สังคม

จเรตำรวจ รับลูก ผบ.ตร. เข้มด่านตรวจ - คดีดาราไต้หวัน กล้อง 3 ตัว ฮาร์ดดิสก์ถูกทำลาย แต่กู้ได้

โดย passamon_a

4 ก.พ. 2566

27 views

ผบช.น. เผยผลตรวจกล้องติดหมวกตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านตรวจสกัด คดีดาราสาวไต้หวัน กล้อง 3 ตัว ฮาร์ดดิสก์ถูกทำลาย แต่กู้ภาพคืนมาได้ ด้าน ผบก.สส.นครบาล ขยายผลหาตำรวจร่วมขบวนการรายที่ 7-8 ขณะที่ จเรตำรวจ รับลูก ผบ.ตร. เข้มด่านตรวจ


เมื่อวันที่ 3 ก.พ.66 พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และชุดคลี่คลายคดีดาราสาวไต้หวัน ถูกตำรวจไทยเรียกรับเงิน เพื่อติดตามความคืบหน้าการขยายผลตรวจสอบในประเด็นต่าง ๆ ก่อนจะเปิดเผยว่า


เบื้องต้นได้รับรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานว่า สามารถกู้ภาพจากกล้องติดหมวกตำรวจที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในคืนวันเกิดเหตุได้แล้ว 3 ตัว จากการตรวจสอบยืนยันว่าภาพไม่ได้ถูกลบ หรือถูกอัดทับ แต่กลายเป็นว่า ฮาร์ดดิสก์ หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของกล้องถูกทำลาย จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษในการกู้ภาพกลับมา ซึ่งยืนยันว่าพบภาพที่ถูกบันทึกไว้จำนวนหลายชั่วโมง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า มีภาพขณะที่เกิดเหตุ หรือเห็นเหตุการณ์ขณะเรียกรับเงินหรือไม่


เบื้องต้นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง อยู่ระหว่างการนำภาพที่กู้คืนมาได้ไปตรวจสอบ หากพบลักษณะที่ชี้ให้เห็นได้ว่าเป็นการกระทำผิดจริง ก็จะนำเข้าสู่สำนวนคดีต่อไป


ด้าน พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ส่วนที่ฝ่ายสืบสวนกำลังดำเนินการตรวจสอบ คือ การหาความเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัยรายอื่น ๆ ซึ่งอาจมีรายที่ 7 และ 8 รวมถึงการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของตำรวจ สน.ห้วยขวาง ทั้ง 14 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในเวลานั้นทั้งหมด มาตรวจสอบเพื่อดูความผิดปกติ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า ตรวจสอบพบสิ่งใดหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่าหากผู้ต้องหามีการทำบางสิ่งบางอย่างที่คาดเดาไว้จริง จะยืนยันพฤติการณ์ "ร่วมกัน" ของกลุ่มผู้ต้องหาได้ทันที


ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า สกาย ชาวสิงค์โปร์ที่เป็นผู้จ่ายเงิน 27,000 บาท ให้การยืนยันว่า วันนั้นได้จ่ายเงินเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 27 ใบ ให้กับตำรวจที่ไม่สวมใส่เครื่องแบบ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพวงจรปิด เพื่อติดตามว่าเงินจำนวนดังกล่าว ถูกส่งต่อไปอยู่ที่ผู้ใด


ขณะที่ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ จตช. ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเด็ดขาดทั้งวินัย อาญา และปกครอง ตนจึงได้มีหนังสือสั่งการให้ พล.ต.ท.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ หัวหน้าจเรตำรวจ จัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ กองตรวจราชการ 1-10 จัดกำลังออกสุ่มตรวจการตั้งด่านตรวจของตำรวจทั่วประเทศ


พล.ต.อ.วิสนุ เปิดเผยว่า ตำรวจได้เคยมีข้อสั่งการในการกำหนดมาตรฐานการตั้งด่านตรวจของตำรวจไว้อย่างชัดเจน ตามหนังสือสั่ง ตร.ที่ 0007.22/1572 ลง 31 พ.ค.2564 เรื่องแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัด ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยการตรวจจะลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบด่านตรวจต่าง ๆ


"สิ่งที่ ผบ.ตร.กำชับคือ การแต่งกายแสดงตัวของตำรวจที่ชัดเจน การติดตั้งกล้อง Bodycam ติดตัว เจ้าหน้าที่เพื่อบันทึกภาพ และเสียงให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ที่สำคัญคือ การตั้งด่านตรวจเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและสังคมหรือไม่ มีการอนุมัติการตั้งจุดตรวจ ซึ่งเป็นอำนาจของผู้บังคับการขึ้นไปในการอนุมัติหรือไม่"


พล.ต.อ.วิสนุ บอกอีกว่า หากจุดตรวจไหนไม่มีมาตรฐาน มีการเรียกรับผลประโยชน์ จะมีการลงโทษ ผู้บังคับบัญชา และหัวหน้าสถานีตำรวจ ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจในการตรวจสอบควบคุมดูแล และผู้บังคับการตามลำดับ หากไม่มีมาตรการควบคุม กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด โดยให้รายงานผลภายใน 15 วัน


"การตั้งด่านตรวจ มีจุดประสงค์เพื่อลดอาชญากรรม สร้างความมั่นใจ เป็นที่พึ่งให้ประชาชน แต่ถ้าตั้งด่านตรวจแล้วกลับสร้างปัญหาและสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ตำรวจที่ตั้งด่าน และหัวหน้าหน่วย ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้จะลงพื้นที่ สุ่มตรวจด่านต่าง ๆ ทั่วประเทศด้วยตัวเอง"


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/iG1_pYMir50

คุณอาจสนใจ