อาชญากรรม

ดาราสาวไต้หวัน ลั่นจำหน้า ตร.ไทยไถเงินได้แม่น ด้าน ตร.แจงตั้งด่านจริง อัดคลิปเสียงไว้ แต่หาไม่เจอ

โดย petchpawee_k

27 ม.ค. 2566

72 views

กรณีดาราสาวไต้หวัน อ้างถูกตำรวจไทยรีดไถ ผบช.น. โร่แจง ตั้งด่านตรวจจริง เจอกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งชาย หญิง พกบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่เพียงแจ้งผิดกฎหมาย แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง เผยอัดคลิปเสียงไว้ แต่หาไม่เจอ พร้อมเรียกแท็กซี่ เข้าให้ข้อมูล


เฟซบุ๊ก “หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว” แปลข่าวหลังสื่อไต้หวัน ลงข่าวสาวไต้หวันถูกตำรวจไทยรีดเงินว่า ตำรวจไทยเดือด เร่งสอบไม่ให้มีคอรัปชั่น ขณะที่โฆษก ตร .เผยเร่งประสานดาราสาวไต้หวันให้ข้อมูลเพิ่ม ด้านตำรวจชุดตั้งด่าน สน.ห้วยขวาง ยืนยันไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์


วานนี้ (26 ม.ค.66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนักแสดงสาวไต้หวันโพสต์เล่าเหตุการณ์ถูกตำรวจไทยรีดไถ่ ช่วงมาท่องเที่ยวปีใหม่ในไทยว่า  เบื้องต้นทราบตัวนักแสดงสาวคนดังกล่าวแล้ว และมีข้อมูลว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 และเดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566


จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการเช็คอินห้องพักโรงแรมย่านทองหล่อ และพบว่านักแสดงสาวคนดังกล่าวโดยสารด้วยรถตู้เอนกประสงค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานคนขับรถเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และได้ประสานที่พักให้ตรวจสอบว่านักแสดงสาวคนดังกล่าวเข้าพักที่โรงแรมจริงหรือไม่


เบื้องต้นได้มีการติดต่อไปยังนักแสดงคนดังกล่าวแล้วโดยช่องทางผ่าน Instagram และ Facebook เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ และประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับเช่นกัน


อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในทุกมิติ เบื้องต้นพบว่าเป็นการเช็คอินหลังเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่หากตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่กระทำผิดจริงสามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ได้เลยโดยไม่ต้องรอผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์แจ้งความ


นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในกรณีอื่น ๆ อีกด้วย


ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก สน.ห้วยขวาง คืนวันที่ 4 มกราคม มีการตั้งด่านตรวจจริง ที่บริเวณหน้าสถานทูตจีนอยู่ในห้วงเวลาตีหนึ่งตามที่สาวชาวไต้หวันเล่าเหตุการณ์ โดยด่านตรวจตั้งตามนโยบายห้วงการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและป้องกันเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ด่านตรวจในวันเกิดเหตุ บช.น.รู้ข้อมูลทั้งหมดว่า ตั้งด่านกี่จุดเนื่องจากมีกำหนดผัง


ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านแจ้งว่า ช่วงเวลาตีหนึ่งวันที่ 4 มกราคม 66 เจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีทั้งผู้ชายผู้หญิงมาเป็นกลุ่มพฤติกรรมพกบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่เพียงแจ้งว่าผิดกฎหมาย แต่คุยไม่รู้เรื่องเพราะพูดภาษาจีนและมีการอัดเสียงเอาไว้แต่หาไม่เจอ ตนจึงได้สั่งการ ผกก.สน.ห้วยขวาง แล้วว่า ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่าเหตุการณ์เกิดในลักษณะใด รวมทั้งตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดไล่ตั้งแต่วันที่ 3-5 ม.ค. 66 ท่านมา รวมติดตามหาโชเฟอร์คนขับรถพยานปากสำคัญมาสอบปากคำ รวมทั้งพยานที่โรงแรมที่พักของนักท่องเที่ยวสาวไต้หวันเพื่อรวบรวมข้อมูลรายละเอียดให้ชัดเจนต่อไป


ต่อมา ที่ สน.ห้วยขวาง พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าติดตามคงามคืบหน้า โดยได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.ห้วยขวาง ประมาณ 7 นาย เข้าให้ข้อมูล หลังจากตำรวจชุดนี้ถูกกล่าวหาจากนักแสดงสาวไต้หวันคนหนึ่งว่าเรียกรับผลประโยชน์


ภายหลังตำรวจทั้ง 7 นาย ที่ถูกกล่าวหาให้ข้อมูลเสร็จสิ้น พล.ต.ต.สำเริง เผยว่า จากการสอบถามกับตำรวจนครบาลห้วยขวางที่เข้าให้ข้อมูล ยืนยันว่าไม่มีการเรียกรับเงินนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน แต่ตำรวจชุดนี้ ยอมรับว่า มีการโต้เถียงกัน เนื่องจากได้ขอเรียกตรวจสอบหนังสือเดินทาง แต่นักท่องเที่ยวไต้หวันคนนี้ มีอาการมึนเมา และอ้างว่าไม่ได้พกพาหนังสือเดินทางติดตัวมาด้วย โดยอ้างว่า สามารถให้เพื่อนนำมาจากที่พักมาให้ตำรวจตรวจสอบได้ แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องภาษา สื่อสารไม่เข้าใจกัน ประกอบกับในเวลาดังกล่าวเป็นช่วงใกล้เวลาของการยกเลิกจุดตรวจ ว.43 เคลื่อนที่ จึงอนุญาตให้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวกลับไปก่อน เนื่องจากหัวหน้าชุดจุดตรวจ ประเมินแล้วว่าไม่น่าจะเป็นบุคคลที่เป็นภัยหรือเป็นอันตราย


ส่วนกรณีพบบุหรี่ไฟฟ้าที่ตัวของนักท่องเที่ยวไต้หวันคนนี้ ยอมรับว่า ตำรวจไม่ได้มีการจับปรับ แต่ได้ชี้แจงว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความผิดตามกฎหมายของประเทศไทย


สำหรับการจะเชิญตัวนักท่องเที่ยวไต้หวันคนนี้มาให้ข้อมูล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า คงเป็นไปได้ยาก เพราะขณะนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่เบื้องต้นทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอข้อมูลข้อเท็จจริงนี้แล้ว

พล.ต.ต.สำเริง ยังยืนยันว่า ขณะนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ เพื่อมาหักล้างและยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ตามที่นักท่องเที่ยวคนนี้กล่าวอ้าง แต่ในส่วนของการพิจารณาในฐานะที่ตำรวจไทยถูกกล่าวหาให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ คงเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาระดับสูง หรือฝ่ายกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะพิจารณาว่าดำเนินคดีย้อนหลังได้หรือไม่

ขณะเดียวกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.ต.สำเริง ยอมรับว่า สร้างความเสื่อมเสีย และในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ให้กำลังใจนายตำรวจชั้นผู้น้อยระดับปฏิบัติการ ไม่ให้เสียขวัญและกำลังใจไปกว่านี้ ทั้งนี้ คงไม่สามารถตอบได้ว่าเหตุการณ์นี้ มีเจตนาต้องการลดความน่าเชื่อถือต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐาน จากกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานครที่เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันได้ว่าไม่ได้มีการเชิญตัวนักท่องเที่ยวไต้หวันออกไปนอกพื้นที่บริเวณด่านเลย มีเพียงแต่เชิญตัวขึ้นมาพูดคุยบนฟุตบาธเท่านั้น


ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่มาบริเวณถนนรัชดาภิเษก ด้านหน้าสถานทูตจีน โดยวินมอเตอร์ไซค์ปากซอยรัชดาภิเษก 3 บอกว่า ปกติแล้วตรงจุดนี้ เคยมีตำรวจมาตั้งด่านตอนกลางคืน ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด เพราะแถวนี้มีสถานบันเทิงเยอะ ส่วนมากตำรวจจะตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ แต่หลังจากช่วงโควิดระบาด ก็ไม่ค่อยมีการตั้งด่านที่จุดนี้แล้ว


ส่วนแม่ค้าร้านข้าวมันไก่ที่เปิด 24 ชั่วโมง ก็บอกว่า ถ้ามีตำรวจมาตั้งด่าน จะตั้งอยู่ที่บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 3 ก่อนถึงสถานทูตจีน ส่วนมากลูกค้าก็จะเข้ามาบอกว่ามีด่านอยู่ปากซอย แต่ก็มีไม่บ่อย นานๆ ทีเท่านั้น ส่วนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมามีหรือไม่ ตนไม่ทราบ

---------------------------------------------------------------

ขณะที่ วานนี้ (26 ม.ค.66) ผู้ประกาศของพีพีทีวี (PPTV) คุณกระแต ได้มีโอกาสแชทคุยผ่านอินสตาแกรม โดยเธอเล่าว่า เรื่องนี้เกิดประมาณ ราวตี 2 ซึ่งได้นั่งแท็กซี่กลับมา แล้วพบว่ามีตำรวจยืนเรียงแถว เป็นการปิดถนนเพื่อตรวจรถและตรวจคน พร้อมกับส่งรูปแบบ Google Map ส่งมาให้ทีมงานพีพีทีวี  มีการชี้เป้าจุดที่ถูกรีดไถเงิน พบว่าบริเวณดังกล่าว อยู่บนถนนรัชดาภิเษก ด้านหน้าสถานทูตจีน ประจำประเทศไทย  และการที่ไม่มีข้อมูลไปมากกว่านี้แล้ว เป็นเพราะช่วงดังกล่าวไม่ให้ใช้โทรศัพท์ และที่สำคัญเธอสามารถจำใบหน้าตำรวจคนดังกล่าวได้ด้วย จำได้ประมาณ 3 คน เพราะตอนนี้ยืนเรียงกันเลย หากให้ชี้ตัวก็สามารถชี้ได้


เธอยังถามคุณกระแต กลับมาด้วยว่า เขาขว้างถนนแบบนี้ เขาเป็นตำรวจปลอมได้หรือไม่ ซึ่งคุณกระแต ก็ได้ตอบกลับไปว่ามีจุดตรวจแบบนี้จริงๆ หลักๆ แล้วจะเป็นด่านเพื่อตรวจเมาและขับ ไม่เคยเห็นตำรวจที่ค้นนักท่องเที่ยวแบบนี้สักเท่าไหร่  


โดยคุณกระแต ยังขอโทษแทนคนไทยที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ซึ่งดาราไต้หวัน ได้สอบถามอยู่ตลอด ว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เพราะยังรู้สึก งง ด้วยว่า ตัวเองมีความผิดอะไร เพราะมีการอ้างว่าเป็นตำรวจที่ไม่ธรรมดา ใหญ่พิเศษด้วย ซึ่งเรื่องนี้น่าจะติดตามไม่ยาก เพราะสามารถเช็คกล้องวงจรเปิด รวมถึงอยู่ใน สน.ไหน ก็คงตามได้ไม่ยาก


ขณะเดียวกันดาราสาวชาวไต้หวันได้ยืนยันกับทางช่อง 7 โดยเธอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง  มีการตั้งด่านจริง ยืนยันว่าเธอเรียกเเท็กซี่จาก ONYX RCA ไปยังโรงแรม แต่กลับไปไม่ถึงโรงแรมต้องลงก่อนตรงสถานฑูตจีน


ทั้งนี้ เธอบอกว่าให้ไปตรวจกล้องวงจรปิด หน้าสถานทูตจีนได้ เพราะเธอถูกกักตัวตรงนั้น อีกทั้งยังย้ำว่าจำหน้าตำรวจได้แม่นถึง 3 คน จำได้แม่นแบบไม่มีวันลืม

----------------------------------------------------

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ค “ดาวแปดแฉก” ได้อัพเดตข้อมูลเรื่องนี้ ว่า “เน็ตไอดอลสาวไต้หวัน” ให้เพื่อนติดต่อส่งข้อมูลสำคัญให้ทีมของ “ผบ.ตร.” แล้วกรณีถูกตำรวจไทยค้นเรียกเงินกว่า 2 หมื่นบาท

พร้อมกันนี้ เพจเฟซบุ๊ก “ดาวแปดแฉก” ยังโพสให้จับตาเพิ่มเติมด้วยว่าเรื่องนี้อาจพลิก โดยข้อความระบุว่า “เรื่องราวของ “เน็ตไอดอลชาวไต้หวัน” รอหลักฐานจากกล้องวงจรปิด 2 - 3 จุด อาจจะมีพลิก #อ้างถูกตำรวจไทยเรียกเงินกว่า 2 หมื่น”

จากนั้น เพจดาวแปดแฉกได้อัพเดตความคืบหน้าเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าตำรวจได้หลักฐานที่เป็นภาพวงจรปิดเพิ่มเติม ระบุว่า “ภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจนตั้งแต่ลงจากรถยนต์มาสด้า 2 สีแดง ตำรวจไม่ได้แตะตัว ไม่ได้ล้วงกระเป๋า ไม่ได้พาเดินเข้าซอย จนกระทั่งโบกเรียกรถแท็กซี่กลับเอง!? #เน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวันอ้างตำรวจเรียกเงิน” 


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/b604vV24Xz0

คุณอาจสนใจ

Related News