อาชญากรรม

จับได้แล้ว! เมียรับสารภาพรวมหัวลูกเลี้ยงฆ่าผัว อ้างแค้นโดนด่าบ่อย

โดย gamonthip_s

10 ธ.ค. 2566

1.3K views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ร.ต.อ.เอก แซงเพชร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ รับแจ้งเหตุ พบศพคนเสียชีวิตที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยแฮด ระหว่างบ้านนา – บ้านโพธิ์ ต.ซำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งเหตุจึงได้รายงานให้ พ.ต.ท.เสกสรรค์ อุทโท รอง ผกก.สอบสวน ทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบศพชาย 1 ราย สวมกางเกงขาสั้นสีกรมท่า เสื้อยืดแขนสั้นสีเลือดหมู



จากการตรวจสอบสภาพศพ พบมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม บริเวณต้นคอด้านซ้ายเป็นแผลลึก และบาดแผลถูกแทงตามหน้าอก และแผ่นหลัง ไม่ต่ำกว่า 5 แผล ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสถาพร อายุ 48 ปี อยู่บ้านที่ หมู่ 15 ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ



ต่อมา พ.ต.อ.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาข้อมูลพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ โดยในเบื้องต้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในเส้นทางระหว่าง ต.โพนข่า มายังจุดที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีความเชื่อมโยงกันว่าผู้เสียชีวิต จะถูกฆ่ามาตั้งแต่จุดอื่น แล้วนำศพมาทิ้งที่จุดนี้หรือไม่ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น



ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 23.15 น. วันที่ 9 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.เสกสรรค์ อุทโท รอง ผกก.สอบสวน ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ นางภูริชา อายุ 51 ปี ภรรยาของนายสถาพร ซึ่งถูกคนร้ายใช้มีดแทงตายอย่างเหี้ยมโหด หลังจากที่ นางภูริชา ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ นางเพ็ชรทิม อายุ 25 ปี ลูกสาวของนางภูริชา นายธนโชค อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็กของนางภูริชา และนายพีรพัฒน์ อายุ 21 ปี เพื่อนของนายธนโชค ได้ร่วมกันฆ่านายสถาพรถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 01.00 – 03.00 น. ของคืนวันที่ 8 ธ.ค. 2566 จากนั้น ได้นำเอาศพของนายสถาพร มาทิ้งไว้ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยแฮดเพื่ออำพรางคดี 



พ.ต.ท.เสกสรรค์ อุทโท รอง ผกก.สอบสวน กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้นำ นางภูริชา ซึ่งเป็นภรรยาของนายสถาพร นางเพ็ชรทิม อายุ 25 ปี ลูกสาวของนางภูริชา นายธนโชค อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็กของนางภูริชา โดยนางเพ็ชรทิม และนายธนโชค เป็นลูกเลี้ยงของนายสถาพร และนายพีรพัฒน์ อายุ 21 ปี เพื่อนของนายธนโชค มาสอบสวน แต่ปรากฏว่าให้การไม่ตรงกัน พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการแยกสอบสวน สุดท้ายทั้ง 4 คน ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันฆ่า นายสถาพร จริง โดยขณะเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 01.00 – 03.00 น. ของคืนวันที่ 8 ธ.ค. 2566 โดยก่อนเกิดเหตุ นายสถาพร ได้นำเอารถยนต์ไปซ่อม จากนั้นนายสถาพรได้ดื่มสุราจนมึนเมากลับมาบ้าน และได้มีปากเสียงดุด่านางภูริชา ซึ่งเป็นภรรยาของตนเองด้วยความหึงหวง เนื่องจากว่า นางภูริชา เป็นคนหน้าตาดีมีเสน่ห์ ทำให้นายสถาพร หึงหวงมาก และมักจะดุด่าเมียของตนเป็นประจำ



พ.ต.ท.เสกสรรค์ อุทโท รอง ผกก.สอบสวน กล่าวต่อว่า ซึ่งหลังจากนายสถาพร ด่าว่านางภูริชาอย่างรุนแรงแล้ว ได้เข้าไปนอนในห้องนอน ซึ่งด้วยความโกรธสะสมมาเป็นเวลานานที่โดนด่าว่าเป็นประจำ นางภูริชาจึงได้เข้าไปในห้องนอน และได้ใช้มือกดไหล่ของนายสถาพรเอาไว้ ส่วนนายธนโชค อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็กของนางภูริชา ได้จับขาของนายสถาพรเอาไว้ ต่อมานางภูริชาปวดแขน จึงได้ให้นายพีรพัฒน์ อายุ 21 ปี เพื่อนของนายธนโชค มาจับแขน และกดหัวไหล่ของนายสถาพรเอาไว้ จากนั้นนางเพ็ชรทิม อายุ 25 ปี ลูกสาวของนางภูริชา เป็นคนขึ้นคร่อมร่างของนายสถาพรเอาไว้ จากนั้นใช้มีดที่นำเอามาจากในบ้านแทงนายสถาพรอย่างไม่ยั้งที่บริเวณหน้าอกประมาณ 7 แผล จนทำให้นายสถาพรเสียชีวิต หลังจากนั้นได้นำเอาที่นอนห่อร่างของผู้ตายนำขึ้นไปใส่ท้ายรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน นำศพของนายสถาพรไปทิ้งไว้บริเวณสะพานอ่างเก็บน้ำห้วยแฮด และนายธนโชคได้นำมีดอาวุธสังหารไปทิ้งลงไปในห้วยซัน



ซึ่งในวันวันนี้นี้ (10 ธ.ค.66) เวลา 09.00 น. ตนจะได้นำเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมชุดประดาน้ำ ไปงมหาอาวุธมีดของกลาง ซึ่งคดีนี้ไม่ได้มีการใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแต่อย่างใดใช้มีดแทงอย่างเดียว คดีนี้ได้ตั้งข้อหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และซ่อนเร้นทำลายศพ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News