีตนเองจริง แต่ไม่ยอมเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากยังไม่พร้อมจะให้การกับทางตำรวจ

เบื้องต้น จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแก่ผู้ต้องหาเอาไว้ก่อน จากนั้นจะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บคราบเขม่าตามร่างกาย และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

-------------

ขณะที่ เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำ นางพรประภา ปิ่นสุข ผู้ก่อเหตุ ผู้สื่อข่าวพบว่าน้องสาวผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาติดตาม ที่ สน.ธรรมศาลา จึงเข้าไปสอบถามข้อมูล แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ขอไปดูแลพี่สาวที่ตอนนี้กำลังใจแย่อยู่

เมื่อถามว่าทั้งคู่มีปัญหากันมาก่อนหรือไม่ น้องสาวผู้ก่อเหตุบอกเพียงว่าเป็นเรื่องภายใน ก่อนหน้านี้ไม่เคยทราบ ตอนที่เจอกันทั้งคู่ก็ดูรักกันดี ตอนนี้พี่สาวยังเสียใจ และต้องปลอบลูกสาวไปด้วย พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่ทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น

-------------

ด้าน น.ส.แหม่ม เพื่อนผู้เสียชีวิต และผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้จักกับ พล.ต.ท.ปัญญา และภรรยา มานานหลายปีแล้ว ซึ่งทั้งคู่รักกันดี อยู่ด้วยกันมานานหลายสิบปี ออกงานด้วยกันบ่อยๆ แต่ไม่ทราบปัญหาภายในว่ามีการทะเลาะกันหรือไม่ แต่เท่าที่ดูจากภายนอกไม่มีปัญหากัน และตัวนางพรประภาเป็นคนพูดจาดี

ทั้งนี้ น.ส.แหม่ม ยังบอกอีกว่า นางพรประภา เป็นแม่บ้าน นิสัยน่ารัก ส่วนตัวสนิททั้งสามีและภรรยา จึงไม่รู้ว่านางพรประภาจะก่อเหตุยิงสามีจริงหรือไม่ หรือมีเหตุจูงใจอะไรที่จะก่อเหตุ เพราะไม่ทราบเรื่องลึกๆ ของครอบครัว ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เจอกันแล้ว แต่เจ้าตัวยังอยู่ในอาการช็อค ร้องไห้เสียใจ จึงไม่ได้สอบถามอะไร 

-------------

ประวัติ พลตำรวจโทปัญญา

ก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่ง เป็นผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และขึ้นเป็นผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ในอดีตเคยดูแลคดีสำคัญหลายคดี แต่คดีที่ต้องพูดถึงคือ คดีลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ที่มีผู้ต้องหาคนสำคัญคือ นายเปรมชัย กรรณสูต อดีตผู้บริหารบริษัท อิตาเลียนไทย

ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และคดีความมั่นคง คนหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังมีส่วนร่วมในการสืบสวนคดี 'มาเก๊า 888' อีกด้วย
-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/z-fQ6dB_94g