น.1 ยืนยันไม่ปกป้องลูกน้อง จะให้ความเป็นธรรมคดีดาราสาวไต้หวัน

หลังจากที่มีการตั้งข้อสังเกตผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาระบุว่า ตำรวจนครบาลห้วยขวาง สารภาพว่า รีดเงินจำนวน 27,000 บาท จากนักท่องเที่ยวสาวไต้หวันจริง โดยนายชูวิทย์ ยังอ้างข้อมูลว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีความพยายามให้ลูกน้องไป ลบหลักฐานที่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งจากจุดเกิดเหตุหน้าสถานทูตฯจีนประจำประเทศไทย และ บนหมวกติดตัวของตำรวจสายตรวจที่ประจำจุดตรวจวันเกิดเหตุ


นายชูวิทย์ ยังอ้างว่า ตำรวจบอกพยานที่เป็นคนขับแกร็บ ให้การยืนยันว่า นักท่องเที่ยวไต้หวันเมา โดยปล่อยคลิปภาพเหตุการณ์ของนักท่องเที่ยวสาวคนนี้ เพื่อลดความน่าเชื่อถือเบี่ยงเบนประเด็นการรัดทรัพย์ของตำรวจ


ซึ่งคดีมีความคืบหน้า เมื่อพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ ตำรวจสืบสวนนครบาล ที่นำโดย พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ที่อยู่ระหว่างการประสานกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ประสานกับนางสาวอันหยู่ชิง ดาราสาวชาวไต้หวัน พร้อมเพื่อนรวม 4 คน เพื่อให้ยืนยันว่า ตำรวจนายใดเป็นผู้เรียกรับผลประโยชน์ หรือหากเป็นไปได้ ก็พร้อมจะส่งพนักงานสอบสวน บินไปสอบปากคำที่ไต้หวัน


ขณะที่ พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์ให้ทางโทรศัพท์ ยืนยันว่า คดีนี้เป็นคดีอาญา ที่ไม่สามารถปกป้องหรือช่วยเหลือใครได้ หากพบว่า ลูกน้องผิดจริง ก็มีขั้นตอนในการดำเนินการอยู่แล้ว และยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และในวันนี้ 11.00 น. มอบหมายให้ทีมโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงความคืบหน้ากรณีนี้แล้ว